ผัวเมียเข่าทรุด จอดรถไปทำไร่ กลับมารถโดนปล้น เงินสด 4 หมื่นหายวับ

ผัวเมียเข่าทรุด จอดรถไปทำไร่ กลับมารถโดนปล้น เงินสด 4 หมื่นหายวับ

ผัวเมียเข่าทรุด จอดรถไปทำไร่ กลับมารถโดนปล้น เงินสด 4 หมื่นหายวับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผัวเมียเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ชาวบ้านเขว้า จอดรถไว้ใต้ต้นไม้ริมถนนใกล้ที่ไร่ของตัวเอง แต่กลับออกมาลมแทบจับ พบรถโดนงัดแงะ ทรัพย์สินหลายนับหมื่น

เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ร.ต.ท. วิราศ สินพร ร้อยเวรสอบสวน สภ.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ได้รับแจ้งมีค้นร้ายขโมยทรัพย์สินของเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ภายในรถยนต์ ที่จอดอยู่ใต้ต้นไม้เข้าไปมันไร่มันสำปะหลัง ห่างจากถนนสายหลักประมาณ 150 เมตร ใกล้ริมทางหลวง 225 ชัยภูมิ - นครสวรรค์ ก่อนถึงบ้านโนนเปลือย ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ

ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน พบ นายเกียรติศักดิ์ และนางเพ็ญศรี สองสามีภรรยา ได้ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ โดยบอกว่าได้ออกมาทำไร่มันสำปะหลังตั้งแต่เช้า กระทั่งช่วงหลังบ่ายได้กลับขึ้นมา เพื่อรับประทานอาหารกลางวัน จากนั้นก็สังเกตเห็นว่ารถมีความผิดปกติ เพราะประตูรถเปิดแง้มอยู่ และเบาะด้านในและลิ้นชักของถูกรื้อค้น จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

นายเกียรติศักดิ์ บอกว่าในจุดที่จอดรถยนต์ เป็นจุดเดียวที่มีร่มไม้ จึงได้จอดรถทิ้งไว้บริเวณนั้น และได้เดินลงไปทำไร่มันตามปกติ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 400-500 เมตร เมื่อกลับมาที่รถ นางเพ็ญศรี ได้สังเกตเห็นว่าประตูรถปิดไม่สนิท และด้านในรถมีลักษณะถูกรื้อค้น จึงเดินมาทางด้านหลังรถ พบว่ากันสาดของรถยนต์ถูกวางไว้บริเวณฝาท้าย ทำให้รู้สึกตกใจมาก

หลังจากนั้นจึงรีบเปิดรถเข้าไปดู เพราะว่าได้เก็บเงินสดเอาไว้ในกระเป๋า จำนวน 45,000 บาท พร้อมด้วยเอกสารบัตรต่างๆ และตุ้มหูทอง รวมทั้งโทรศัพท์อีก 2 เครื่อง รายการทรัพย์สินทั้งหมด ถูกคนร้ายขโมยไปพร้อมกับกระเป๋าทั้ง 2 ใบ เมื่อตรวจสอบรอบๆ คันรถ ยังพบรอยลักษณะใช้ของแข็งงัดที่ขอบกระจกและงัดกระจกหลุดออกจากประตู ผู้ที่ขโมยจึงสามารถปลดล็อคได้ โดยไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานใดๆ ไว้เลย

นายเกียรติศักดิ์ ยังบอกอีกว่าในส่วนของเงินจำนวน 45,000 บาท ได้เตรียมเอาไว้ไปปิดค่างวดรถ และที่เหลือจะนำไปลงทุนค้าขาย ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าจะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่างวดรถและเป็นทุนค้าขาย

ขณะที่ชาวบ้านข้างเคียงที่อยู่ไร่มันติดกัน ระบุว่า พบเห็นรถจักรยานยนต์ประมาณ 2-3 คัน ผู้ขับขี่สวมหมวกกันน็อก ขับวนไปวนมาอยู่หลายรอบ จากนั้นเห็นว่าได้มีการข้ามฝั่งถนนและเข้าซอยหายไป ไม่แน่ใจว่าจะเป็นกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้หรือไม่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook