วิวาห์ล่ม เจ้าสาววัย 14 ปี หายตัวไปจากงานแต่งนานนับสัปดาห์

วิวาห์ล่ม เจ้าสาววัย 14 ปี หายตัวไปจากงานแต่งนานนับสัปดาห์

วิวาห์ล่ม เจ้าสาววัย 14 ปี หายตัวไปจากงานแต่งนานนับสัปดาห์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มสาวคบหาดูใจกันนาน 3 เดือน พ่อแม่หวั่นชาวบ้านครหานินทาจึงให้ทั้งสองแต่งงานด้วยค่าสินสอด 1 หมื่นบาท หลังทำพิธีผูกข้อมือตามประเพณีชาวอีสาน เจ้าสาววัย 14 ปี หายไปจากบ้านนานเกือบสัปดาห์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (20 ก.ค.) นายกล้า อายุ 38 ปี พ่อและ ด.ญ (บี)นามสมมุติ อายุ 14 ปี และญาติๆ ได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอข่าวเพื่อตามหาลูกสาวอายุ 14 ปี ซึ่งทิ้งงานแต่งาน หรือ กินดอง (ภาษาอีสาน) ปล่อยให้เจ้าบ่าวต้องรอเก้อ จนทุกวันนี้ไม่เห็นลูกจะกลับมาบ้านหรือติดต่อกลับมา

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 บ้านซับใหญ่  ต.บ้านไร่ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ได้พบกับนายกล้า และนาง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อและป้า ของ ด.ญ.(บี) เล่าให้ฟังว่า ได้พบเห็นทั้งลูกสาวของตนเอง และเจ้าบ่าววัย 18 ปี ได้คบหาไปมาหาสู่กัน มีความสนิทสนม ดูใจกันมาเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน และมีการออกไปเที่ยวด้วยกันประจำ จึงเกรงว่าชาวบ้านจะนินทาไปในทางที่เสียหาย และได้ให้ฝ่ายชายส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอและจัดงานแต่งงานกัน โดยได้จัดงานแต่งงาน ไปเมื่อตอนเย็นของวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยมีค่าสินสอดจำนวน 1 หมื่นบาท

หลังจากที่ได้จัดงานแต่งงาน หรือกินดองทำการผูกข้อมือผูกแขนให้กับแฟนหนุ่ม ชื่อ นายสุมิตร อายุ 18 ปี ชาวบ้านเกาะมะนาว ต.เกาะมะนาว อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เป็นที่เรียบร้อย และจัดอาหารเลี้ยงแขก และญาติที่มาร่วมงาน เจ้าสาวได้ขออนุญาตกับทางครอบครัวว่า จะพาเพื่อนไปเอาเงินที่บ้านเพื่อนแล้วจะกลับมา

ซึ่งเวลานั้น ทางญาติและเจ้าบ่าวที่อยู่ในพิธีก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะทุกคนต่างก็เห็นว่า ด.ญ. อายุ14ปี ที่เป็นเจ้าสาว และฝ่ายชายที่เป็นบ่าวต่างก็เข้ากันได้ดี ไม่คิดว่าเจ้าสาวจะหายตัวไป จนกระทั่งถึงเช้าอีกวันหนึ่ง (15 ก.ค.) ยังไม่เห็น ด.ญ.บี  จะกลับเข้าบ้าน และออกเที่ยวตามหาไม่มีใครพบตัว จึงได้เดินทางไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้

แต่จนถึงวันนี้ (20 ก.ค.) เวลาผ่านไปแล้ว 6 วัน ยังไม่เห็นลูกกลับบ้าน ผู้เป็นพ่อแม่และญาติทุกคนรู้สึกเป็นห่วงมาก จึงอยากวอนให้ผู้ใดพบเห็นหรือรู้เบาะแสว่าลูกอยู่ใด ช่วยติดต่อกลับมาที่ เบอร์ 084-0426725 เพื่อแจ้งเบาะแสให้ด้วย

ซึ่งทั้งผู้เป็นพ่อ แม่และญาติทุกคน พร้อมให้โอกาสและให้อภัยเสมอ ซึ่งจะไม่มีการบังคับจิตใจ ขอให้เพียงบอกและกลับมาบ้าน เพื่อจะได้รู้สาเหตุที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เป็นข้อครหานินทาของชาวบ้านว่าพ่อและญาติส่งลูกสาวหนี ขอให้ลูกทำอะไรคิดอะไรให้เห็นใจผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายด้วย ซึ่งทางบ้านเป็นห่วงมากไม่เป็นอันจะกินจะนอน ในขณะที่ฝ่ายเจ้าบ่าวก็ได้แต่ตั้งตารอแฟนสาวจะกลับมาในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook