"นักข่มขืน" ถูกพิพากษาคุกตลอดชีวิต หลังมอมยา-ข่มขืน ชายกว่า 136 คน

"นักข่มขืน" ถูกพิพากษาคุกตลอดชีวิต หลังมอมยา-ข่มขืน ชายกว่า 136 คน

"นักข่มขืน" ถูกพิพากษาคุกตลอดชีวิต หลังมอมยา-ข่มขืน ชายกว่า 136 คน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เรนฮาร์ด ซินากา หรือ เรย์ ชายชาวอินโดนีเซีย วัย 36 ปี ถูกศาลอังกฤษตัดสินจำคุกตลอดชีวิตเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเงื่อนไขให้จำคุกขั้นต่ำ 30 ปี จึงจะสามารถขอลดหย่อนโทษได้ หลังพบหลักฐานบ่งชี้ว่า ซินากาก่อเหตุมอมยา ข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศชายอย่างน้อย 136 คน ในเวลากว่า 2 ปี ทั้งยังบันทึกภาพและคลิปวิดีโอขณะก่อเหตุอีกเป็นจำนวนมาก

สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ เอียน รัชตัน หนึ่งในอัยการของรัฐที่เป็นผู้รับผิดชอบคดี ระบุว่า กรณีของซินากาเป็นการก่อเหตุข่มขืนที่มีผู้เสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของอังกฤษ โดยเขาถูกตัดสินจำคุกจากความผิด 159 กระทง เกี่ยวพันกับการข่มขืนเหยื่ออย่างน้อย 136 ราย แต่มีเพียง 48 รายที่ขึ้นให้ให้การในชั้นศาล แต่เจ้าหน้าที่อาศัยหลักฐานเพิ่มเติมจากโทรศัพท์มือถือของซินากา รวมถึงดีวีดี 250 แผ่น และภาพนิ่งในอุปกรณ์ต่างๆ ของซินากาอีกราว 300,000 รูป ในการสอบสวนเพิ่มเติม

รอยเตอร์สระบุว่า ซินากามักเลือกเหยื่อที่เป็นลูกค้าของผับหรือบาร์ในเมืองแมนเชสเตอร์ โดยเลือกชวนเหยื่อผู้ชายที่อยู่ในสภาพมึนเมาอยู่แล้วไปพักที่ห้อง หรือบางรายก็ชวนไปดื่มเหล้าต่อ เมื่อไปถึงที่หมายก็จะนำน้ำผสมยาที่มีฤทธิ์ต่อประสาทให้เหยื่อกิน เพื่อให้เหยื่อไม่รู้สึกตัว และจำอะไรไม่ได้เลยเมื่อตื่นขึ้นในวันถัดมา เหยื่อหลายรายจึงคิดว่าพวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากซินากา ไม่ให้นอนหมดสติอยู่ข้างถนน แต่เหยื่อรายสุดท้ายซึ่งเป็นชายวัย 18 ปี รู้สึกตัวตื่นขณะที่ซินากากำลังลงมือก่อเหตุ จึงต่อสู้ขัดขืนและทำร้ายซินากาจนบาดเจ็บ 

ในตอนแรก ตำรวจจับกุมชายผู้ถูกล่วงละเมิดทางเพศในข้อหาทำร้ายร่างกาย เพราะชายคนดังกล่าวโทรศัพท์แจ้งเหตุกับหน่วยฉุกเฉิน แต่เมื่อตำรวจสอบปากคำเพิ่มเติมจึงพบเบาะแสการก่อเหตุละเมิดทางเพศของซินากา นำไปสู่การสอบสวนเพิ่มเติม และพบว่าซินากาก่อเหตุกับเหยื่อตั้งแต่เดือน ม.ค.2015 จนถึงเดือน มิ.ย.2017 ทั้งยังเคยคุยโอ้อวดกับกลุ่มสนทนาในแอปพลิเคชัน WhatsApp ว่าเขาเปลี่ยนใจผู้ชายที่ชอบผู้หญิงให้มารักเกย์ได้

อย่างไรก็ตาม ซินากาปฏิเสธข้อกล่าวหาข่มขืนระหว่างให้การในศาล โดยระบุว่าตนเองไม่เคยปิดบังว่าเป็นเกย์ ทั้งยังมีภาพลักษณ์แบบ เลดี้บอย ผู้ที่ปรากฏตัวอยู่ในคลิปล้วนเป็นฝ่ายเข้าหาตนเองก่อนเพื่อมีเพศสัมพันธ์แบบสมยอม ทำให้ทนายความฝ่ายโจทก์ต้องนำคลิปวิดีโอขณะก่อเหตุมาเปิดให้คณะลูกขุนพิจารณา และพบว่าผู้ถูกล่วงละเมิดอยู่ในสภาพหมดสติ ซึ่งซินากาอ้างว่าเหยื่อทั้งหมดแกล้งทำเป็นหลับ และไม่กล้ายอมรับความจริงว่าเป็นชายรักชาย แต่ผู้พิพากษาระบุว่า คำให้การดังกล่าวขัดแย้งกับสภาพของเหยื่อที่อยู่ในคลิปวิดีโอ ซึ่งไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลย

คนดีในความทรงจำ

ซินากาเป็นชาวอินโดนีเซียที่นับถือศาสนาคริสต์ และมาเรียนต่อที่อังกฤษ ขณะมีอายุได้ 24 ปี โดยเขาเลือกเรียนต่อระดับปริญญาโท สาขาสังคมวิทยา ที่มหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์เมื่อปี 2007 ก่อนจะเรียนต่อระดับปริญญาเอกด้านภูมิศาสตร์มนุษย์ที่มหาวิทยาลัยลีดส์ในปี 2012 และส่งวิทยานิพนธ์ว่าด้วยพฤติกรรมของชายรักชายในเอเชียใต้เมื่อปี 2016 แต่ไม่ผ่านการพิจารณา จนกระทั่งถูกจับกุมและดำเนินคดีในปี 2017 โดยที่ครอบครัวชองเขามาร่วมฟังการพิจารณาคดีครั้งแรกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

เว็บไซต์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า ซินากาไปโบสถ์แห่งหนึ่งในแมนเชสเตอร์เป็นประจำ และคนรู้จักหลายคนมองว่าเขาเป็นคนสุภาพ ไม่มีพิษมีภัย ตอนแรกที่เขาถูกจับกุม มีคนให้สัมภาษณ์ว่า "น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิด" จนกระทั่งตำรวจพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง รวมถึงคำให้การของผู้เป็นเหยื่อรายสุดท้ายซึ่งถูกมอมยา ทำให้หลายคนรู้สึกตกใจและคาดไม่ถึง

คนรู้จักบางรายให้ข้อมูลว่า ซินากาเคยปรึกษาเรื่องการขอสถานะผู้ลี้ภัยในอังกฤษ โดยให้เหตุผลว่าการเป็นเกย์ในอินโดนีเซียเป็นเรื่องที่คนในสังคมไม่ยอมรับและอาจเป็นอันตรายได้ แต่ไม่มีการเปิดเผยข้อมูลว่าซินากายื่นเรื่องขอสถานะผู้ลี้ภัยจริงหรือไม่ ส่วนเพื่อนอีกรายหนึ่งให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ซินากาไม่ได้ทำงานอย่างจริงจัง แต่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบายในอังกฤษ คาดว่าเป็นเพราะได้รับเงินส่งเสียจากพ่อซึ่งเป็นนายธนาคารอยู่ในอินโดนีเซีย

ส่วนตำรวจที่รับผิดชอบคดีนี้ อาศัยข้อมูลจากคลิปวิดีโอและภาพต่างๆ ติดตามไปสอบปากคำเหยื่อของซินากาเพิ่มเติม พบว่าเหยื่อทั้งหมดไม่รู้ตัวว่าถูกข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิด บ่งชี้ว่าซินากาวางแผนไว้ล่วงหน้า โดยเลือกเหยื่อที่มีอาการมึนเมาดื่มสุราอยู่ก่อนแล้ว เมื่อพาเหยื่อไปถึงที่พักก็จะให้ดื่มน้ำผสมยาที่ออกฤทธิ์ใกล้เคียงกับสาร GHB ซึ่งเหยื่อจะไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งวันถัดมา หรือประมาณ 24 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ

ระหว่างที่เหยื่อหมดสติ ซินากาจะลงมือก่อเหตุและอัดคลิปวิดีโอหรือถ่ายภาพเป็นหลักฐาน เมื่อเหยื่อรู้สึกตัวในเวลาถัดมา มักจะมีอาการเมาค้าง หรือไม่สบาย รวมถึงมีคราบอาเจียนเปรอะเปื้อนตัว ซึ่งซินากาจะบอกว่าเหยื่อเมามาก เขาจึงพามาพักที่ห้องให้สร่างเมา เหยื่อบางคนจึงจำซินากาได้ในฐานะ ผู้มีน้ำใจที่คอยช่วยเหลือคนอื่น และไม่รู้ตัวมาก่อนว่าถูกล่วงละเมิด เมื่อได้รู้ความจริงจึงได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างมาก

เหยื่อหลายรายระบุว่า พวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมากเมื่อรู้ความจริงว่าถูกข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยซินากา เช่น ชายคนหนึ่งซึ่งตกเป็นเหยื่อของซินากาขณะยังเป็นวัยรุ่น บอกกับเดอะการ์เดียนว่า ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อได้รู้ความจริง ทำให้เขาไม่อยากพบเจอผู้คน และต้องพึ่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนคณะลูกขุนที่ได้ดูคลิปวิดีโอการก่อเหตุต้องเข้ารับการบำบัดจากนักจิตวิทยาเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook