"ชูษี เชิญยิ้ม" ควงภรรยาเผยบทเรียนติดพนันสูญเงินไปกว่า 30 ล้าน

"ชูษี เชิญยิ้ม" ควงภรรยาเผยบทเรียนติดพนันสูญเงินไปกว่า 30 ล้าน

"ชูษี เชิญยิ้ม" ควงภรรยาเผยบทเรียนติดพนันสูญเงินไปกว่า 30 ล้าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ยังคงเป็นประเด็นให้หลายคนติดตาม สำหรับปัญหาของครอบครัวตลกชื่อดังอย่าง ชูษี เชิญยิ้ม ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวออกมาประกาศตัดขาดกับลูกสาว บูม ชญาภา กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้เจ้าตัวป่วยไข้เลือดออก ต้องแอดมิทโรงพยาบาล และถูกถามถึงลูกสาวตลกชื่อดังกลับบอกว่าต่างคนต่างอยู่ หากจะมาเยี่ยมก็ไม่มีประโยชน์อะไร ถ้ามาแล้วหายไข้ให้มา แต่ไม่ต้องมาหรอก ผมไม่ใช่คนอาฆาตมาดร้าย ลูกใครใครก็รัก แต่ถ้าเป็นแบบนี้ผมไม่รักดีกว่า ชีวิตผมไม่ชอบคนเนรคุณคน ทำเอากลายเป็นประเด็นใหญ่โตขึ้นมาทันที

ล่าสุด ชูษี ได้ควงภรรยามาเปิดใจผ่านทางรายการคุยแซ่บ Show ทางช่อง one 31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร



อัปเดตหน่อยป่วยเป็นไข้เลือดออกตอนนี้เป็นยังไง?

ชูษี : "ตอนนี้ปกติแล้ว หายแล้ว"

พี่ปอพอรู้ว่าพี่ษีเป็นไข้เลือดออกห่วงไหม?

ปอ : "ตอนนั้นที่พี่ษีเป็นเขาเป็นล่วงหน้าก่อนแล้ว แต่จังหวะนั้นเราต้องไปขายแหนมที่ร้านพี่โหน่ง เรากลับจากร้านพี่โหน่งประมาณ 2-3 ทุ่ม เราไม่รู้ เราให้ลูกขึ้นไปดูพ่อ พ่อไม่เคยตื่นขนาดนี้นะ ปกติพี่ษีจะตื่น 8-9 โมง เขาไม่ไลน์ ไม่โทร.หา เราก็เอ๊ะแปลกแล้วก็เลยให้ลูกสาวขึ้นไปดู ลูกสาวก็บอกว่าพ่อตื่นแล้ว เดี๋ยวพ่อลงไปกินข้าวเอง เราก็คิดว่าเขาเพลีย จนมารู้ตอนเย็นคนขับรถบอก เราก็กลับมาจากนครนายก"

ชูษี : "ดีไม่ใช่เป็นตัว ถ้าฟักเป็นตัวพี่ตายแน่นอนเหมือนพี่ปอ ทีแรกเราก็ไม่รู้หรอก ไข้เลือดออกมันน่ากลัวตรงไหนมันก็คือไข้ธรรมดานี่แหละ หมอบอกเกล็ดเลือดคนเราธรรมดาต้องมี 1.5 - 4 แสน แต่พี่ไปถึงโรงพยาบาล 2.8 หมื่น แล้วพอนอนคืนหนึ่งมันเหลือ 1.6 หมื่น หมอต้องเตรียมเลือดไว้สำรองแล้ว"

แบบนี้เรียกว่าเฉียดตายได้ไหม?

ชูษี : "เฉียดสิ เฉียด"

มีนักข่าวให้ความสนใจไปเยี่ยม แล้วก็มีปมดราม่ากับคำถามนี้ น้องบูม มาเยี่ยมหรือยัง?

ชูษี : "เราก็พูดกับนักข่าวไปว่าเขาไม่กล้ามาหรอก ถ้าเกิดหายก็มาเยี่ยม ถ้าไม่หายก็อย่ามาเยี่ยมเลย เขาไม่กล้ามาหรอก ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า"

ตอนแรกมีคำว่าลูกเนรคุณไม่ต้องมาเยี่ยมด้วยไม่ใช่หรอพี่ แสดงว่า 6 เดือนที่ผ่านมายังไม่ได้คุยกันเหรอ?

ชูษี : "ไม่คุยๆ" 

เวลาผ่านมาเกือบครึ่งปีเวลาไม่ช่วยเยียวยาความรู้สึกเลยหรอ?

ชูษี : "ใครไม่เป็นชีวิตผม ไม่มีใครรู้หรอก ผมจะพูดตลอดเวลาว่าสังคมเขาไม่รู้หรอก แต่เวรกรรมอ่ะรู้ เวรกรรมมีจริง ผมไม่อยากพูดอะไรมากมาย พูดไปเหมือนซ้ำเติมเขา เขาก็ลูกผม แต่เราอยากให้เขาอยู่ในสังคมให้ได้ ถ้าเกิดพ่อตายไปแล้วเอ็งจะได้มีจุดยืนของเอ็ง แล้วตอนนี้วงการเขารู้กันหมดแล้วจะทำยังไง"

ตั้งแต่มีปัญหาเคยติดต่อกันบ้างไหม?

ชูษี : "เขาลบไลน์ ลบเฟซบุ๊กพี่ บล็อก แม้กระทั่งไอคลาวด์พี่ใช้ของเขาก็ดึงออกไปโทรศัพท์ พี่ใช้อะไรไม่ได้เลยต้องเปลี่ยนไอคลาวด์ใหม่ ซื้อโทรศัพท์ใหม่ ทำเฟซบุ๊กใหม่ อินสตาแกรมก็หายหมด แม้กระทั่งเพลงในยูทูปเขาก็ดึงของพี่ออก แล้วเขาจะมาติดต่อพี่เหรอ เขารู้นิสัยพี่ เขาก็พยายามที่พ่อก็ต้องรู้นิสัยหนู ทีนี่พี่ไม่อยากพูดอะไรมากมายต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ตายใครจะมาเผาหรือไม่เผาก็แล้วแต่ ประชาชนก็มาด่าพี่เยอะว่าพี่รังแกลูก แต่มันเป็นมุมมองของเขาเราไม่ว่าหรอก แต่คนนี้โดนด้วย"

ปอ : "มันก็มีคนมาว่าต่างๆ นานา อาจจะว่าพี่ษีหลงเมีย คือมุมมองของเราเราอยู่กับพี่ษีมานานแล้ว ถ้าคำว่าหลง ไม่น่าจะใช่ เพราะตัวพี่ษีกับเราจะไม่ค่อยได้คุยเรื่องลูก เพราะพี่ษีใครไปกำหนดเขาไม่ได้อยู่แล้ว ลูกเขาก็คือลูกมันตัดกันไม่ได้อยู่แล้ว แจ่คนที่ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ได้สัมผัสครอบครัวเราเขาก็จะมองว่ามีเมียใหม่ คือพี่ษีกับแม่น้องบูมเขาเลิกกันตั้งแต่น้องบูมกี่ขวบ แล้วพี่ษีมีเมียมาอีกเป็น 10 คนก่อนที่มาเจอเราเขามีลูกกี่คนเรารับได้หมด เราถือว่าเรารักแฟนเรา เราก็ต้องรักลูกเขา"

พี่ษีระหว่างเรากับน้องบูมทำยังไงถึงจะกลับมาเหมือนเดิมได้?

ชูษี : "มาออกข่าวรายการคุยแซ่บ Show ว่าสิ่งที่พูดไปมันไม่มีความจริงเลย มันลิเก พี่ไม่อยากจะพูดอะไรมากมาย"

ที่แข็งอยู่ทุกวันนี้ อยากให้ลูกมีที่ยืนอยู่ในวงการ?

ชูษี : "มันไม่มีพ่อคนไหนหรอกท่จะมาฆ่าลูก เกลียดลูก เหยียบลูกจมพื้นธรณี พี่รักลูกทุกคน แต่ไม่แสดงออกแค่นั้นเอง พี่เป็นห่วงทุกอย่าง แม้กระทั่งขับมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคพี่ต้องไปหาตำตรวจไปกราบเอาออกมา แค่คุณทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย คุณทำไม่ได้ จะเป็นลูกชูษีจะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่ เราก็ยังโดนเลย เดี๋ยวโดนนู้น โดนนี่ เอ้า...พ่ออีกแล้ว ดูสิไม่มีพ่อแแล้วใครจะดูแลเอ็ง แล้วชีวิตพี่บางทีแอบร้องไห้ พี่เป็นคนที่ไม่ได้ดราม่าอะไรมากมาย พี่เป็นคนปากหมา แต่ใจพี่ไม่หมาอยู่แล้ว พี่คิดตลอดเวลาทำไมชีวิตมันเป็นแบบนี้ เราก็ปล่อยมัน สังคมไม่รู้ แต่ผีสาง นางไม้ เทวดารู้ ทำไป ทำให้ดีที่สุด"

ถ้าลูกดูอยู่ อยากบอกอะไรลูก?

ชูษี : "ไม่อยากบอกอะไร ทำตัวให้ดีเราเป็นผู้หญิง ทำตัวให้น่าสงสาร คนสิบคนคุณต้องทำให้เขารักคุณให้ได้ อย่าหลงตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองเก่งกว่า คนถ่อมตนคือคนฉลาด"

ปรับอารมณ์ย้อนเวลากลับไป 16 ปี คู่นี้เจอกันได้ยังไง?

ชูษี : "เจอกันร้านแถวพระะราม 9 พี่มาจากอยุธยา ก็มาเจอเขา เขาเป็นคนรู้จักตลกเยอะ พี่ก็ให้หญิงน้องโหน่งติดต่อให้ เสร็จแล้วเขากลับบ้านพี่ก็ขับรถตามไป"

ปอ : "ก็ไปกัน 3-4 คน แล้วหญิงบอกว่าพี่ พี่ษีเขาขับรถตามมาถึงหน้าบ้านแล้ว เขามาได้ยังไงจากพระราม 9 ถึงแจ้งวัฒนะก็ไกล แถมตอนนั้นเกือบเช้าแล้ว เราก็ให้เข้ามาสังสรรค์ พอจะเข้านอนเขาก็ไปนอนอยู่หลังบ้าน นอนขดเหมือนน่าสงสาร ตอนเจอพี่ษีครั้งแรกมันไม่ได้มีความรักนะ ก็คือได้โทร.คุยกัน ไปไหนด้วยกัน พี่ษีไปถ่ายละครก็ชวนไปเที่ยวตางจังหวัด ประมาณ 1-2 เดือนพี่ษีเขาเปิดหมูย่างเกาหลีกับพี่สามารถที่อยุธยา"

เห็นว่าตอนคบกันน้าษีไม่รู้เลยว่าพี่ปอรวยมาก

ชูษี : "ไม่รู้เลย แต่รู้ว่าเขาคงมีฐานะ"

ทั้งๆ ที่เราสวยแล้วเราก็รวยทำไมถึงเลือกน้าษี?

ปอ : "ถามว่ารวยไหม จริงๆ ครอบครัวเราไม่รวยอยู่แล้ว แต่มีช่วงชีวิตหนึ่งที่เรามีตังขึ้นมา แต่เราไม่ใช่คนต้นกระกูลที่รวย คือแรกๆ ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่สเปคเรา แต่เราชอบความลูกทุ่ง หมอลำ เรารู้อยู่แล้วว่านี่คือชูษี เชิญยิ้ม เขาเสียงดีนะ เราก็ปลื้ม แต่ว่าไม่ได้รัก แต่พอคบไป คุยกันเขาโทร.หาเราวันนึงยิ่งกว่าปืนกลอีก เราสงสาร เหมือนเราก็เหงาก็เลยคุย ความรักมันเกิดขึ้นเพราะความใกล้ชิด เขาชวนไปนั่นไปนี่ มันก็ซึมไป"

ชูษี : "เราก็พาไปหาแม่ที่อยุธยา ให้รู้ว่าเราอยู่กับแม่กับหลานสาวและลูกคนโตด้วย"

เห็นว่าตกลงแต่งงานสินสอดไม่ธรรมดาเลย และเงินทั้งหมดเป็นของพี่ปอ?

ชูษี : "ครับ ก็เราไม่มีเอาอะไร ก็มีแต่เสื้อผ้า"

ตอนนั้นพี่ปอโอเคไหม?

ปอ : "ส่วนหนึ่งเงินก็เป็นของพี่ษีด้วย ตอนนั้นถูกเกือบล้าน ตอนนั้นไม่มีสินสอด มีเงิน 3-4 แสนเอง มีแค่ให้ผู้ใหญ่รู้ว่าเข้าตามตรอกออกตามประตู"

30 ล้านหายไปกับการพนันเกิดอะไรขึ้น?

ปอ : "ก่อนเจอเขาก็มีไปประเทศเพื่อนบ้านอยู่แล้ว ก็ไปกับเพื่อน ผู้ใหญ่บ้าง พอมาอยู่กับพี่ษีเพื่อนชวนก็ไป แต่เราไม่ได้โทษเพื่อนนะ เราโทษตัวเองอยู่แล้ว คือเมามันตรงนั้นสติเราไม่มีแล้วพี่ษีก็ไม่ว่าด้วย เราก็เพลินเลย เสียเงินคืนนึงก็มี 1-2 ล้าน ได้มากสุดก็เป็นล้านเหมือนกัน แต่ก็น้อย ตอนหลังเราเรามีหนี้สินก็ขายบ้านเอาไปใช้เขา 3 ล้าน เหลือก็เอามาซื้อบ้านที่อยู่ปัจจุบันนี้"

สมัยก่อนมีบ้านกี่หลัง?

ปอ : "มีบ้าน 3 หลัง คอนโด 1 หลัง แล้วก็ไปปลูกต่างจังหวัดให้แม่อีก ที่ดินอีก"

ชูษี : "เงินสด 7 ล้าน เฉพาะทรัพย์สินพี่ว่าน่าจะมีสิบกว่าล้าน"

ณ ตอนที่หยุดพี่ปอเหลืออะไรบ้าง?

ปอ : "ไม่เหลืออะไรเลย เหลือบ้าน คือเราหยุดเลย เหมือนหักดิบเลย แล้วไม่เคยย่างกายไป ณ ตรงนั้นเลย มันเป็นบทเรียนราคาแพงเราใช้ชีวิตประมาท คือเราผิดพลาด ทุกคนมีการผิดพลาดหมด อยู่ที่ว่าแต่ละคนผิดพลาดเรื่องไหน เราจะเอาบทเรียนนี้ไปสอนเราอีก 5 ปี 10 ปี ที่จะเกิดกับครอบครัวเรา ทุกคนมีสิทธิ์จะทำผิดได้ แต่ถ้าเรากลับตัวใหม่คิดว่าคนรอบข้างน่าจะให้อภัย"

เห็นบอกว่าตอนนั้นไถลไปไกลเลยลูกก็ไม่ได้ดูแล เห็นบอกว่าตอนนั้นเพิ่งคลอดกลับมาแค่ปั๊มนม?

ปอ : "ใช่ ก็คือจะมีแม่บ้านเลี้ยงลูก แล้วพี่ษีก็ไม่ว่าอะไรเรา เราก็ไปเลย ถ้ามีคนห้ามเราบ้างเราก็จะเกรงใจบ้าง"

ติดตามรายการคุยแซ่บ Show ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 13.35-14.35 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ "ชูษี เชิญยิ้ม" ควงภรรยาเผยบทเรียนติดพนันสูญเงินไปกว่า 30 ล้าน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook