จับตา "รัฐบาลประยุทธ์ 2" จะไปได้ถึงปางไหน

จับตา "รัฐบาลประยุทธ์ 2" จะไปได้ถึงปางไหน

จับตา "รัฐบาลประยุทธ์ 2" จะไปได้ถึงปางไหน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ออกอาการสบายใจที่ ครม. ใหม่ผ่านพ้นขั้นตอนเข้าถวายสัตย์เมื่อวันก่อนไปแล้ววันวาน และได้รับพระราชทานพร-กำลังใจ-พลัง ให้ คณะรัฐมนตรี” ปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ด้วยความถูกต้อง แก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุด และมีความเข้มแข็งอดทน เพื่อประโยชน์สุข ความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน จากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดย “นายกฯ ลุงตู่” ถึงกับออกปากว่ามีความสุข ก่อนจะอ้อนประชาชนขอเริ่มต้นใหม่ แม้จะไม่ชอบตน เบื่อตน ก็ขอให้อยู่กับตนไปก่อน

หลังจากนั้นเมื่อประชุม ครม. ยามค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงก็ยังปากหวานกับบรรดารัฐมนตรีจากพรรคการเมืองที่มาร่วม ครม. “ประยุทธ์ 2” ประหนึ่งเนื้อเพลง “แต่ปางก่อน” ว่า “ห้องประชุมแห่งนี้ รอทุกท่านมาหลายปีแล้ว เช่นเดียวกับตนเอง ก็รอทุกคนมาหลายปีแล้วเช่นกัน” และว่าที่ผ่านมา 5 ปี ก็ไม่ตั้งใจที่จะอยู่นานแต่เพราะจำเป็น กระนั้นในวง ครม.คืนวันก่อนก็อดไม่ได้ที่ “นายกฯ ลุงตู่” จะกำชับรัฐมนตรีทุกคนให้เตรียมพร้อมข้อมูลของตัวเองในการชี้แจงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 25-27 ก.ค. ที่ฝ่ายค้านเตรียมลับมีดและเขียงไว้ประเดิมการ “ตรวจสอบรัฐบาล” ไม่แต่เฉพาะ 6 รัฐมนตรีที่ตกเป็นเป้า “ตำบลกระสุนตก” เท่านั้น

เรียกว่าผ่านไปด้วยดี แต่ก็ไม่ประมาทในไทม์ไลน์ถัดไปอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่จะต้องรับศึกหนัก โดยเฉพาะ “ศึกซักฟอกนโยบายรัฐบาล” ในโหมดเป็น “รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง” ที่อาจต่างจากครั้งรัฐบาล “ลุงตู่ภาค 1” ที่อะไรๆ ก็พอจะคอนโทรลได้จาก “ศูนย์กลางอำนาจ” ที่มี “พลังอำนาจพิเศษ” มาตรา 44 ของหัวหน้า คสช. หากแต่มาในหนนี้ คนที่ต้องนั่งทนฟัง และต้องยืนรับหมัดประคองตัวให้ได้ครบยกโดยไม่ระเบิดอารมณ์ออกมาเสียก่อนคือ “นายกฯ ลุงตู่” กับ “ด่านหิน” การ “รับน้องใหม่” จาก “นักการเมือง” ที่ “ลุงตู่” จะตกเป็น “เป้าใหญ่” กว่าใครในเกมเชือดเฉือนซักฟอกจาก “ฝ่ายค้าน” ที่แม้ว่าวันนี้จะไม่มีนักการเมือง “ตัวกลั่นลายคราม” แบบ “ร.ต.อ.เฉลิม” หรือใครต่อใครเป็นคนมาอภิปรายเอง แต่ก็คอยอยู่ “เบื้องหลัง” คอยติวเข้มทีมเชือด

โดยหนนี้จับ “สัญญาณ” อาการโดยรวมของ “พรรคร่วมรัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และกลุ่มก๊วนการเมืองในพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะ “สามมิตร” ของ “สุริยะ-สมศักดิ์” “ทีมสมคิด” หรือ “ทีมลุงกำนัน” น่าสนใจว่านอกจาก “ขาหนึ่ง” ที่จริงจังกับ “เก้าอี้ดนตรี” จนได้เป็นรัฐมนตรีเพื่อเดินหน้านโยบายที่เคยหาเสียงของพรรคตนแล้ว แต่อีก “ขาหนึ่ง” ทุกคนที่เป็น “นักอ่านสถานการณ์” ล้วนอยู่ในโหมด “สแตนด์บาย” หากเกิด “อุบัติเหตุการเมือง” โดยรัฐมนตรี และ ส.ส. หรือพลพรรคมีการลงพื้นที่ “เก็บแต้ม” ราวกับครั้งช่วงก่อนเลือกตั้ง 24 มี.ค. ที่ทางหนึ่งไม่ใช่แค่การรับมือกับการเลือกตั้งท้องถิ่น หากแต่หมายรวมไปถึงภาพการเมืองภาพใหญ่ที่พร้อมพลิกผันได้ตลอดเวลากับ “รัฐบาล” นี้ที่ก็สอดรับกับการประเมินของไทม์ไลน์และอายุของ “รัฐบาลประยุทธ์ 2” โดย “เกจิการเมือง” จากข่าวการเตรียมแผน “3 แนวรบ” ของฝ่ายค้าน ในนาม “พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย” เพื่อจัดการ “รัฐบาลประยุทธ์” แบบไม่ปล่อยให้มีเวลา “ฮันนีมูน” ตั้งแต่แนวรบในสภากับศึกซักฟอกนโยบาย 25-27 ก.ค. ตามมาด้วยเกม “ตรวจสอบ” ทุกเม็ดผ่านการตั้งกระทู้ถาม การเสนอญัตติด่วน และซักฟอกการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ไปจนถึงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายคนรวมไปถึง “นายกฯ ลุงตู่” ด้วยเช่นกัน

ถัดมาเป็นแนวรบนอกสภาแบบยุทธวิธี “ป่าล้อมเมือง-โลกล้อมประเทศ” โดยหลังการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาแล้ว “ฝ่ายค้าน” จะยังไม่จบ แต่จะเดินสาย “ขยายความ” ไปทั่วประเทศ ปูพรมทุกภูมิภาค ทำลายความชอบธรรมของรัฐบาล ขณะที่จะมีการเคลื่อนไหวของ “มวลชน” เปิดเวทีอภิปรายและจัดชุมนุมตามสถานที่ต่างๆ เพื่อ “ขยายผล” 

ที่ทั้งหมดทั้งมวล “เกจิการเมือง” ประเมินว่าด้วยสภาพ “ปริ่มน้ำ” ที่ซุ่มซ่อนไปด้วยแรงกระเพื่อมพร้อมกับร่องรอยความขัดแย้งภายในของรัฐบาลหรือแม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐเอง จากท่าทีที่ปรากฏผ่าน “ศึกเก้าอี้ดนตรี” และ “เกมขันหมาก” ก่อนหน้านี้ที่ก็ยังไม่นับรวมไปถึงการเผชิญกับสภาพเศรษฐกิจที่วิกฤติอันกระทบปากท้องประชาชนตอนนี้ ที่จะเป็นแรงเหวี่ยงกลับที่รุนแรงกับอาการ “ไม่ชอบ” และ “เบื่อ”

จนทำให้ประเมินกันว่า “ลุงตู่ภาค 2” อาจจะทนแรงเสียดทานที่จ้องทำลาย “ความชอบธรรม” ทั้งในเกมและนอกเกมจาก “ภายนอก” แบบมีแผน “ขยายผล” ให้ลุกลามไปสู่การชุมนุมใหญ่ เพราะไม่มี คสช. ไม่มี ม.44 และอาการยืนดูเฉยๆ หรือบางทีช่วยซ้ำแล้วตีจากหากเห็นท่าไม่ดีจากนักการเมืองคนกันเอง “ภายใน” โดยจะ “ทนอยู่” ไปได้ถึงปลายเดือนกันยายนปีนี้หรือไม่?

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook