“วิษณุ” ย้ำ “ผู้กองมนัส” โดนคดีที่ต่างประเทศ ไม่กระทบคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากเคยถูกดำเนินคดีจากต่างประเทศมาแล้วว่า ตามข้อกฎหมายเป็นเรื่องหนึ่ง ส่วนความเหมาะสมและความควรไม่ควรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ส่วนที่ฝ่ายค้านเตรียมยื่นเรื่องหลักจริยธรรมในตัวรัฐมนตรีนั้น ก็สามารถทำได้เพราะเป็นสิทธิ และขอให้ไปไล่ดูคุณสมบัติ ลักษณะต้องห้ามที่มีอยู่ในมาตรา 98 และมาตรา 101 ว่าขัดหรือไม่ขัดอย่างไร หากใช่ก็คือใช่ หากไม่ใช่ก็คือไม่ใช่

พร้อมย้ำว่า เรื่องดังกล่าวไม่ขัดมาตรา 98 ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ขณะที่มาตรา 101 เป็นเรื่องของการสิ้นสมาชิกภาพการเป็น ส.ส. จึงต้องไล่ไปดูตั้งแต่ตอนต้น ส่วนการเป็นรัฐมนตรีอยู่ในมาตรา 160 ซึ่งพอดูแล้วไม่ได้กระทบมาตรา 160 ส่วนความควรไม่ควรก็มีปัญหาเกิดได้กับทุกคน เช่น นายอุตตม สาวนายน จะควรไม่ควรก็แบบเดียวกัน ซึ่งคนชี้ขาดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีเพราะในชั้นเจ้าหน้าที่ไปตรวจในส่วนนั้นไม่ได้

แต่ถ้ามีปัญหาอะไรก็จะทำข้อสังเกตเป็น 2 ช่อง คือ ช่องตามกฎหมายและช่องที่เป็นปัญหาในสังคมอยู่ สมมติมีคดีอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ยังไม่ถูกชี้มูล คุณสมบัติก็ไม่ขัด เรื่องนี้รัฐมนตรีคนไหนที่มีคดีคาอยู่ก็ทำส่งไว้หมด หากวันหนึ่งเกิดตัดสินขึ้นมาว่าชี้มูลแล้ว นายกรัฐมนตรีจะได้ทราบล่วงหน้าและเตรียมรับสถานการณ์ อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรีทราบดีว่ารัฐมนตรีทั้ง 35 คนมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง แต่หากมีเกิดอะไรขึ้น นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ แต่ถือว่านายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว

ทั้งนี้ การที่ถูกต้องโทษในต่างประเทศแล้วย้ายกลับมาที่ประเทศไทย จะต้องรับโทษและติดคุกหรือไม่ นายวิษณุ ตอบว่า ไม่ทราบ

นอกจากนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า หลังคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีต่อเลยทันทีหรือไม่ ส่วนตัวไม่ทราบ และยังไม่ทราบด้วยว่าจะถวายสัตย์ฯ เวลาใด ยังไม่มีกำหนดการและไม่ทราบว่าจะเป็นวันที่ 16 ก.ค. นี้หรือไม่ แต่วันนี้รัฐบาลจะทำหนังสือขอประทานวันเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะยังไม่มีการแบ่งงานรัฐมนตรีใหม่ แต่จะพูดเรื่องนโยบายเป็นหลัก หรือเรียกประชุมเพื่อเตรียมแถลงนโยบายที่ทำมาทุกรัฐบาล ขณะเดียวกันการแบ่งงานจะเกิดขึ้นภายหลังมีการแถลงนโยบายไปแล้ว