ตำรวจเร่งไขคดี "ครูซี 8 ดับปริศนา" ยังไม่ตัดประเด็นใด-เรียกชายคนสนิทสอบ

ตำรวจเร่งไขคดี "ครูซี 8 ดับปริศนา" ยังไม่ตัดประเด็นใด-เรียกชายคนสนิทสอบ

ตำรวจเร่งไขคดี "ครูซี 8 ดับปริศนา" ยังไม่ตัดประเด็นใด-เรียกชายคนสนิทสอบ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กองพิสูจน์หลักฐานระยอง ลงพื้นที่เก็บข้อหาหาแนวทางคลี่คลายคดี "ข้าราชการซี 8" ตายปริศนาบ่อน้ำหลังบ้าน ยังไม่ตัดประเด็นใด หลังผลชันสูตรชี้จมน้ำตาย แต่ทำไมถึงมีเชือกติดอยู่

(26 ก.ย.) พ.ต.อ.บรรพต กู๊ดอั้ว ผกก.กองพิสูจน์หลักฐานระยอง พร้อมด้วย ร.ต.อ.กวีวุฒิ ศรีบุญเรือง รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองระยอง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานระยองและเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครระยอง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณหมู่บ้านการเคหะระยอง ต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุที่นางมัจฉา อายุ 51 ปี เจ้าหน้าที่ศึกษานิเทศก์ สังกัด สพป.ระยอง เขต 1 ถูกพบกลายเป็นศพอยู่ที่สระน้ำข้างบ้าน มีระดับความสูงจากพื้นดิน 30 เมตร และเสียชีวิตเป็นปริศนา

ขณะเดียวกัน ลูกชายทั้ง 2 คนของนางมัจฉา ได้เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน หลังครอบครัวและเพื่อนร่วมงานยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ไม่เชื่อว่านางมัจฉาจะคิดสั้นฆ่าตัวตาย ประกอบกับผลชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตจากโรงพยาบาลระยอง ระบุว่า นางมัจฉาเสียชีวิตจากการจมน้ำ เนื่องจากพบภาวะน้ำเต็มปอดและกระเพาะอาหาร ไม่ใช่เสียชีวิตจากขาดอากาศหายใจ

>> ข้าราชการซี 8 หายตัวไปข้ามคืน กลายเป็นศพจมน้ำดับปริศนา มีเชือกมัดคอ

ลูกชายคนเล็กของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า การเสียชีวิตของแม่มีข้อสงสัยหลายอย่าง เช่น ชุดที่ใส่เสื้อและกระโปรงไม่ใช่ชุดเดียวกัน ป้ายชื่อติดอยู่ผิดตำแหน่ง ไม่พบรองเท้าในที่เกิดเหตุ อีกทั้งช่วงเวลาการตายประมาณ 6-7 โมงเช้า ยังไม่ใช่เวลาที่แม่จะแต่งตัวออกไปทำงาน หากเป็นการฆาตกรรมจริง ก็ไม่รู้ว่าคนร้ายมีวัตถุประสงค์อะไร เพราะที่ผ่านมาแม่ไม่เคยมีปัญหาทั้งเรื่องส่วนตัว เรื่องงาน หรือติดหนี้สินใคร

ลูกชายยังบอกว่า แม่เป็นคนรักสะอาด ถ้าจะเดินออกไปตรงสระน้ำ แม่ต้องใส่รองเท้า และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น รองเท้าก็น่าจะต้องอยู่กับศพ หรือลอยอยู่ในน้ำ แต่กลับไม่พบเห็นรองเท้าสักคู่ ทำให้ตัดประเด็นเรื่องอุบัติเหตุออกไปได้เลย ยังไม่ยืนยันถ้ามองว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แม่ควรจะทิ้งอะไรไว้ แต่ถ้าเป็นฆาตกรรมก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ

ขณะที่การสืบสวนนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้งทั้งสิ้น นอกจากนี้พนักงานสอบสวนภูธรเมืองระยอง ยังได้เชิญตัวชายคนสนิทคนหนึ่งเข้าสอบสวนด้วย พร้อมกับเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอตรวจสอบ ทีมข่าวพยายามสอบถาม แต่ชายคนดังกล่าวไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดใดๆ ทั้งสิ้น

ลูกชายของผู้เสียชีวิตระบุว่า ชายคนนี้สนิทสนมกับแม่มาหลายปีแล้ว เข้าๆ ออกๆ ตามปกติ แต่ก็ไม่ทราบประวัติอะไรมาก รู้เพียงทำงานเกี่ยวกับหน่วยงานทางทะเลเท่านั้น แต่ส่วนตัวก็ยังไม่อยากกล่าวหาใครในตอนนี้ เพราะทราบว่าระยะหลังแม่บอกว่าไม่ค่อยได้คุยกับชายคนนี้แล้ว ซึ่งก็ต้องรอให้มีหลักฐานและตรวจสอบพิสูจน์กันต่อไป

ขณะที่ในวันนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดระยองได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อจำลองสถานการณ์ว่าจุดใดมีความเป็นไปได้ที่ผู้เสียชีวิตจะปีนต้นไม้ขึ้นไปก่อเหตุผูกคอตัวเอง เพื่อคลี่ปมการเสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบรอบบ่อน้ำ ก็ยังไม่พบจุดที่จะสามารถปีนขึ้นไปผูกคอกับต้นไม้ได้เลย

รายงานผลการชันสูตรพลิกศพของ นางมัจฉา แพทย์ยืนยันว่า ไม่พบร่องรอยการแขวนคอ แต่กลับผลภาวะน้ำเต็มปอด ที่เป็นที่สงสัยว่าทำไมที่คอถึงมีเชือกผูกเงื่อนบ่วงธนูคล้องคอไว้ เป็นประเด็นที่ครอบครัวและเพื่อนสนิทยังติดใจสงสัย และเป็นประเด็นที่ตำรวจสั่งตรวจสอบเพิ่มเติม

นายธนพล แสนยานุภาพ ผู้อำนวยการกลุ่มงานนิเทศ สพป.ระยอง เขต1 อธิบายถึงพิรุธของเชือกที่พบว่า ปลายของเชือกที่ถูกเก็บอย่างละเอียด ที่เรียกกันว่าแต่งงานเชือก เป็นวิธีการเก็บปลายเชือกให้เป็นระเบียบเพื่อให้เกิดความแข็งแรงขึ้น ซึ่งคนทั่วไปจะไม่พิถีพิถันเก็บปลายเชือกในลักษณะนี้ ซึ่งเขายืนยันได้ว่าผู้เสียชีวิตผูกเงื่อนในลักษณะนี้ไม่เป็น

พ.ต.อ.บรรพต ยังตั้งประเด็นสงสัยอีกว่า จากที่ตรวจสอบที่สถานที่เกิดเหตุว่า ผู้เสียชีวิตทำไมถึงคิดจะไปผูกคอที่ต้นไม้ริมสระน้ำ ทั้งที่บริเวณโดยรอบในที่เกิดเหตุ มีต้นไม้ที่มีสภาพแข็งแรงกว่าลำต้นใหญ่กว่าตรงจุดที่ผู้ตายจะไปผูกคอที่ต้นไม้แล้วตกลงไป ในสระน้ำ

ส่วนประเด็นที่ไม่พบบาดแผลของผู้ตายมากนัก ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าที่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นดิน อีกทั้งมีขยะที่เป็นลักษณะของถุงพลาสติก จึงไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ในตัว แม้จะตกจากความสูง 30 เมตร และการมาตรวจสอบล่าสุดยังพบรองเท้าสวมส้นเตี้ย 1 คู่ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าเป็นของผู้เสียชีวิตหรือไม่

แต่จากการสอบถามลูกชายทั้ง 2 คนก็ไม่ยืนยันว่า เป็นของแม่ตัวเอง เนื่องจากรองเท้าในลักษณะนี้แม่มักจะไม่สวมใส่ ซึ่งเมื่อพบรองเท้าดังกล่าว ลูกชายทั้ง 2 คนก็ยิ่งสร้างปมประเด็นสงสัยในเหตุแห่งการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น

ส่วนประเด็นว่าจะเป็นการฆาตกรรมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางพนักงานสอบสวนจะต้องดำเนินการ สืบสวนสอบสวนพยานแวดล้อมต่อไป ในส่วนของพิสูจน์หลักฐานก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook