กระทรวงศึกษาฯ ตั้งศูนย์รับมือ PM 2.5 นำร่องติดเครื่องกรองใน 37 โรงเรียนทั่ว กทม.

กระทรวงศึกษาฯ ตั้งศูนย์รับมือ PM 2.5 นำร่องติดเครื่องกรองใน 37 โรงเรียนทั่ว กทม.

กระทรวงศึกษาฯ ตั้งศูนย์รับมือ PM 2.5 นำร่องติดเครื่องกรองใน 37 โรงเรียนทั่ว กทม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันนี้ (1 ตุลาคม 2562) นายไกรเสริม โตทับเที่ยง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับนายพีระพล พูลทวี รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายพีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ แถลงแนวทางการแก้ปัญหาสถานการณ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐานของกระทรวงศึกษาธิการ ณ ห้องประชุมจันทรเกษม อาคารราชวัลลภ

นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินค่ามาตรฐานในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดจากมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาในประเทศไทย กดทับชั้นบรรยากาศเป็นลักษณะโดม ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันในกรุงเทพฯ มีจำนวนรถยนต์ดีเซลที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์อยู่เป็นจำนวนมาก จึงก่อให้เกิดการสะสมฝุ่นละออง PM 2.5 สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

จากการรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบว่า มีค่าเกินมาตรฐานจำนวน 15 สถานี จากสัปดาห์ที่แล้วจำนวน 33 สถานี และมีแนวโน้มลดลงเรื่อย ๆ เนื่องจากมีลมฝนจากประเทศฟิลิปปินส์พัดเข้ามา ช่วยให้ฝุ่นสะสมลดลงได้ เชื่อมั่นว่าจากวันนี้เป็นต้นไปสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จะดีขึ้นตามลำดับและกลับเข้าสู่สภาวะปกติเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ ฝุ่นละออง PM 2.5 มีอยู่ในอากาศทุกวัน เพียงแต่มีปริมาณต่ำกว่ามาตรฐานและไม่มีมวลอากาศเย็นมากดทับ จึงไม่เกิดการสะสม อย่างไรก็ตามกรมควบคุมพิษจะดำเนินการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมรับมือกับฝุ่นละออง PM 2.5ที่จะกลับมาสะสมเพิ่มในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม ต่อไป

นายพีระพล พูลทวี รองเลขาธิการ กอศ. กล่าวว่า สอศ.ได้ประดิษฐ์เครื่องกรองอากาศต้นแบบฝีมือนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา วิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี และวิทยาลัยเทคนิคสุพรรณบุรี โดยนำอากาศมากรองผ่านน้ำ, กรองผ่านระบบพัดลมกรองอากาศ และกรองด้วยระบบกรองอากาศรถยนต์ ซึ่งทั้ง 3 ระบบเป็นกลไกที่ไม่ซับซ้อน ใช้งานกับพื้นที่ปิด เช่น ห้องเรียนหรือห้องประชุมได้อย่างดี สามารถกรองอากาศให้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ลดลงเหลือที่หลักสิบถึงหลักหน่วยได้ และต้นทุนการผลิตไม่แพงจนเกินไป ขณะเดียวกันการผลิตเครื่องกรองอากาศถูกประดิษฐ์อย่างรอบคอบยิ่งขึ้น เนื่องจากต้องนำไปใช้ในโรงเรียน จึงใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เป็นอย่างดี ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะเร่งผลิตเครื่องกรองอากาศจากต้นแบบ กระจายออกไปให้ทั่วถึงอย่างเร็วที่สุด

นายพีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าวว่า สพฐ.มีโรงเรียนในสังกัดพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง PM 2.5 จำนวน 325 แห่ง ส่วนต่างจังหวัดก็มีโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบด้วย ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดย สพฐ.มีหนังสือแจ้งไปยังโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบให้ปฏิบัติตามแนวทางที่เคยซักซ้อมไว้ เช่น ให้นักเรียนใส่หน้ากากอนามัย งดกิจกรรมกลางแจ้ง ตลอดจนให้อำนาจผู้บริหารสั่งปิดเรียนและสอนชดเชยได้ตามความเหมาะสม รวมถึงร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ตามนโยบายของรัฐบาล โดยงดการเผาขยะ ทำความสะอาดโรงเรียนและพื้นที่บริเวณรอบโรงเรียน เป็นต้น

ด้าน นายไกรเสริม โตทับเที่ยง เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ภารกิจของ ศธ. นอกจากจะดูแลประชาชนด้านการศึกษาแล้ว ยังดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนเพื่อเป็นกำลังหลักของชาติด้วย โดย ศธ.ได้จัดตั้งศูนย์รับมือภัยฝุ่น PM 2.5 มีคณะทำงานที่ขับเคลื่อนร่วมกับทุกภาคส่วน ในระยะแรกได้มอบหมายให้ สอศ.ประดิษฐ์เครื่องกรองอากาศลดฝุ่น PM 2.5 และให้ สพฐ.ประสานงานนำเครื่องกรองอากาศไปกระจายให้โรงเรียนต่าง ๆ ตามความเหมาะสม เบื้องต้นมีโรงเรียนนำร่องในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 37 แห่ง มีห้องเรียนกว่า 7,000 ห้อง ซึ่งอาจส่งมอบได้ไม่พร้อมกันทุกแห่ง แต่จะเร่งกระจายไปให้มากที่สุด คาดว่าจะใช้เวลาผลิตประมาณ 10-15 วัน รวมทั้งกำหนดพื้นที่ Safe Zone ในชุมชนรอบสถานศึกษาด้วย

ไกรสิน โตทับเที่ยงไกรสิน โตทับเที่ยง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ

สำหรับระยะต่อไปจะเปิดกว้างให้ภาคส่วนต่าง ๆ รวมทั้งประชาชนที่สนใจประดิษฐ์เครื่องกรองอากาศ เข้ามาร่วมพัฒนาต่อยอดและนำไปใช้ให้มากขึ้น รวมถึงผลักดันการขยายพื้นที่ Safe Zone ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

โรงเรียนนำร่องรับมือสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพฯ 37 แห่ง ได้แก่

1. โรงเรียนราชวินิต
2. โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก
3. โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ
4. โรงเรียนวัดพลับพลาชัย
5. โรงเรียนประถมนนทรี
6. โรงเรียนอนุบาลสามเสน
7. โรงเรียนทุ่งมหาเมฆ
8. โรงเรียนสายน้ำทิพย์
9. โรงเรียนพญาไท
10. โรงเรียนอนุบาลพิบูลเวศม์
11. โรงเรียนพิบูลอุปถัมภ์
12. โรงเรียนวัตมหาบุศย์
13. โรงเรียนวัดเจ้ามูล
14. โรงเรียนประถมทวีธาภิเศก
15. โรงเรียนอมรินทราราม
16. โรงเรียนอนุบาลวัดนางนอง
17. โรงเรียนวัดชนะสงคราม
18. โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดโบสถ์)
19. โรงเรียนวัดโสมนัส
20. โรงเรียนวัดด่าน
21. โรงเรียนมหาวีรานุวัตร
22. โรงเรียนวัดชัยชนะสงคราม (วัดตึก)
23. โรงเรียนดาราคาม
24. โรงเรียนอุทัยธาราม
25. โรงเรียนวัดประยุรวงศาวาส
26. โรงเรียนราชวินิตประถมบางแค
27. โรงเรียนวัดสังข์กระจาย
28. โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม
29. โรงเรียนวัดนาคปรก
30. โรงเรียนวัดหนัง
31. โรงเรียนวัตเวตะวันธรรมาวาส
32. โรงเรียนบางบัว (เพ่งตั้งตรงจิตรวิทยาคาร)
33. โรงเรียนบ้านหนองบอน
34. โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 75 เฉลิมพระเกียรติ
35. โรงเรียนพระยาประเสริฐสุนทราศรัย
36. โรงเรียนโฆสิตสโมสร
37. โรงเรียนวัดช่างเหล็ก

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ

อัลบั้มภาพ 6 ภาพ ของ กระทรวงศึกษาฯ ตั้งศูนย์รับมือ PM 2.5 นำร่องติดเครื่องกรองใน 37 โรงเรียนทั่ว กทม.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook