สื่อวิพากษ์พิธีสาบานตน ผู้นำอินโดฯ สมัยที่ 2 "ไม่มีอะไรให้เฉลิมฉลอง"
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1585/7929067/06indopresidentspell.jpgสื่อวิพากษ์พิธีสาบานตน ผู้นำอินโดฯ สมัยที่ 2 "ไม่มีอะไรให้เฉลิมฉลอง"

    สื่อวิพากษ์พิธีสาบานตน ผู้นำอินโดฯ สมัยที่ 2 "ไม่มีอะไรให้เฉลิมฉลอง"

    2019-10-21T10:20:52+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    "โจโก วิโดโด" สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย สมัยที่ 2 โดยสั่งงดพิธีสวนสนาม-งานฉลองทางวัฒนธรรม เพื่อลดแรงกดดันของกลุ่มผู้ไม่พอใจผลการเลือกตั้งที่ประท้วงต่อต้านการรับตำแหน่งใหม่ครั้งนี้

    นายโจโก วิโดโด หรือ "โจโกวี" วัย 58 ปี เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ตุลาคม 2562 หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งรับรองชัยชนะของโจโกวีในการเลือกตั้งทั่วประเทศที่จัดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

    พิธีสาบานตนในครั้งนี้ไม่มีการเดินสวนสนามและไม่มีการเฉลิมฉลองด้านวัฒนธรรม มีเพียงกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐและฝ่ายสนับสนุนนายโจโกวีจำนวนหนึ่งที่ได้รับอนุญาตให้ชูป้ายและเดินขบวนเชิญธงชาติอินโดนีเซียก่อนถึงพิธีสาบานตน ทั้งยังมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงและตำรวจปราบปรามจลาจลกว่า 30,000 นาย เพราะก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ต่อต้านนายโจโกวีประกาศว่าจะรวมตัวเดินขบวนคัดค้านพิธีสาบานตน

    สาเหตุที่ทำให้มีผู้คัดค้านโจโกวีมาจากหลายปัจจัย โดยการเดินขบวนครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน เกิดจากความไม่พอใจที่รัฐบาลภายใต้การนำของโจโกวีร่างกฎหมายบางฉบับ เช่น ร่างกฎหมายห้ามหญิงและชายอยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงาน และการปรับแก้กฎหมายต่อต้านการทุจริต ที่ส่อเค้าว่าอาจจะลดอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติอินโดนีเซีย (KPK) ทำให้กลุ่มนักศึกษารวมตัวต่อต้าน

    ผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งออกมาเดินขบวนเพราะรู้สึกว่าโจโกวีได้กลายเป็นนักการเมืองทั่วๆ ไปที่ไม่ทำตามคำมั่นสัญญาเรื่อง 'การปฏิรูประบบการปกครอง' ต่างจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 ที่เขาระบุว่าตัวเองเป็นพลเรือนที่ไม่มีเครือข่ายอำนาจโยงใย และประกาศตัวลงสนามการเมืองเพื่อปฏิรูปประเทศ ทำให้ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน

    นอกจากนี้ยังมีกรณีประชาชนพื้นเมืองในปาปัวตะวันออก รวมตัวต่อต้านเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานความมั่นคงที่นำกำลังเข้าขับไล่ชาวบ้านออกจากที่ดินทำกิน โดยระบุว่าบริเวณดังกล่าวถูกเวนคืนเพื่อนำไปใช้ในโครงการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน นำไปสู่การปะทะรุนแรงและมีผู้เสียชีวิตนับสิบคน และเจ้าหน้าที่ระบุด้วยว่าเป็นการตอบโต้และปราบปรามกลุ่มกบฎในพื้นที่ซึ่งโจมตีคนงานในโครงการก่อสร้างถนนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

    ส่วนประชาชนที่สนับสนุนนายปราโบโว ซูเบียนโต คู่แข่งของโจโกวีในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เคยชุมนุมประท้วงรุนแรงเมื่อเดือนพฤษภาคม เพราะไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้งซึ่งระบุว่าโจโกวีได้คะแนนเสียง 55.5 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิทั้งหมด ส่วนปราโบโวได้คะแนนเพียง 44.5 เปอร์เซ็นต์ จนมีผู้กล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้น ก่อนที่ กกต.ของอินโดนีเซียจะประกาศยืนยันผลคะแนนอย่างเป็นทางการ

    ด้วยเหตุดังกล่าว ทำให้สื่อหลายสำนัก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ มองว่าการสาบานตนรับตำแหน่งสมัยที่ 2 ของโจโกวี ไม่มีเรื่องให้เฉลิมฉลองมากนัก และยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่รอการแก้ไข ขณะที่โจโกวีประกาศว่า รัฐบาลของเขาจะสานต่อโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและคมนาคม รวมถึงเสนอนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยต่างๆ แต่โครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้เช่นกันว่า เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนต่างชาติมากกว่าคนในประเทศ เช่น โครงการรถไฟความเร็วปานกลางที่ได้รับการสนับสนุนจากจีน

    อย่างไรก็ตาม บุคคลสำคัญจากประเทศต่างๆ ยังเดินทางไปร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีสาบานตนของโจโกวีกันอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ออสเตรเลีย และประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู)