เปิดใจ "ยามเฝ้าวัด" ว่าที่นิสิตจุฬาฯ เตรียมลาออก มุ่งเรียนสัตวแพทย์ (มีคลิป)
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1554/7772410/news18.jpgเปิดใจ "ยามเฝ้าวัด" ว่าที่นิสิตจุฬาฯ เตรียมลาออก มุ่งเรียนสัตวแพทย์ (มีคลิป)

    เปิดใจ "ยามเฝ้าวัด" ว่าที่นิสิตจุฬาฯ เตรียมลาออก มุ่งเรียนสัตวแพทย์ (มีคลิป)

    2019-05-16T10:32:39+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    น้องวี ยามหนุ่มเฝ้าประตูวัดเมืองเชียงใหม่ เปิดใจเตรียมลาออกจากงาน หลังหารายได้เสริมเข้ากรุง มุ่งหน้าเรียนคณะสัตวแพทย์ หลังสอบติดจุฬาฯ

    จากกรณีที่โลกโซเชียลมีเดียได้กล่าวถึง "ยามเฝ้าประตูวัด" หรือ หนุ่มพนักงานรักษาความปลอดภัย วัย 18 ปี ที่เพิ่งเรียนจบจากโรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม จังหวัดน่าน และมีดีกรีเป็นถึงว่าที่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เพราะสภาพความเป็นอยู่ที่ยากจน ทำให้ตัดสินใจมาสมัครงานทำ เพื่อหาเงินเดินทางไปเรียนต่อ กลายเป็นกระแสไวรัลชื่นชมในความมานะของเด็กหนุ่มคนนี้

    ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง วัดเจดีย์หลวงราชวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ก่อนจะได้พบกับ น้องวี นายวีรพงศ์ แซ่หาญ อายุ 18 ปี อยู่ในชุดเครื่องแบบพนักงานรักษาความปลอดภัย กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ซุ้มประตูของวัดอำนวยความสะดวกด้านการจราจรกับเพื่อนๆ อีก 2 คน โดยเป็นหน้าที่ตามปกติของน้อง หลังจากที่ทำงานนี้มา 2 เดือนแล้ว

    น้องวี วีรพงศ์ ได้เปิดใจเล่าให้ฟังว่า ตนอาศัยอยู่กับแม่ที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ตั้งแต่แม่แยกทางกับพ่อไป เมื่อ 6-7 ปีก่อน โดยพวกเรามีฐานะค่อนข้างยากจน แม่อาชีพรับจ้างทั่วไป ตนเป็นเพียงลูกคนเดียว เงินรับจ้างแต่ละเดือนของแม่ก็พอเลี้ยงดูกันเองได้

    ตนตั้งใจมาตั้งแต่เด็กๆ อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระของแม่ แต่ทำได้ที่สุดก็คือต้องตั้งใจเรียน เพื่อหาทุนการศึกษามาเพื่อแบ่งเบาภาระ กระทั่งได้รับทุนของมูลนิธิโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มาในที่สุด ตนเพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และมีผลการเรียนดีมาตลอด เกรดล่าสุดก่อนจบ ม.6 ได้เฉลี่ย 3.92 จึงได้ใช้ผลการเรียนนี้ยืนสมัครเข้ารับการคัดเลือกในระดับมหาวิทยาลัย ตนได้ยืนไป 2 แห่ง คือ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

    ในช่วงที่รอผลการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย ตนก็หวังอยากจะหารายได้มาจุนเจือครอบครัว และอยากหาเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายตอนเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย จึงได้มาสมัครงานเป็น รปภ.กับบริษัทดังกล่าว ตามที่มีรุ่นพี่ทำงานอยู่ที่นี่แนะนำ เพราะเห็นว่ารายได้ดี และมีสวัสดิการพร้อม

    ปัจจุบันตนทำงานมาได้ 2 เดือนกว่าแล้ว ตอนช่วงประกาศผล ตนยังรู้สึกดีใจที่สุดในชีวิต จากความเพียรพยายามของตัวเองที่ตั้งใจเรียนมาตลอด จนได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยทั้ง 2 แห่งที่ตนได้ยื่นสมัครไป และตัดสินใจเลือกเรียนที่คณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เนื่องจากเป็นสิ่งที่ตนอยากเรียนและอยากเป็นมาตลอดทั้งชีวิต

    โดยแรกเริ่มอยากเป็นแพทย์ แต่เมื่อมองดูคะแนนตัวเองแล้ว อาจจะเอื้อมไม่ถึง จึงเลือกที่จะลงในสาขาวิชาชีพที่ใกล้เคียงกันแทน นั่นก็คือสัตวแพทย์ และที่สำคัญยังได้ทุนประเภท ก. ของมูลนิธิจุฬาภรณ์ฯ ทั้งค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร และค่าที่พักตลอดจนจบการศึกษาด้วย

    สำหรับในตอนนี้เงินที่หาได้จากอาชีพ รปภ.ก็จะกลายเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ตนกับแม่จะเดินทางไปมอบตัวและทำสัญญารับทุนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ

    ทั้งนี้ น้องวี เตรียมจะลาออกจากงาน รปภ.ในสัปดาห์นี้ เพื่อนๆ ร่วมอาชีพต่างก็ยืนยันว่า น้องวีเป็นเด็กดี ขยันทำงาน ปฏิบัติงานได้เป็นอย่างดี เป็นที่รักของทุกคน และยังเป็นความภาคภูมิใจกับเพื่อร่วมอาชีพด้วย พร้อมอวยพรให้ประสบความสำเร็จในชีวิตต่อไป

    นอกจากนี้ น้องวี ยังมีเป้าหมายจะหางานทำนอกเวลาเรียน เพื่อหารายได้เสริมไปด้วย พร้อมทั้งยัฝากส่งกำลังใจและข้อคิดสำหรับทุกคน ทุกอาชีพว่า หากมีความตั้งใจจริงในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ก็จงทำตามเป้าหมายที่ตนเองหวังไว้ ขอเพียงไม่ท้อ ขยัน และซื่อสัตย์กับตัวเอง ก็จะประสบความสำเร็จได้ทุกคน