คุณป้านอนฟังเสียงแหกโค้งจนชิน จู่ๆ ชิ้นส่วนรถทะลุหลังคาบ้าน รอดตายได้เพราะมุ้ง

คุณป้านอนฟังเสียงแหกโค้งจนชิน จู่ๆ ชิ้นส่วนรถทะลุหลังคาบ้าน รอดตายได้เพราะมุ้ง

คุณป้านอนฟังเสียงแหกโค้งจนชิน จู่ๆ ชิ้นส่วนรถทะลุหลังคาบ้าน รอดตายได้เพราะมุ้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงเช้ามืด (22 ก.ย.62) ตำรวจ สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วง18 ล้อ พลิกคว่ำและมีเพลิงไหม้รถอย่างรุนแรง โดยเหตุเกิดบริเวณถนนสายแม่สอด-ตาก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 17 ทางโค้งลงเนินเขามรณะหน้าวัดโพธิคุณ ถนนขาเข้าอำเภอแม่สอดมุ่งหน้าชายแดนไทย-เมียนมา โดยหลังเกิดเหตุฝ่ายปกครองอำเอแม่สอด ตำรวจ ทหาร กู้ภัยแม่สอดและหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครแม่สอดพร้อมรถดับเพลิง 3 คันต้องรีบเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นเส้นทางภูเขาลาดชันเป็นจุดอันตรายที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยที่แนวทางโค้งบนถนนที่ทาด้วยสีแดงตลอดแนวป้องกัน พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-4960 ลำปาง ที่ด้านหลังพ่วงบรรทุกกล่องกระดาษอัดเป็นแท่งมาเต็มคันรถ จอดพลิกตะแคงอยู่กลางถนนสภาพรถพังยับเยินเศษชิ้นส่วนรถแตกกระจายพร้อมน้ำมันเครื่องเต็มถนน ส่วนด้านหน้าหัวรถเกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงและลุกลามไหม้กล่องกระดาษจำนวนมากที่บรรทุกมาอย่างรวดเร็วจนเกิดแสงเพลิงและกลุ่มควันจำนวนมากลอยปกคลุมไปทั่วถนน

จนทำให้ นายไพรพิรุณ อายุ 34 ปี คนขับรถ และ นายวัฒน์ อายุ 32 ปี ผู้ช่วยรถต้องรีบเปิดประตูรถวิ่งหนีการถูกไฟคลอกไปได้อย่างหวุดหวิดบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ก่อนรถดับเพลิงจำนวน 3 คันจากเทศบาลนครแม่สอดจะเข้าระดมฉีดน้ำเพื่อดับเพลิงที่โหมไหม้หัวรถอย่างรุนแรง โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาทีเพลิงจึงสงบแต่หน่วยดับเพลิงก็ยังต้องระดมฉีดน้ำเลี้ยงรถบรรทุกคันเกิดเหตุนานต่อไปอีกกว่า 10 นาที เพื่อป้องกันการปะทุของเพลิงซ้ำหลังภายในกล่องกระดาษที่บรรทุกมายังมีความร้อนสูง และต้องรีบปิดกั้นถนนในจุดเกิดเหตุเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อนและต้องปิดถนนนานหลายชั่วโมงทำให้มีรถจอดติดยาวสะสมบนเส้นทางภูเขาหลายกิโลเมตร  

นายไพรพิรุณ คนขับรถบรรทุกให้การเบื้องต้นว่าตนเองขับรถบรรทุกกระดาษมาจากจังหวัดลำปางเพื่อจะนำกระดาษจำนวน 20 ตัน มาส่งที่ชายแดนอำเภอแม่สอด พอขับมาถึงจุดเกิดเหตุยางรถด้านหน้าขวาระเบิดจึงพยายามประคองรถไม่ให้พุ่งข้ามฝั่งรถจนทำให้รถพลิกคว่ำไถลไปไกลกว่า 100 เมตร จนเกิดประกายไฟไปติดกระดาษหลังรถจนเกิดเพลิงไหม้อย่างรวดเร็วจนต้องทิ้งรถหนีเอาชีวิตรอดได้หวุดหวิด

ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังคงต้องปิดถนนทางโค้งจุดเกิดเหตุนานหลายชั่วโมงเป็นการชั่วคราวเพื่อเร่งทำความสะอาดผิวการจราจรในทางโค้งจุดเกิดเหตุที่เต็มไปด้วยเศษอะไหล่รถบรรทุกที่แตกกระจายเต็มถนนและยังต้องเร่งขจัดคราบน้ำมันเครื่องรถที่แตกรั่วไหลกระจายเป็นระยะทางยาวกว่าไม่ต่ำกว่า 100 เมตร และคาดว่าช่วงสายของวันนี้จึงจะสามารถนำรถเครนขนาดใหญ่ไปทำการกู้ซากรถบรรทุกที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งคันเพื่อจะเร่งเปิดการจราจรต่อไป

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนที่สร้างติดกับแนวถนนใกล้จุดเกิดเหตุ พบว่าที่บ้าน นางเพ็ญศรี อายุ 61 ปี ที่บริเวณหลังคาของห้องนอนพบรูโหว่ขนาดใหญ่จำนวน 1 รู และพบเศษเหล็กอะไหล่รถบรรทุกคันเกิดเหตุลอยหลุดตัวตัวรถพ่วงพุ่งทะลุตกใส่หลังคาบ้านด้วยความเร็วสูงมาติดคาที่มุ้งบนเตียงนอน ซึ่งนางเพ็ญศรี ยังเล่านาทีระทึกว่าตนเองนอนหลับบนเตียงนอนเพียงลำพังโดยมีลูกชายนอนข้างห้องติดกัน จู่ๆก็ได้ยินเสียงคล้ายรถขนาดใหญ่บนถนนพลิกคว่ำแต่ก็ไม่ได้ตกใจอะไร เนื่องจากชินกับรถแหกโค้งบ่อยครั้ง แต่เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็มีวัตถุของแข็งตกกระแทกทะลุหลังคาบ้านในจุดห้องนอนของตนเองอย่างรุนแรงเสียงดังสนั่นห้องนอน ก่อนวัตถุชิ้นนั้นนั้นจะลอยมาตกคาอยู่บนมุ้งกันยุงที่ตนเองกางนอนหลับบนเตียงนอน ซึ่งเหล็กอะไหล่รถชิ้นนี้ตกคามุ้งห่างจากใบหน้าของตนเองเพียง 1 ฟุต ตนเองถึงกับตกใจสุดชีวิต แต่โชคดีรอดตายหวุดหวิดเนื่องจากมุ้งกันยุงช่วยชีวิตตนเองเอาไว้ แต่ก็ทำให้ตนเองก็ยังไม่กล้าเข้าไปหลับนอนในห้องนอนตลอดวันนี้ จนเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนต้องเข้าไปปลอบขวัญ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook