"ยายฟื้น" ลั่นถ้ายังเป็นคนคงไม่ทำแบบนี้ หลังลูกชาย-ตัวแทนประกัน โกงค่าสินไหม 1.4 ล้าน

"ยายฟื้น" ลั่นถ้ายังเป็นคนคงไม่ทำแบบนี้ หลังลูกชาย-ตัวแทนประกัน โกงค่าสินไหม 1.4 ล้าน

"ยายฟื้น" ลั่นถ้ายังเป็นคนคงไม่ทำแบบนี้ หลังลูกชาย-ตัวแทนประกัน โกงค่าสินไหม 1.4 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณยายฟื้นถูกลูกชายและตัวแทนบริษัทประกันชีวิต ร่วมกันวางแผนโกงเงินสินไหมจากกรมธรรม์ประกันชีวิต ไปกว่า 1.4 ล้านบาท

ความคืบหน้ากรณีลูกชายร่วมกับตัวแทนบริษัทประกันชีวิต วางแผนถอนเงินในบัญชีของแม่ตัวเองอายุ 88 ปี จนเกลี้ยงบัญชีกว่า 1,400,000 บาท ซึ่งเป็นเงินสินไหมจากกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ลูกสาวคนสุดท้องที่เสียชีวิตทำไว้ให้แม่ และล่าสุดทางพนักงานสอบสวนเตรียมออกหมายจับลูกชายและตัวแทนบริษัทประกัน ฐานร่วมกันลักทรัพย์จากหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด ขณะที่วางแผนพาแม่ไปเปิดบัญชีและถอนเงินออกมา

ล่าสุด ทาง ร.ต.อ.รัชกฤต ภูวเดชเดชาสิน รองสารวัตรสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนี้เดินทางไปพบกับ นางฟื้น อายุ 88 ปี หรือ คุณยายฟื้น ที่บ้านพักรวมทั้งลูกๆ เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวและข้อมูลของ นายมนตรี อายุ 56 ปี ลูกชายซึ่งเป็นคนที่หลอกถอนเงินแม่ไป เพื่อประกอบสำนวนคดีก่อนที่จะดำเนินการออกหมายจับทั้ง 4 คน ซึ่งมีพฤติกรรมและหลักฐานค่อนข้างชัดเจนว่าร่วมมือกัน

จากการสอบถามคุณยายฟื้น ยังยืนยันคำเดิมว่าให้นายมนตรี ลูกชายนำเงินทุกบาททุกสตางค์ที่เอาไปมาคืนให้หมด หรือให้มามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและคุยความจริงกัน หากไม่เป็นไปตามนี้ก็ไม่ต้องมาคุยอะไรกันอีก ถ้ายังมีสำนึกของความเป็นคนอยู่คงไม่ทำแบบนี้ และให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด

และยืนยันว่าในวันที่นายมนตรีพาไปเปิดบัญชีแทบไม่รู้เรื่องอะไร เขาให้เซ็นอะไรก็เซ็นไปเพราะลูกชายบอกว่าเปิดบัญชีเพื่อโอนเงินมาให้ใช้ และบัญชีธนาคารลูกชายก็เป็นคนเอาไปตนไม่ได้รู้เห็นอะไรเลย

ด้าน นายไพบูลย์ อายุ 58 ปี ลูกชายอีกคน เปิดเผยว่า เรื่องนี้ถ้านายมนตรี น้องชายมาคุยความจริงก็อาจจะให้อภัยได้ และเท่าที่ทราบหลังเกิดเรื่องนายมนตรีอ้างว่าตัวเองได้เงินมาแค่ 5 แสนเท่านั้น ส่วนที่เหลือทางบริษัทประกันเป็นคนเอาไปทั้งหมด ซึ่งเป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอยๆ

และหลังเข้าแจ้งความก็แทบติดต่อไม่ได้อีกเลยโทรไปก็ไม่รับส่งไลน์ไปเปิดดูแต่ก็ไม่ตอบ มีบ้างบางครั้งที่น้องสาวและหลานอีกคนพอจะติดต่อพูดคุยได้บ้าง และขณะนี้กระดูกของน้องสาวที่เสียชีวิตก็ยังไม่ได้เข้าบัว

ในขณะที่ หลานสาวอีกคน บอกว่า หลังกลายเป็นเรื่องขึ้นมาได้ติดต่อกับนายมนตรี เพื่อให้โอนเงินที่ยังเหลืออยู่กลับมาให้ยายฟื้น และยอมโอนเงินกลับมาให้ 1 แสนบาท โดยให้ไปเปิดบัญชีใหม่ แต่ยายฟื้นไม่เอาบอกว่าต้องเอาเงินมาคืนทั้งหมด นอกจากนี้ ยังได้โอนเงินค่าใช้จ่ายเรื่องการจัดงานศพน้องสาวที่เสียชีวิตมาให้บางส่วนด้วย แต่หลังจากนั้นก็หายไปไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ในส่วนของ ฝ่ายตัวแทนบริษัทประกันชีวิต ทางพนักงานสอบสวนโทรศัพท์ติดต่อไปยังผู้จัดการภาคอาวุโสบริษัทประกันแห่งนี้ ซึ่งเป็นชายที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิดที่มาเปิดบัญชีและถอนเงินในวันเกิดเหตุชี้แจงว่า ในวันนั้นเพียงแค่มาช่วยบริการลูกค้าในการเคลมเงินประกันเท่านั้น เพราะตัวแทนประกันชีวิตคนนี้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ และมาดูว่าผู้รับเงินตรงกับเอกสารที่ยื่นหรือไม่

ส่วนเงินทั้งหมดนายมนตรีและแม่เป็นคนเปิดบัญชีและถอนเงิน ตนไม่เกี่ยวข้องเพียงแต่คอยดูอยู่ห่างๆ ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ และนายมนตรีก็เป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางจากกรุงเทพฯ มาหาดใหญ่เพื่อมาช่วยอำนวยความสะดวก

ส่วนประเด็นที่ว่าทำไมต้องติดต่อเรื่องเงินเคลมประกันผ่านนายมนตรีคนเดียวไม่ผ่านญาติคนอื่นๆ เนื่องจากนายมนตรีเป็นคนยื่นเอกสารของตัวเองและของแม่ ในการติดต่อประสานงานขอเคลมเงินประกัน รวมทั้งนายมนตรีก็กำชับว่าเรื่องนี้ให้ติดต่อผ่านตัวเองคนเดียวเท่านั้น

ส่วนเรื่องที่จะถูกออกหมายจับในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ด้วยนั้น ก็พร้อมที่จะไปพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook