ตำรวจทางหลวงเคลียร์ดราม่า "ปะทะคารมกระบะ" ปัดเจาะยางรถระเบิด

ตำรวจทางหลวงเคลียร์ดราม่า "ปะทะคารมกระบะ" ปัดเจาะยางรถระเบิด

ตำรวจทางหลวงเคลียร์ดราม่า "ปะทะคารมกระบะ" ปัดเจาะยางรถระเบิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจทางหลวงรัตภูมิ ชี้แจงกรณีคลิปดราม่าเจ้าหน้าที่ปะทะคารมกับคนขับรถกระบะขนพริก ล่าสุดจบลงด้วยดีทั้งสองฝ่าย ยืนยันเป็นการขอตรวจค้นปกติ ปัดเจาะยางให้ระเบิด

(3 ธ.ค.) จากกรณีคลิปอื้อฉาวเหตุปะทะคารมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง พื้นที่ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา กับคนขับรถกระบะบรรทุกพริก บริเวณป้อมจุดตรวจพรุพ้อ ถนนสายเอเชีย เป็นเหตุทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับข้อเท็จจริงของภาพที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงท้ายคลิปที่เหตุยางระเบิดดังสนั่น มีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่เจาะยางรถหรือไม่

ล่าสุด ร.ต.อ.ชัยรัตน์ หนูละออง รอง สว.สทล.3กก.7 บก. ตำรวจทางหลวง ซึ่งทำหน้าที่ร้อยเวรในวันเกิดเหตุ ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เหตุเริ่มขึ้นหลังจากเรียกตรวจค้นรถกระบะคันหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงเพื่อตรวจสอบรถเป้าหมายที่อาจจะซุกซ่อนสิ่งผิดกฎหมายเอาไว้ ตามที่ได้รับรายงานว่าจะมีการซุกซ่อนมากับรถขนสินค้า
แต่การตรวจค้นอาจจะทำให้เสียเวลา และทำให้คนขับไม่พอใจ รวมทั้งไม่เข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้ทางตำรวจทางหลวงทางหลวง 3 ได้มีการตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ทั้งตำรวจคู่กรณีและตำรวจทางหลวงทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ขณะเกิดเหตุว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรและเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุหรือไม่

>> เดือดหน้าด่าน "ตำรวจทางหลวง" ปะทะคารมคนขับกระบะ ก่อนเสียงบึ้มดังสนั่

โดยเฉพาะเหตุยางระเบิด ซึ่งมีการตั้งข้อสงสัยว่าโดนตำรวจเจาะล้อยางหรือไม่ ซึ่งจากการสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าตำรวจนายดังกล่าวปฏิเสธไม่ได้เจาะ พร้อมแจ้งว่าเป็นอุบัติเหตุล้อยางระเบิด ในช่วงที่นายตำรวจกำลังก้มดูใต้ท้องรถพอดี ทำให้ได้รับแรงกระแทกและมีอาการแน่นหน้าอก และเจ็บที่แขน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนนี้อาการปลอดภัยดีแล้ว

ร.ต.อ.ชัยรัตน์ ยังกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุตำรวจทางหลวงได้ให้การช่วยเหลือรถกระบะขนพริกคันนี้ต่อไป โดยใช้เวลาอีกไม่เกิน 10 นาที ก็นำยางอะไหล่มาเปลี่ยนให้ทั้ง 2 เส้น คิดเป็นเงิน 8,700 บาท และสามารถขับรถไปส่งพริกได้ทันเวลา และได้มีการไปพูดคุยกับเถ้าแก่ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและเข้าใจตรงกัน ซึ่งพริกที่บรรทุกมาไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและคนขับรถกระบะได้พูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่แล้ว ทั้งสองฝ่ายพอใจและต้องการให้เรื่องจบลงด้วยดี ขณะที่ในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจทางหลวงที่กลายเป็นคลิปภาพออกมานั้น หากพบว่าผลการสอบสวนมีความผิดก็จะดำเนินการทางวินัย โดยไม่ละเว้นเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook