ขบวนรถไฟลายพร้อย รฟท. แจ้งจับมือดีพ่นสีสเปรย์ จุกค่าทำสีใหม่ 4 แสนบาทต่อตู้
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1568/7840630/newproject-2019-07-20t1519.jpgขบวนรถไฟลายพร้อย รฟท. แจ้งจับมือดีพ่นสีสเปรย์ จุกค่าทำสีใหม่ 4 แสนบาทต่อตู้

    ขบวนรถไฟลายพร้อย รฟท. แจ้งจับมือดีพ่นสีสเปรย์ จุกค่าทำสีใหม่ 4 แสนบาทต่อตู้

    2019-07-20T15:14:58+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    (19 ก.ค. 62) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Mag Korat ซึ่งเป็นพนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้โพสต์ภาพขบวนรถไฟดีเซลราง ถูกมือดีพ่นสีข้างขบวน โดยระบุข้อความว่า “สภาพขบวนรถดีเซลรางจอดค้างคืนที่สถานีรถไฟชุมทางบัวใหญ่เพื่อใช้ทำขบวน 430/19 กค.62 ที่โดนมนุษย์ชั้นต่ำไร้การอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ให้มีสันดานที่ดี ทำให้เกิดความเสียหายแก่การรถไฟฯ สมควรให้นายสถานีชุมทางบัวใหญ่แจ้งความสืบหาผู้ร้ายมาดำเนินคดีอาญาสูงสุดโดยเร่งด่วนครับเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างที่เลวๆ ต่อไป”

     

    หลังเรื่องราวถูกแชร์ออกไปจำนวนมาก หลายคนตำหนิพฤติกรรมซึ่งถือเป็นความผิดฐานทำลายทรัพย์สินราชการ พร้อมหยิบยกกรณีชาวต่างชาติก่อเหตุคล้ายกันที่สิงคโปร์และถูกลงโทษด้วยการโบย ขณะที่อีกส่วนกลับมองว่าการพ่นแบบนี้ดีแล้ว และดูสวยขึ้น เพราะสภาพรถไฟปัจจุบันบางขบวนเก่าจนมีสนิม

    อย่างไรก็ตามการกระทำในลักษณะดังกล่าว คือการทำลายทรัพย์สินราชการ ซึ่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 360 ระบุว่า "ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งทรัพย์ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

    นายรังสี อุปแก้ว ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย สาขานครราชสีมา เปิดเผยถึงกรณีขบวนรถดีเซลราง 430 ชุมทางถนนบัวใหญ่-นครราชสีมา ถูกบุคคลปริศนาใช้สีสเปรย์พ่นข้างขบวนรถ ระบุว่า ขณะนี้ได้ออกโทรเลขแจ้งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อมนำเอกสารที่เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.บัวใหญ่ พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ผู้ก่อเหตุเรียบร้อยแล้ว

    โดยประมาณการทำสีใหม่ในราคา 400,000 บาท ต่อตู้ ซึ่งเป็นราคาดำเนินการลอกสี ขัดสี ทำสีใหม่ และเคลือบสี ซึ่งเหตุการณ์มือดีพ่นสีข้างขบวนรถเกิดขึ้นหลายครั้ง ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ลักลอบและเลือกพ่นขบวนรถที่จอดอยู่ในที่เปลี่ยวลับตาคน แม้แจ้งความแต่ก็ยังไม่สามารถจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้