อย่าวางใจรถ หนุ่มโดนรถไหลทับร่างสาหัส ผงะพบใส่เกียร์ไม่ตรงกัน

อย่าวางใจรถ หนุ่มโดนรถไหลทับร่างสาหัส ผงะพบใส่เกียร์ไม่ตรงกัน

อย่าวางใจรถ หนุ่มโดนรถไหลทับร่างสาหัส ผงะพบใส่เกียร์ไม่ตรงกัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อุทาหรณ์เตือนใจ "อย่าวางใจรถตัวเอง" หนุ่มแวะจอดปั๊มน้ำมัน ใส่เกียร์ P ก่อนจะมุดใต้ท้องรถเช็กช่วงล่าง ปรากฏรถไหลทับร่างเจ็บสาหัส ตำรวจดูที่หน้าปัดระบุเป็นเกียร์ D

(1 พ.ย.) ร.ต.อ.อนันต์ เฉลิมวัฒนากร รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านบึง ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึงว่า เกิดอุบัติเหตุภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับสี่แยกหนองปรือ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบพลเมืองดีกำลังพยายามช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บคือ นายภควัต อายุ 36 ปี ออกมาจากใต้ท้องรถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีน้ำตาลเข้ม พบร่องรอยบาดแผลที่ชายโครงซ้าย ลักษณะถูกล้อรถเหยียบทับ และมีอาการหายใจติดขัด แน่นหน้าออก เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงทำช่วยกันปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง

จากการสอบถามภรรยาของผู้บาดเจ็บ ที่ยังอยู่ในอาการตกใจ เล่าว่า ตนเดินทางกลับมาจากเยี่ยมญาติที่จังหวัดระยอง และกำลังจะกลับบ้านที่จังหวัดนครปฐม ระหว่างทางอยากแวะทำบุญ โดยใช้เส้นทางถนนทางหลวงสาย 331 ที่มีการปรับปรุงซ่อมแซมรถที่ขับมาตกหลุมหลายครั้ง จึงได้ตัดสินใจแวะเข้าปั๊ม เพื่อแวะเข้าห้องน้ำ

ขณะที่สามีได้จอดรถเอาไว้ที่ด้านหน้าห้องน้ำ โดยตรงที่จอดรถมีแท่งคอนกรีตกั้นกันรถไหลชนทางเท้าเอาไว้ ก่อนจะลงจากรถไปแต่ไม่ได้ดับเครื่องยนต์ หลังจากนั้นขณะที่ตนยังไม่ทันที่จะทำธุระส่วนตัวเสร็จ ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบออกมาดู ก็พบว่าสามีถูกรถไหลทับร่างยู่ จึงตะโกนเรียกให้คนละแวกนั้นเข้ามาช่วย

24carsmashman-1เกียร์ใส่เอาไว้ในตำแหน่ง P แต่หน้าปัดโชว์เป็นเกียร์ D

ขณะที่ นายภควัต เปิดเผยว่า ตอนขับรถมาตนสังเกตเห็นความผิดปกติที่ระบบเกียร์ จึงได้แวะจอดรถตรวจสอบดู ก่อนลงจากรถได้ดันเกียร์เอาไว้ที่ตำแหน่ง P แล้ว จากนั้นจึงได้มุดลงไปดูที่ใต้ท้องรถ ในลักษณะลำตัวขวางกับตัวรถพอดี แต่อยู่ๆ รถก็เคลื่อนตัวไปทางด้านหน้า และล้อหลังเหยียบทับร่างตนอย่างจัง จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่รถก็ไหลปีนขึ้นไปบนแท่งคอนกรีต และพุ่งชนกับทางเท้าด้านหน้าห้องน้ำ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบเกียร์รถ พบว่าตำแหน่งเกียร์เลื่อนไปอยู่กับตำแหน่ง P ก็จริง แต่ตำแหน่งเกียร์ที่หน้าปัดรถกลับบอกว่าเป็นตำแหน่งเกียร์ที่ตำแหน่ง D สร้างความมึนงงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม รถคันดังกล่าวได้ขับใช้งานได้ราวๆ 7 ปี เหตุครั้งนี้จึงได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ไม่ควรประมาทไว้วางใจกับรถ เคราะห์ดีที่ไม่ได้รับอันตรายถึงสาหัส หากไม่มีความเชี่ยวชาญควรจะเรียกช่างมาดู เพื่อความปลอดภัยของตนเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook