"กัน นภัทร" ยอมรับตรงๆ ดราม่าไล่บล็อกแฟนคลับจริง ไม่เกี่ยวกับ "มารี"

กลายเป็นประเด็นดราม่าจานร้อนที่หลายคนให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้ สำหรับกรณีสุดอื้อฉาว เมื่อนักร้องหนุ่ม กัน-นภัทร อินทร์ใจเอื้อ ได้ทำการไล่บล็อกเฟซบุ๊กของแฟนคลับบางคน ซึ่งทำให้เกิดการสันนิษฐานว่าสาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะ มีคนไม่เห็นด้วยกับความรักของเจ้าตัวกับนักแสดงสาว มารี เบิร์นเนอร์

ซึ่งล่าสุดทางด้านของ กัน นภัทร ก็ได้ออกมาเคลียร์ประเด็นร้อนดังกล่าวกับกองทัพสื่อ โดยเจ้าตัวยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่า ตนได้ทำการบล็อกแฟนคลับจริง แต่เป็นแค่เฉพาะกับบางคนเท่านั้น และที่สำคัญสาเหตุหลักก็ไม่ได้เป็นเพราะประเด็นความรักอย่างที่หลายคนเข้าใจเลยด้วย

"วันนี้ก็อยากจะออกมาพูดให้แฟนๆ ได้เข้าใจว่าความจริงเป็นยังไง จากข่าวที่ทุกคนได้เห็นทางโซเชียล ว่าผมได้มีการไปไล่บล็อกแฟนคลับ หรือคนที่ไม่เห็นด้วยเรื่องความรัก ดังนั้นก็เข้ามาที่เรื่องแรกเลยละกัน เรื่องการไล่บล็อก เอ่อ...ผมบล็อกจริงๆ ครับ สำหรับบางคนในเฟซบุ๊กของผม เนื่องจากว่าผมสร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาเพื่อพูดคุย เพื่อแจ้งข่าวงานต่างๆ ให้กับแฟนๆ และคนที่เรารู้จัก รวมถึงเรื่องราวส่วนตัวบ้างเล็กน้อย"

"ซึ่งเหตุผลที่ผมบล็อกก็เป็นเพราะว่า ผมได้มีโอกาสอ่านคอมเมนต์ต่างๆ จากคนที่เข้ามาโพสต์ในเฟซบุ๊กของผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข่าวต่างๆ ที่ผมได้ให้สัมภาษณ์ หรือได้โพสต์ลงไป รวมถึงเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่ผมจัดมินิคอนเสิร์ตเนื่องในโอกาสครบรอบ 9ปี ซึ่งพอเสร็จจากงานในวันนั้น ผมก็เข้ามานั่งอ่านคอมเมนต์ นั่งอ่านฟีดแบคของคนที่ได้ไปชมคอนเสิร์ต"

"ผมอ่านทุกคอมเมนต์นะครับ ซึ่งมันก็มีทั้งดีและไม่ดี แต่ผมก็โอเค คือผมเข้าใจอยู่แล้วว่ามันต้องมีคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สำหรับคอมเมนต์ที่ผมเลือกบล็อก ผมต้องขอโทษด้วยสำหรับทุกคนที่ผมบล็อกไป ซึ่งสาเหตุที่ผมบล็อกก็เป็นเพราะว่า บางข้อความที่เขาเขียนผมรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ในแง่ของการใช้คำพูด คือถ้าเป็นข้อความที่ว่าผมอย่างเดียวมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไรมากหรอก แต่ว่ามันเป็นการทำให้กลุ่มแฟนคลับคนอื่นๆ ที่เขามองมาเกิดความไม่เข้าใจกัน ผมก็เลยต้องขออนุญาตบล็อก"

"และอีกหนึ่งเรื่องที่ตามมาก็คือ เรื่องที่คนมองว่าผมบล็อกเพราะไม่เห็นด้วยเรื่องความรัก อันนี้ผมยืนยันเลยนะครับว่าไม่ใช่เรื่องจริง เอ่อ...เพราะถ้าผมไล่บล็อกจริงๆ คนที่ไม่เห็นด้วยคงไม่ใช่แค่ 5-6 คน แต่คงจะเยอะกว่านี้มากๆ ซึ่งสาเหตุที่บล็อกก็อย่างที่ได้แจ้งไปว่า ผมไม่อยากให้คนต้องมาขัดแย้งกัน"

คำพูดหรือข้อความที่เราเจอมันรุนแรงขนาดไหน ?

"เอ่อ...คือผมไม่อยากลงรายละเอียดอะไรเยอะนะครับ เรื่องของคำพูดต่างๆ หรือสิ่งที่เขาได้โพสต์ว่าผมมา แต่ว่าด้วยผมว่าเราเองก็มีเฟซบุ๊กของเราส่วนตัว และก็ทุกวันนี้คนจะโพสต์ว่าอะไรก็ได้ในโลกโซเชียล จะว่าใครก็ได้ แต่ว่าทำไมเราถึงไม่มีสิทธิ์บล็อกใครก็ได้เหมือนกัน เพราะว่าผมเองก็รู้สึกว่า มันก็เป็นสิ่งที่ทำเหมือนปกป้องตัวเราเองจากความทุกข์ที่เราไม่อยากเข้าไปเห็นสิ่งนี้"

"ผมเข้าใจอยู่แล้วว่า การที่เราเปิดตัว มีแฟน ผมทำใจตั้งแต่แรกแล้ว ว่ามันต้องมีทั้งคนที่เห็นด้วย และคนที่ไม่เห็นด้วยแน่นอนอยู่แล้ว แต่ผมโชคดีที่ว่าสิ่งที่เราคิดไว้ มันดีเกินคาดมากๆ มันมีคนกลุ่มน้อยมากๆ โอเคผมอาจจะไม่เห็นทั้งหมด แต่ว่าเท่าที่ผมสัมผัสมา ผมรับรู้ว่ามีคนเยอะมากๆ ข้างนอก ที่ไม่ใช่แฟนคลับเรา ที่ชื่นชอบและเชียร์คู่ของเรา"

"อันนี้คือสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันคือกำลังใจดีๆ ที่ทำให้เรารู้สึกว่ามันเกิดคาดในสิ่งที่เราคิดว่าพอเราวันหนึ่งเราเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปในอีกสเต็ปหนึ่ง จะต้องมีคนที่ไม่เห็นด้วยเยอะไหม จะมีคนว่าเราเยอะไหม ผมทำใจมาอยู่แล้วครับ ทำใจมาตั้งแต่ก่อนจะเปิดตัวด้วยซ้ำ ว่ามันจะต้องมีคนที่แบบรับไม่ได้เยอะ วิพากษ์วิจารณ์เยอะมาก ก็ทำใจมาแล้ว”

ตัดสินใจนานไหม กว่าจะเปิดตัว ?

"เอ่อ...จริงๆ น้องอยากจะเปิดตัวเร็วกว่านี้ครับ แต่ว่าผมก็พยายามบอกน้องว่าอยากให้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน แล้วก็ให้ละครมันออนแอร์ไปสักพักหนึ่ง เหมือนกับให้เรามีคนที่คอยซัพพอร์ตเราด้วย ก็ค่อยว่ากัน"

ตัวมารีเองเขาโดนกระแสอย่างไรบ้าง ?

"ไม่ครับ น้องไม่มีกระแสอะไรเลย มีแต่คนชื่นชม แล้วก็ได้เห็นความน่ารักในบางมุมที่ไม่เคยเห็นจากมารีมาก่อน เวลาอยู่ด้วยกันกับผม"

กลายเป็นว่าเราโดยแทน ?

"โดนนิดหน่อย คือผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องเล็กมากสำหรับผมนะ ถ้าถามคือเป็นเรื่องเล็กมากๆ แต่ว่าในทางโซเชียล อาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น ในทวิตเตอร์ต่างๆ ซึ่งผมไม่ได้ไปอ่านเลย แต่ก็รับรู้มาบ้างว่ามีข่าวตรงนี้เกิดขึ้นมา แต่คนที่ทำให้เกิดเรื่องนี้คือมันจำนวนเล็กน้อยมาก แต่ว่าก็ต้องขอโทษครับ ถ้าสิ่งที่ผมทำไป การบล็อกแฟนคลับบางคน ทำให้เกิดการเข้าใจผิด หรือว่าทำให้หลายคนติดตามผลงานผมมาต้องรู้สึกผิดหวังในตัวผม แต่ว่าผมรู้สึกว่าตลอดเวลาการทำงานที่ผ่านมา"

"ผมก็ตั้งใจ เรารู้อยู่แล้วว่าต้องมีคนชอบ คนไม่ชอบ แต่ละวันที่เกิดขึ้นมา ก็มีคนที่ติดตามเราน้อยลงทุกวัน แต่อีกทางหนึ่ง ก็มีคนติดตามเราเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน เพราะฉะนั้นก็เป็นธรรมดาของคนที่เป็นแฟนคลับ หรือแฟนเพลงของศิลปินต่างๆ ก็อยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่าผมเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีความรู้สึกเหมือนกัน มีความน้อยใจเป็น มีความเสียใจเป็นเหมือนกันครับ แต่ว่าทุกวันที่เราทำมา ผมไม่จำเป็นต้องบอกว่าผมรักแฟนคลับแค่ไหน ผมแคร์แฟนคลับแค่ไหน แต่ 9 ปีที่ผมอยู่ในวงการนี้มา ผมว่าแฟนคลับที่เป็นแฟนคลับผมจริงๆ เขาจะรู้ว่าผมรักพวกเขาแค่ไหน"

บางคนก็มองว่าตั้งแต่มีแฟนนิสัยของเราก็เริ่มเปลี่ยนไป ?

"แน่นอนครับ มันก็ต้องมีความเปลี่ยนไปอยู่แล้ว เพราะแต่ละวันที่เราโตขึ้น มันก็ต้องเปลี่ยนไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เป็นเพราะว่าผมมีแฟนหรอก แต่พอดีวันนี้ผมมีอีกหนึ่งคนที่ผมต้องดูแลเพิ่ม มันก็เลยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอีกขั้น ซึ่งมันก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นนะในมุมมองของผม ผมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ผมอยากดูแลเขา อยากดูแลคนรอบข้าง ส่วนความรู้สึกที่ผมอยากจะสร้างผลงานดีๆ เพื่อมอบความสุขให้กับแฟนคลับ มันก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ผมยังทำงานทุกงานอย่างเต็มที่ เพื่อที่ทุกคนจะได้มีความสุขกับงานของผมครับ"

กลัวไหมว่าการที่เราบล็อกเขาแบบนี้ จะทำให้มีแฟนคลับรู้สึกแย่กับเรามากขึ้น ?

"เอ่อ...ก็อย่างที่บอกครับ ผมต้องขอโทษคนที่ผมบล็อกด้วย และผมเองก็ไม่อยากระบุรายละเอียดว่าเพราะอะไรผมถึงต้องทำแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วผมเองก็ผิด ผิดที่ไปบล็อกเขา แต่มันก็เป็นวิธีปกป้องผมจากความทุกข์ เพราะผมเองก็ไม่อยากเข้าไปเห็นสิ่งนี้ เนื่องจากเขาไม่ได้ทำแค่วันนั้น แต่เขาทำมาเป็นระยะเวลานานแล้ว ดังนั้นผมจึงรู้สึกว่าในเมื่อเขาไม่ได้รักเรา ผมก็เลยเลือกที่จะบล็อกเขาไปดีกว่า ก็คิดว่าคงจะโอเค และก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นยังไง"

เราบล็อกแค่ในเฟซบุ๊กอย่างเดียวใช่ไหม ?

"ใช่ครับ แค่ในเฟซบุ๊ก"

ถ้าหาดในอนาคตมีคนมาต่อว่าอะไรเราอีก เราก็จะใช้วิธีนี้ใช่ไหม ?

"ไม่ครับ คือผมต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ผมโดนด่ามาเยอะมาก โดนด่าก่อนที่จะมีแฟนคนนี้ซะอีก เพราะผมไม่ได้เพิ่งจะมีแฟนคนนี้ แต่ว่าบางครั้งบางอย่างมันก็มีเรื่องที่ทำให้คนอื่นเขาเข้าใจผมคิด แถมเขายังเป็นอดีตแฟนคลับเราด้วย ผมก็เลยยิ่งรู้สึกเสียใจ และเลือกที่จะบล็อกไปครับ"

เรายืนยันว่ายังรักแฟนคลับเหมือนเดิม ?
"ผมไม่จำเป็นต้องพูดแค่เฉพาะวันนี้ครับว่าผมรักแฟนคลับขนาดไหน ระยะเวลาที่ผ่านมามันได้พิสูจน์แล้วว่าผมแคร์พวกเขาแค่ไหน ผมทำงานทุกงานให้ออกมาดีก็เพื่อความสุขของพวกเขา ผมยืนยันครับว่า ผมยังรักและแคร์แฟนคลับมากๆ แม้กระทั่งในวันที่ผมมีแฟน ผมก็ยังพาแฟนผมไปแนะนำตัวกับแฟนคลับ ไปขออนุญาตแฟนคลับ เพราะผมมีความตั้งใจดีจริงๆ ครับ"

>>หวานสวนกระแสดราม่า "กัน นภัทร" ลั่นอีก 2 ปีแต่ง "มารี" แน่นอน

>>เปิดบ้าน "กัน นภัทร" สร้างเป็นของขวัญให้พ่อแม่ ทั้งใหญ่ทั้งหรู