Sanook คลุกข่าวเช้า 28 ม.ค. 63 ลุงหัวร้อนชนเพื่อนบ้านจนตาย อ้างทำเพราะถูกยั่วโมโห

Sanook คลุกข่าวเช้า 28 ม.ค. 63 ลุงหัวร้อนชนเพื่อนบ้านจนตาย อ้างทำเพราะถูกยั่วโมโห

Sanook คลุกข่าวเช้า 28 ม.ค. 63 ลุงหัวร้อนชนเพื่อนบ้านจนตาย อ้างทำเพราะถูกยั่วโมโห
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พบกันอีกครั้งกับสรุปข่าวสารยามเช้า วันนี้วันอังคารที่ 28 มกราคม 2563 ยังมีประเด็นหลายเรื่องให้ต้องติดตาม ก่อนจะว่ากันถึงเนื้อหาข่าว ขอย้ำอีกทีว่าคุณผู้อ่านสามารถเลื่อนขึ้นไปมองหาสัญลักษณ์ลำโพงเพื่อ กดฟัง แทนการอ่านได้นะครับ โดยระบบ AI จะอ่านตั้งแต่หัวข้อเรื่องไปจนถึงบรรทัดสุดท้าย เป็นบริการที่ทีมงานของ Sanook คิดค้นขึ้นมาเพื่อตอบสนองวิถีชีวิตยุคปัจจุบันที่ง่าย สะดวก และรวดเร็วครับ

  • สถานการณ์ไวรัสโคโรนายังน่าห่วง-ไทยรอจีนไฟเขียวไปรับประชาชนที่ติดค้างในอู่ฮั่น

ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากทั่วโลกที่ได้รับการยืนยันแล้วมีกว่า 2,900 ราย เสียชีวิต 82 ราย เมื่อช่วงเช้าในเวลาบ้านเรา สื่อต่างประเทศรายงานว่าทางการเยอรมนียืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกแล้ว

ส่วนที่บ้านเรา ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังคงอยู่ที่ 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นการติดเชื้อมาจากต่างประเทศ ยังไม่มีการแพร่ระบาดในประเทศไทย ขณะที่เมื่อวานนี้ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนถึงการรับมือกับ "ไวรัสโครนา" และ "ฝุ่น PM 2.5"

ซึ่งบิ๊กตู่ขอให้เชื่อมั่นมาตรการและแนวทางการรับมือกับปัญหาดังกล่าว ยืนยันว่าขณะนี้ไทยยังควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้อย่างเต็มที่ 100%

ขณะที่การจะส่งเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่เข้าไปรับคนไทยที่ติดค้างอยู่ในเมืองอู่ฮั่นนั้น กระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างประสานงานกับทางการจีนอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด หากได้รับอนุญาตเมื่อใดพร้อมจะบินไปรับได้ทุกเมื่อ

  • ลุงหัวร้อน ขับรถพุ่งชนเพื่อนบ้านจนดับ เข้ามอบตัวแล้ว อ้างทำไปเพราะเจอยั่วโมโห

จากกรณีที่เมื่อสองสามวันก่อนเกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้นที่ชายคนหนึ่งขับรถพุ่งชนชายอีกคนที่เป็นเพื่อนบ้านกันจนเป็นเหตุให้ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตนั้น

ล่าสุด นายไพบูลย์ อายุ 56 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจที่โรงพักเมืองอยุธยาซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมกับให้การรับสารภาพว่า ตนเองทำลงไปด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ที่ผ่านมามีปัญหาส่วนตัวกับผู้เสียชีวิต เรื่องของบ้านเรือนที่อยู่ใกล้เคียงกัน เปิดปิดประตูเสียงดัง ทำอะไรเสียงดังโครมคราม จอดรถ วางสิ่งของกีดขวางเรื่อยมา

จนวันเกิดเหตุตนเองเดินออกมาหน้าบ้าน เพื่อจะไปรับจ้างขับรถ พอตนมายืนอยู่หน้าบ้าน ผู้เสียชีวิตฉีดน้ำมาทางตนเอง พอตนมองหน้า ผู้เสียชีวิตก็ยักคิ้วใส่ จนตนโมโหอย่างมาก ช่วงนั้นยังไม่คิดอะไร แต่พอเห็นผู้เสียชีวิตยังหันหน้ายักคิ้วใส่ตนอีกครั้ง จึงเกิดความโมโหสุดที่จะทน เกิดอารมณ์ชั่ววูบจึงตัดสินใจขับรถพุ่งเข้าชนอย่างแรง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำเด็ดขาด

  • อัยการแจงสั่งไม่ฟ้อง "ชัยวัฒน์" ข้อหาฆ่าอำพราง "บิลลี่" เพราะหลักฐานไม่พอ

เมื่อวานนี้ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งโต๊ะแถลงถึงสาเหตุที่อัยการตัดสินใจไม่สั่งฟ้อง นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ระหว่างปี 2551-2557 กับลูกน้องอีก 3 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวทำร้าย และร่วมกันฆ่าอำพรางศพ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ อายุ 31 ปี นักเคลื่อนไหวชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย จ.เพชรบุรี ที่หายตัวไปตั้งแต่ปี 2557 แต่ฟ้องเพียงข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีจับกุมนายบิลลี่ลักของป่าหรือน้ำผึ้ง แต่ปล่อยตัวไปทั้งที่ต้องนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

โดยคณะทำงานในฝั่งอัยการได้พิจารณาสำนวนคดีอย่างละเอียดแล้วพบว่า พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอ และยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหาฆ่านายบิลลี่เมื่อใด ที่ไหน อย่างไร

ขณะที่ประเด็นการตรวจพิสูจน์กระดูกโดยใช้การตรวจแบบไมโทคอนเดรียนั้น ทางอัยการมองว่าเป็นเพียงการพิสูจน์ทราบให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในสายของมารดากับยายเท่านั้น ไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลได้ เหมือนการตรวจนิวเคลียส แต่ประเด็นนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอออกมาแย้งอัยการว่า วิธีดังกล่าวมีการใช้กันหลายประเทศทั่วโลก เป็นวิธีพิสูจน์ที่มีมาตรฐาน

ส่วนนางพิณนภา พฤกษพรรณ หรือมึนอ ภรรยาของนายบิลลี่ กล่าวหลังฟังคำชี้แจงจากอัยการว่า พอจะเข้าใจเหตุผล แต่หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ก็จะพิจารณาสำนวนและเป็นโจทก์ยื่นฟ้องด้วยตนเอง

  • มาร์กี้ ราศรี ถูกกักตัวที่ฮ่องกง เหตุ ตม. สงสัยเข้ามาเพื่อค้าประเวณี?

เรียกได้ว่างานเข้าก็คงจะไม่ผิดนัก เมื่อดาราสาวชื่อดัง มาร์กี้ ราศรี อุตส่าห์หอบเอาสามี ป๊อก ภัสสรกรณ์ พร้อมทีมงาน เดินทางไปไหว้พระที่ฮ่องกง แต่ปรากฏว่าดันเจอเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม. ของฮ่องกง เรียกเก็บพาสปอร์ตและกักตัวเอาไว้

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปสอบถามถึงอาชีพการงาน ซึ่งทาง ป๊อก ภัสสรกรณ์ ตอบไปว่าทั้งคู่เป็นยูทูบเบอร์ พร้อมทั้งเปิดคลิปที่เคยผลิตเผยแพร่ให้เจ้าหน้าที่ดู เลยทำให้ผ่านมาได้ด้วยดี

ทั้งนี้ หนุ่มป๊อก ยังเล่าแบบติดตลกถึงเหตุผลที่ถูก ตม. กักตัวในครั้งนี้ด้วยว่า ไม่น่าจะใช่ประเด็นยาเสพติดหรือค้าของเถื่อน แต่น่าจะเป็นการสงสัยว่าพากันมาค้าประเวณีหรือเปล่า

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องติดตามกันต่อเนื่องก็มีอาทิเช่น

  • กระแสข่าวที่ว่าบิ๊กโจ๊กขอลางานจากต้นสังกัดเพื่อบินไปบวชทดแทนพระคุณพ่อแม่ที่อินเดีย ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวของเจ้าตัวหลังจากมีคำสั่งประกาศิตของนายกฯ ออกมาเมื่อวันก่อนเพื่อกำชับเรื่องความประพฤติ
  • การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญกรณีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 63 ที่พบว่ามี ส.ส.เสียบบัตรเพื่อลงคะแนนเสียงแทนกัน จะเป็นโมฆะหรือไม่
  • ผู้คนทั่วทุกวงการต่างแสดงความไว้อาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของ โคบี ไบรอันท์ หนึ่งในตำนานยัดห่วงของโลก ที่เสียชีวิตจากอุบัติเฮลิคอปเตอร์ตก

รวมไปถึงเนื้อหาสาระต่างๆ มากมายที่ sanook.com แล้วพบกันใหม่พรุ่งนี้ครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook