หนุ่มเชียงใหม่ซวย อ้างเบิกเงินธนาคาร เจอแบงก์ปลอมสอดไส้ แต่ตรวจสอบไม่ได้

หนุ่มเชียงใหม่ซวย อ้างเบิกเงินธนาคาร เจอแบงก์ปลอมสอดไส้ แต่ตรวจสอบไม่ได้

หนุ่มเชียงใหม่ซวย อ้างเบิกเงินธนาคาร เจอแบงก์ปลอมสอดไส้ แต่ตรวจสอบไม่ได้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่จังหวัดเชียงใหม่ โพสต์เล่าเหตุการณ์หลังไปเบิกเงินสดจากธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวานนี้ ( 25 ธ.ค.) แต่ปรากฎว่า เมื่อนำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากที่ตู้รับฝากอัตโนมัติของอีกธนาคารหนึ่ง กลับพบว่ามีธนบัตรปลอมปะปนมาหนึ่งใบ 

ล่าสุดหนุ่มพนักงานส่งอาหาร อายุ 27 ปี ที่เป็นผู้เสียหาย เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า เวลาประมาณ 10.00 น. วานนี้ ( 25 ธ.ค.) ตนเองได้ไปเบิกเงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง ที่สาขาในตัวเมืองเชียงใหม่ จำนวน 9,000 บาท เพราะตั้งใจจะนำเงินดังกล่าว ย้ายไปฝากอีกธนาคารหนึ่ง โดยได้นำสมุดไปเบิกผ่านหน้าเคาน์เตอร์กับพนักงานตามปกติ หลังรับเงินเรียบร้อยแล้วก็ออกจากธนาคารแล้วไปทำงานต่อทันที

กระทั่งช่วงค่ำหลังเลิกงานเวลาประมาณ 21.00 น. ได้นำเงินที่เบิกมาจำนวน 9,000 บาท  เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 9 ใบ ไปฝากกับอีกธนาคารหนึ่งผ่านตู้อัตโนมัติ ในห้างแห่งหนึ่ง สาขาหางดง อ.หางดง แต่ปรากฎว่าตู้ได้คืนธนบัตรที่นำฝากกลับมา 1 ใบ จึงหยิบมาตรวจสอบก็พบว่าเป็นธนบัตรปลอม เพราะไม่มีแถบสีเงินสะท้อนแสง แถมยังเป็นกระดาษที่ถ่ายเอกสารมา

หลังแน่ใจว่าเป็นธนบัตรปลอมรู้สึกตกใจมาก เพราะเป็นธนบัตรที่ได้มาจากธนาคาร จึงโพสต์เรื่องในเฟซบุ๊ก เพื่อขอคำแนะนำว่าต้องทำอย่างไร เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน จนได้รับคำแนะนำให้กลับไปติดต่อธนาคารที่เบิกเงินมา

 ช่วงเช้าวันนี้ ( 25 ธ.ค.) ตนเองจึงนำธนบัตรปลอมที่ใส่ซองพลาสติกไว้กลับไปยังธนาคารเพื่อสอบถาม ได้รับคำยืนยันว่า ไม่ใช่ธนบัตรที่จ่ายออกจากระบบของธนาคารอย่างแน่นอน   เพราะธนาคารมีระบบตรวจสอบที่ได้มาตรฐานและรัดกุม  ตนเองจึงเดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ และไปติดต่อที่ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เพื่อขอคำแนะนำ

ผู้เสียหายรายนี้ บอกว่า  ทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่ของแบงก์ชาติ แจ้งว่า เรื่องนี้ตรวจสอบได้ค่อนข้างยาก  เพราะช่วงเวลาทิ้งห่างหลายชั่วโมง แต่หากต้องการเดินเรื่องเพื่อเรียกค่าเสียหายจากทางธนาคาร ก็อาจไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรม หรือ ว่าจ้างทนายเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งตนเห็นว่าขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยากและเสียเวลา  รวมทั้งเจตนาที่นำเรื่องไปโพสต์และไปแจ้งความ  เพราะต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจเท่านั้น เนื่องจากทราบว่าการครอบครองแบงก์ปลอมมีความผิดตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตัวเองสะเพร่าเองที่ไม่ตรวจสอบให้รอบคอบหลังรับเงินที่เบิกมา  แต่ส่วนหนึ่งเพราะมั่นใจในระบบของสถาบันการเงิน  ต่อไปจึงอยากให้สถาบันการเงินตรวจสอบให้รอบคอบ เพราะอาจมีธนบัตรปลอมเล็ดลอดเข้ามาในระบบ  ขณะเดียวกันฝากถึงประชาชนทั่วไป หากไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ธนาคาร  ทั้งการเบิกหรือถอนเงิน  ก็ควรตรวจสอบให้รอบคอบทุกครั้งก่อนจะออกมาจากธนาคาร เพราะหากเจอกรณีเช่นเดียวกับตนเองจะแก้ไขได้ทัน

เมื่อถามว่า จะดำเนินคดีกับธนาคารหรือไม่ หนุ่มส่งอาหาร บอกว่า เรื่องคดีความคงจะไม่ดำเนินการใดๆต่อ  เพราะไม่อยากเสียเวลา

ขณะที่ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ ที่สาขาของธนาคารที่หนุ่มส่งอาหารรายนี้ไปเบิกเงิน ได้รับคำยืนยันว่า ธนาคารมีระบบตรวจสอบที่มีมาตรฐานรัดกุม ธนบัตรที่รับหรือจ่ายให้ลูกค้า จะต้องตรวจนับโดยเจ้าหน้าที่ หรือเครื่องทุกครั้ง เพื่อให้ครบจำนวน และ ตรวจสอบด้วยว่าธนบัตรชำรุดเสียหาย หรือ เป็นธนบัตรปลอมหรือไม่ หากชำรุดมีรอยฉีกขาดก็จะไม่จ่ายให้กับลูกค้าอยู่แล้ว  ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ให้บริการอยู่หน้าเคาเตอร์มีความชำนาญในการตรวจนับ และ คัดแยกธนบัตร หากเป็นธนบัตรปลอมก็จะรู้ได้ทันที 

ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับลูกค้ารายนี้ ได้ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดแล้วพบว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจนับธนบัตรต่อหน้าลูกค้าครบตามจำนวนทุกฉบับ และทุกฉบับมีแถบสีเงินสะท้อนแสง อย่างไรก็ตามหากลูกค้าได้ไปแจ้งความแล้ว ธนาคารก็พร้อมจะให้มีการตรวจสอบในทุกขั้นตอน โดยจะรอให้ทางตำรวจส่งหนังสือแจ้งมายังธนาคารอีกครั้ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook