วอดทั้งหลัง! ไฟไหม้บ้าน-ผ้าไหมกว่า 70 ผืน ชาวบ้านแห่ผูกแขนให้กำลังใจล้นหลาม

ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง ผ้าไหมกว่า 70 ผืนเป็นตอตะโก ชาวบ้านแห่มาผูกแขนให้กำลังใจล้นหลาม ซึ้งน้ำใจคนชนบท

8 ส.ค. 62 เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้บ้านของนายสมเกียรติ อายุ 53 ปี หลังจากกลางดึกที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุ 191 สภ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีไฟไหม้บ้านหลังดังกล่าว

จากนั้น  ร.ต.อ.สมเกียรติ นิยมเหมาะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สำโรงทาบ ได้รีบแจ้งไปยังศูนย์ดับเพลิงทุกหน่วยที่อยู่ใกล้กันให้ออกระงับเหตุและแจ้งหน่วยกู้ภัยสุรินทร์จุดสำโรงทาบพร้อมออกปฏิบัติตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที

ในที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน พบเพลิงกำลังลุกไหมบ้านอย่างรุนแรง โดยมีรถดับเพลิงทั้งหมด 4 คัน จากเทศบาลตำบลสำโรงทาบ,อบต.หมื่นศรี,อบต.เกาะแก้ว และอบต.สำโรงทาบ ต่างเร่งระดมช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงป้องกัน อย่างสุดความสามารถเพื่อยับยั้งการลุกลามไม่ให้ไปติดยังบ้านใกล้เรือนเคียง การทำงานเป็นไปด้วยความทุลักทุเลเพราะพื้นที่คับแคบ รถดับเพลิงสามารถเข้าไปได้แค่คันเดียว เพราะเป็นซอยแคบใช้เวลาดับเพลิงกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ 

ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ จนท.ตำรวจสันนิษฐานในเบื้องต้นว่า น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนทรัพย์สินภายในบ้าน ที่เสียหายประกอบด้วย เงิน สร้อยคอและแหวนทองคำ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มทุกอย่าง รวมทั้งผ้าไหมราคาผืนละ 2,500 บาท ประมาณ 70 ผืน เส้นไหมอีก 10 กว่ากิโลกรัม ผ้าไหมมัดหมี่ ขึ้นหัวไว้ 7 หัว ที่ชาวบ้านจ้างทำ รวมทรัพย์สินที่เสียหายทั้งหมด มูลค่ากว่า 5 แสนบาท

นายประดิษฐ์ อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันบอกว่า บ้านหลังดังกล่าว มีญาติพี่น้องอยู่ด้วยกันทั้งหมดรวมกัน 5 คน มีทั้งลูกหลาน ช่วงเกิดเหตุ บังเอิญได้ยินเสียงดังออกมาจากในบ้าน พอมองเข้าไปในบ้านเห็นไฟกำลังลุกไหม้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวที่ชั้น 2 จึงรีบวิ่งมายังจุดที่เกิดเหตุ พร้อมตะโกนบอกเจ้าของบ้านซึ่งตอนนั้นมีบางคนนั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง

และในเวลานั้น คนที่อยู่ในบ้านยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีเหตุไฟไหม้อยู่ข้างบน พอรู้อีกทีไฟเริ่มลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง ส่วนเจ้าของบ้านไม่อยู่มีร่วมสวดพระอภิธรรมที่วัด และด้วยความตกอกตกใจทำอะไรไม่ถูกไม่รู้จะทำยังไงจะเอาอะไรออกมา ต่างคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมาข้างนอกเป็นพัลวัน

ในเหตุการณ์ครั้งนี้ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บโดนไฟลวกบาดเจ็บเล็กน้อยหนึ่งคน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสำโรงทาบทราบ ชื่อคือนางจุฑาภรณ์ อายุ 27 ปี เป็นลูกสาวของเจ้าของบ้าน ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ชุลมุนมากรถดับเพลิงที่มามีเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเชือกมากั้น ห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุเกิดไฟไหม้ 

ขณะเดียวกันช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อนบ้านที่ทราบข่าวต่างมาให้กำลังใจกับเจ้าของบ้าน ด้วยการนำฝ้ายมาผูกข้อต่อแขนรวมทั้งแม่ชีพระภิกษุต่างก็มาให้กำลังใจ เรียกขวัญให้เจ้าของบ้านและลูกหลานผู้ที่อาศัยในบ้าน ดังกล่าว

ส่วนหน่วยงานทั้งหัวหน้าส่วนราชการในเขตอำเภอสำโรงทาบ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต.ผู้นำชุมชน ผู้กำกับ สภ.สำโรงทาบ แพทย์ อสม. นายสุพัตรา สุธาอรรด ผอ. โรงเรียนสำโรงทาบบริครุฑวิทยา  ต่างออกมาให้กำลังใจผูกข้อต่อแขน เพื่อปลอบขวัญอย่างอบอุ่น และกิ่งกาชาดอำเภอสำโรงทาบ ก็ได้ลงมอบสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น

ด้าน พ.ต.ต.สงบ โพยประโคน จนท. จากกองร้อย ตชด. 214 อ.สังขะ เป็นตัวแทนมอบถุงพระราชทานให้กับผู้ประสบอัคคีภัย หากว่าผู้ใดมีจิตศรัทธาที่จะมาบริจาคข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้าต่างๆ ให้กับผู้ประสบภัยครั้งนี้ ก็สามารถเดินทางมาได้ที่บ้านของนายสมศักดิ์ ดวงรัตน์ เลขที่ 106 หมู่ 1 บ้านสำโรงทาบตำบลสำโรงทาบ อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์