หลานทรพี ปู่พูดไม่เข้าหู คว้าบังตอฟันกระหน่ำดับสลด

วันที่ 11 มิ.ย.62 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.กำพล ศรียางนอกว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 มิ.ย.62 ที่ผ่านมา รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต ที่ บ้านโสกใหญ่ ต.ลือ อ.ปทุมราชวงศา จึงรายงานให้ พ.ต.อ.สุทธกาญจน์ ฟักทอง ผกก.สภ.ปทุมราชวงศา ทราบและประสานแพทย์เวร รพ.ปทุมราชวงศา ร่วมตรวจสอบเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ที่บ้านโสกใหญ่ ต.ลือ อ.ปทุมราชวงศา พบศพ นายสมดี ไชยโย อายุ 50 ปี ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลที่บริเวณต้นคอ ยาวประมาณ 20 ซม. และ 5 ซม. 2 แผล และบริเวณท้ายทอย ยาวประมาณ 10 ซม. 2 แผล รวม 4 แผล และพบรอยเลือดเป็นทางยาวจากจุดเกิดเหตุไปถึงจุดที่เสียชีวิต

จากการสอบถาม นางหนูลักษณ์ อายุ 62 ปี ทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกของลูกชายตนเอง ส่วนผู้ตายเป็นน้องชายของตนเอง ซึ่งทั้งคู่มีศักดิ์เป็นปู่กับหลานกัน ก่อนเกิดเหตุไม่นานผู้ตายได้ไปรับผู้ก่อเหตุมาจากบ้านแม่ของผู้ก่อเหตุ ที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เมื่อ 3 วัน ที่ผ่านมาและหลังจากรับมาก็ได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านของผู้ตาย

ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ นายอุดม ผู้ก่อเหตุ ได้มาเอามีดบังตอที่บ้านของตน โดยบอกว่าจะเอามาฟันฟืน ก่อนจะนำมีดมานั่งลับที่บ้านของผู้ตาย และหลังจากนั้นเมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ ตนได้ยินเสียง นายสมดี ผู้ตายวิ่งมาที่บ้านพร้อมกับตะโกนให้ช่วยว่าถูก นายอุมดมทำร้าย

โดยมีเลือดออกเต็มตัว จากนั้นผู้ตายก็ได้วิ่งไปตามถนและร้องให้คนช่วย กระทั่งไปทรุดลงที่หน้าบ้านของญาติอีกคน ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ราว 40 เมตร

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายอุดม ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่าลงมือทำร้ายผู้ตายจริง เนื่องจากโกรธแค้นที่ถูกผู้ตายดุด่าว่าทำตัวไม่ดีเกี่ยวกับพฤติกรรมที่มักยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดเป็นประจำ และยอมรับว่าเพิ่งเสพยาบ้ามา 2  เม็ด จึงมีอาการมึนเมา

อีกทั้งยังพูดท้าทายว่า มึงเก่งจริง ก็ลองถือมีดไปตามหมู่บ้านดูว่าจะมีเรื่องไหม จึงได้ใช้มีดที่กำลังลับอยู่ฟันเข้าที่คอของผู้ตาย 2 ครั้ง

จากนั้นผู้ตายกำลังจะวิ่งหนี จึงได้ฟันที่ท้ายทอยด้านหลังอีก 2 ครั้ง ผู้ตายก็วิ่งลงจากบ้านวิ่งไปขอความช่วยเหลือที่บ้านย่าของตน ตนจึงทิ้งมีดไว้ข้างทางและวิ่งหลบหนีไปตามทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน