ผัวเมียขับเก๋งระทึก ชายปริศนาโบกรถแล้วทุบกระจก สุดท้ายไม่อยากเอาความ

ผัวเมียขับเก๋งระทึก ชายปริศนาโบกรถแล้วทุบกระจก สุดท้ายไม่อยากเอาความ

ผัวเมียขับเก๋งระทึก ชายปริศนาโบกรถแล้วทุบกระจก สุดท้ายไม่อยากเอาความ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีคลิปวิดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ผู้ชาย 2 คน ดักรอกลางถนนตอนกลางคืน โดยทำทีโบกมือขอความช่วยเหลือ แต่กลับทุบรถจนได้รับความเสียหาย และพยายามขี่ตามมาถึงหน้าบ้าน เหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ถนนสายหลังวัดชากสมอ (สุขใจดี) หมู่ 2 ต.ดอนหัวฬ่อ อ.เมือง จ.ชลบุรี

โดยเจ้าของรถเก๋งเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะที่ตนเองขับรถมากับแฟนเพื่อกลับบ้าน หลังไปกินเลี้ยงที่บ้านเพื่อน จุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบ้าน ระยะทางเพียง 200 เมตรเท่านั้น ตนเองเจอผู้ชาย 2 คน คนหนึ่งนั่งอยู่บนรถจักรยานยนต์ที่จอดริมถนน ส่วนอีกคนยืนอยู่กลางถนนตรงเส้นทึบ มีการโบกมือให้หยุด ตอนนั้นตนพยายามเบี่ยงรถไปทางขวา เพราะแฟนไม่ให้หยุด จึงได้ถูกทุบกระจกและตัวรถดังกล่าว ซึ่งขณะขับรถหนีมาที่บ้าน ก็พบว่าชายทั้ง 2 คน ได้ขี่ตามมาถึงหน้าบ้าน ก่อนจะหนีไป 

ล่าสุดช่วงบ่าย (30 ก.ค.62) ทาง พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรดอนหัวฬ่อ  ได้นำตัว นายกิตติกร อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาที่ปรากฎในคลิป สภาพเพิ่งจะสร่างเมา หลังจากถูกทางตำรวจเข้าไปจับกุมที่ห้องพัก โดยได้รับสารภาพว่าเมาไม่รู้เรื่องว่าไปก่อเหตุอะไรไว้บ้าง โดยได้เล่าว่าในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตนได้ซื้อยาดองจำนวน 1 กลม มานั่งดื่มอยู่คนเดียวภายในห้อง เพราะตกงานมา 1 เดือนแล้ว จึงเกิดความเครียด

จากนั้นพอเมาได้ที่ก็ขี่รถจักรยานยนต์ไปหาเพื่อนก่อนพาเพื่อนซ้อนรถจักรยานยนต์กันไป แต่ระหว่างทางได้ทะเลาะกับเพื่อนจึงปล่อยเพื่อนไว้กลางทาง ส่วนตัวนายกิตติกร ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่หอพักที่มีกลุ่มคนนั่งกินเหล้ากันอยู่ แต่เพื่อนไม่ได้พักในหอพักนั้นแล้ว ก่อนพูดหาเรื่องคนในกลุ่มวงเหล้าแต่คนในกลุ่มไม่อยากจะมีเรื่องหรือทำร้ายจึงไล่ออกไป    

จากนั้นผู้ต้องหาจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมายืนกลางถนนจนมาก่อเหตุดังที่ปรากฎในคลิป  ในส่วนของผู้เสียหายทั้ง 2 ก็ได้เดินทางมาที่โรงพัก โดยผู้ต้องหาได้ไหว้ขอโทษ พร้อมสารภาพว่าเมาไม่รู้ตัวจริงๆ ว่าไปก่อเรื่องอะไรมา ด้านผู้เสียหายเห็นว่าเป็นคนอีสานมาหากินในชลบุรีเหมือนกัน แถมรู้ว่านายกิตติกรตกงานก็รู้สึกสงสาร ประกอบกับรถยนต์เก๋งของตัวเองไม่ได้รับความเสียหายอะไร จึงไม่ได้เอาความ แต่ขอว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ทางด้านนายกิตติกรก็รับปากว่าจะขอเลิกเหล้า

ด้านตำรวจจึงได้ตั้งข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว ส่วนคดีทำให้เสียทรัพย์นั้น เจ้าทุกข์ไม่ได้เอาความ ก่อนที่จะนำตัวนายกิตตกรไปเสียค่าปรับ 500 บาท และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานก่อนที่จะปล่อยตัวไป

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook