"มงคลกิตติ์" แจงปมกร่างผ่านโซเชียลเอี่ยวสถาบัน ย้ำรักมหาวิทยาลัยยิ่งชีพ

หัวหน้าไทยศรีวิไลย์ แจงปัญหากร่างผ่านโซเชียลเอ่ยถึงสถาบัน ยืนยันรักมหาวิทยาลัยเท่าชีวิต ย้ำจะหาทางช่วยส่งเสริมสนับสนุนทุกวิถีทาง

จากกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้พูดคุยผ่านสังคมโซเชียลถึงวีรกรรมต่างๆในวัยเด็กและรั้วมหาวิทยาลัย ในลักษณะตีรันฟันแทง รวมทั้งพาดพิงมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ไม่ว่าจากเพื่อนร่วมสถาบันและผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กจำนวน ถึงขั้นประกาศล่ารายชื่อถอดถอน

ล่าสุด นายมงคลกิตติ์ ได้โพสต์ข้อความชี้แจ้งในบัญชีเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พร้อมโพสต์รูปเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร เนื้อหาคำชี้แจงระบุว่า

“ขอชี้แจง! คลิปที่ออกมาทางโลกโซเชียล เป็นคลิปเก่าเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมาก่อนเลือกตั้ง นั้น มีเนื้อหาจะเป็นการพูดถึงเรื่องอดีตเมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเกล็ดประสบการณ์ส่วนตน ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น ถ้ามีเนื้อหาที่พาดพิง รุ่นน้อง ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน อาจารย์ ผู้บริหาร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) หรือ นักกีฬามวยสากลฯ ตนขออภัยทุกท่านด้วยความเคารพ

อนึ่ง มจพ.เป็นมหาวิทยาลัยแห่งชีวิตที่สร้างผมเป็นตัวตนมาจนทุกวันนี้ ผมใช้เวลาอยู่เรียนในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ 7 ปี (ปวช-ป.ตรี ) และ ทำหน้าที่ ผู้ช่วยเลขานุการสมาคมศิษย์เก่า มจพ. 2 ปี ปลูกฝังให้ตนรักและหวงแหน มจพ.และ หวงแหนแผ่นดินเกิดมาจนทุกวันนี้ ตนไม่เคยลืมที่จะทดแทนบุญคุณมหาวิทยาลัยแห่งนี้

ตนขอสัญญาว่าไม่ว่าปัจจุบัน อนาคต ตนมีหน้าที่ใดก็ตาม จะหาทางช่วยส่งเสริม สนับสนุน ทุกวิถีทางให้มหาวิทยาลัยมีศักยภาพเพิ่มเติมในทุกด้าน ซึ่งจะเป็นมหาวิทยาลัยที่ช่วยพัฒนา เยาวชน นักเรียน นักศึกษา นักวิจัย เพื่อพัฒนาประเทศไทยต่อไป ผมรัก มจพ.(แสด-ดำ โลหิต ดวงจิต ไทย-เยอรมัน) ยิ่งชีวิต นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ F0-E01,EE36 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ และ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ 17 พฤษภาคม 2562”

อย่างไรก็ตาม แม้นายมงคลกิตติ์จะชี้แจงแต่ก็มีชาวเน็ตต่างแห่มาคอมเมนต์แสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยจำนวนมากกับพฤติกรรมของนายมงคลกิตติ์ที่จะเข้าไปทำหน้าผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส.

>> รู้จัก "มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์" ว่าที่ดาวสภาฝีปากกล้า ผู้ขันอาสาปราบทุจริต
>> "มงคลกิตติ์" ปะทะ "วัน อยู่บำรุง" แลกกันคนละหมัด ยังไม่ทันเปิดสภา