คุก 4 ปี "อริสมันต์-นปช. 12 คน" ไม่รอลงอาญา คดีล้มประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552

คุก 4 ปี "อริสมันต์-นปช. 12 คน" ไม่รอลงอาญา คดีล้มประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552

คุก 4 ปี "อริสมันต์-นปช. 12 คน" ไม่รอลงอาญา คดีล้มประชุมผู้นำอาเซียนเมื่อปี 2552
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์และศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 4 ปี "อริสมันต์-แกนนำ นปช. 12 คน" ไม่รอลงอาญา คดีล้มประชุมผู้นำอาเซียน เจ้าตัวไม่มาฟังคำตัดสิน โดยศาลได้ออกหมายจับเพื่อมารับโทษตามคำพิพากษาแล้ว มีเพียงนายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เดินทางมาศาลคนเดียว

วันนี้ (11 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. กับพวก บุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2552 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา

โดยคดีนี้ ในชั้นศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุกนายอริสมันต์ กับพวก เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา

ล่าสุด ศาลจังหวัดพัทยา ได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ที่มีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้จำคุก นายอริสมันต์ และพวกรวม 12 คน ยกเว้นนายสมญศฆ์ พรมมา เพราะเป็นมวลชน ไม่ใช่แกนนำในการปลุกระดมให้กระทำการรุนแรง เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมกับออกหมายจับจำเลยทั้งหมดที่ได้รับการลงโทษแต่ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในวันนี้

สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานอัยการจังหวัดพัทยา เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องจำเลยทั้ง 13 คน ดังนี้

นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง

นายนิสิต สินธุไพร

นายพายัพ ปั้นเกตุ

นายวรชัย เหมะ

นายธนกฤต หรือวันชนะ ชะเอมน้อย หรือเกิดดี

นายพิเชฐ สุขจินดาทอง

นายศักดา นพสิทธิ์

พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์

นายนพพร นามเชียงใต้

นายสำเริง ประจำเรือ

นายสมญศฆ์ พรมมา

นพ.วัลลภ ยังตรง และ

นายสิงห์ทอง บัวชุม

โดยได้แจ้งข้อหาประกอบด้วย

1. ร่วมกันขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม

2. ข้อหาร่วมกันเดินแถวเป็นขบวน และกระทำด้วยประการใดๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจร

3. ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน ด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

4. มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยเป็นหัวหน้า เป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำผิดนั้น และ 5.ร่วมกันบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ โดยขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 215, 216, 358, 362, 364, 365 และ พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 108, 114, 148

โดยในวันนี้มีเพียงนายศักดา นพสิทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อชาติ เดินทางมาศาลคนเดียว

ทั้งนี้ เหตุการณ์การก่อความไม่สงบของกลุ่ม นปช. เมื่อเมษายน พ.ศ. 2552 มีนายอริสมันต์เป็นแกนนำผู้ชุมนุมที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยนำผู้ชุมนุมทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงและที่สมทบจากกรุงเทพฯ เพื่อปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552 ได้เข้าปิดล้อมหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อเข้ายื่นหนังสือกับตัวแทนอาเซียน

และในวันต่อมาได้กลับมาชุมนุมหน้าโรงแรมอีกครั้ง เพื่อกดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มคนสวมเสื้อสีน้ำเงินในช่วงเช้า จนกระทั่งรัฐบาลไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม ขอเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด แล้วพาผู้นำประเทศต่างๆ เดินทางออกจากสถานที่ประชุม และขึ้นเครื่องบินกลับภูมิลำเนาของประเทศต่างๆ โดยทันที

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook