เปิดใจ หนุ่มบีเอ็มหลังรถเจอแกะป้ายแดงไปติดรถคันอื่น

เปิดใจ หนุ่มบีเอ็มหลังรถเจอแกะป้ายแดงไปติดรถคันอื่น

เปิดใจ หนุ่มบีเอ็มหลังรถเจอแกะป้ายแดงไปติดรถคันอื่น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มเอารถบีเอ็มไปเคลมศูนย์ขอนแก่น แต่โดนดึงป้ายแดงไปติดที่คันอื่น บอกเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก ถ้าไปทำผิดกฎหมายคนที่ซวยคือตัวเอง ลั่นเอาเรื่องถึงที่สุด

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ซุ้มแปดเทพ ซุ้มแปดเทพ ได้ออกมาไลฟ์สดและโพสต์หลังพบทะเบียนป้ายแดงของตนเอง และรถคันดังกล่าวจอดรอซ่อมอยู่ในศูนย์ แต่พบว่ารถเก๋งอีกคัน ยี่ห้อเดียวกัน กลับเอาป้ายแดงไปใช้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (21 พ.ค.) นายพิภาก เนตรใส เจ้าของรถบีเอ็มดับเบิลยู กล่าวว่า ตนมาทำธุระที่ขอนแก่น และขับรถผ่านเห็นรถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่นหนึ่ง ติดป้ายทะเบียนสีแดง ซึ่งเลขทะเบียนเป็นแบบเดียวกับของตน แต่ตนไปออกคันนี้และติดป้ายทะเบียนมาจากศูนย์ที่กรุงเทพฯ และตนก็มีเล่มทะเบียนป้ายแดงชัดเจน

ก่อนหน้านี้ ตนได้เอารถมาเคลมที่ศูนย์ขอนแก่นเกือบ 2 เดือน และจอดเอาไว้ เมื่อคาใจจึงได้ขับรถไปที่ศูนย์อีกครั้งว่าป้ายยังอยู่ไหม แต่ปรากฏว่าศูนย์ปิดจึงถ่ายรูปเอาไว้ และป้ายแดงมันหายไปจริงๆ มารู้ตอนหลังว่าเล่มหายด้วย

จากนั้นตนก็โทรไปปรึกษาทนายและตำรวจ ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่ตำรวจและทนายบอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ หากรถคันนี้หนีภาษีมา รถมาจากบ่อน ชนคนตาย หรือ ขนยาเสพติด ทำผิดกฎหมาย และมาสวมทะเบียน หลักฐานมันชี้ชัดมาที่ตน ก็กลายเป็นเรื่องราวไปหมด ทางทนายจึงแนะนำให้ไปแจ้งความ

ทั้งนี้ ตำรวจก็แนะนำว่าแบบนี้เข้าข่ายยักยอกทรัพย์ เนื่องจากป้ายทะเบียนเป็นของเรา และไปอยู่ที่คนอื่นได้อย่างไร หรือแจ้งป้องกันตัวเอง เพื่อความปลอดภัย ตนก็เลือกแจ้งเรื่องป้องกันตัวเอง เพื่อไม่ให้มีปัญหาในอนาคต

ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางตนเองได้มาติดต่อทางศูนย์ซ่อมที่ขอนแก่น เพื่อเจรจาให้ทางศูนย์ฯยกรถตนเองกลับไปซ่อมที่กรุงเทพฯ เนื่องจากไม่มีความเชื่อมั่นและมาตรฐานในการเรื่องการให้บริการของศูนย์ฯ ที่นี่ และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนจากทางศูนย์ฯ

หลังจากเกิดเรื่องตนเองก็ยังไม่ได้คุยกับผู้บริหารของศูนย์ฯ มีเพียงชายที่อ้างว่าเป็นผู้จัดการ โทรศัพท์มาหาและกล่าวคำขอโทษ พร้อมระบุว่า มีพนักงานขายผู้หญิงได้เอาป้ายแดงไปให้กับลูกค้าอีกคัน โดยที่ทางศูนย์ฯเองก็ไม่ทราบเรื่อง ซึ่งก็ได้มีการว่ากล่าวตักเตือนพนักงานคนดังกล่าวไปแล้ว และอยากขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด

นายพิภาก กล่าวอีกว่า หากภายในเที่ยงวันนี้ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากทางศูนย์ฯ และศูนย์ไม่ดำเนินการตามที่ตนเองร้องขอก็จะเดินหน้าแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook