หนุ่มโดนล็อกตัว-ตบบ้องหูเลือดตก แจ้งความยังสงสัยเป็นตำรวจปลอม

หนุ่มโดนล็อกตัว-ตบบ้องหูเลือดตก แจ้งความยังสงสัยเป็นตำรวจปลอม

หนุ่มโดนล็อกตัว-ตบบ้องหูเลือดตก แจ้งความยังสงสัยเป็นตำรวจปลอม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มร้องสื่อโดนชายอ้างเป็นตำรวจล็อกตัว ตบบ้องหูเลือดออก บังคับตรวจฉี่แต่ไม่เจออะไร ลากพามาสั่งปรับข้อหาเมาอาละวาด ทั้งที่นั่งดื่มอยู่ในบ้าน หวั่นไม่ได้รับความยุติธรรม

(13 พ.ค.) นายอนุชา อายุ 41 ปี ได้เข้าแจ้งความที่ สภ.พานทอง จากกรณีที่มีผู้อ้างว่าเป็นตำรวจอาสา รวมทั้งมีผู้แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้เข้าจับกุมตัวที่บ้านพักพร้อมใส่กุญแจมือ หลังจากนั้นได้นำไปที่ตู้สายตรวจและบังคับข่มขู่ก่อนจะตบบ้องหูซ้าย 2 ครั้ง พร้อมกับบังคับตรวจปัสสาวะ แต่ไม่พบสารเสพติดใดๆ

จากนั้นได้นำตัวไปโรงพัก เพื่อสั่งปรับในข้อหาเมาสุราอาละวาดและมีอาวุธมีดตัดลูกนิมิต เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ไปโรงพยาบาลพานทองและพบว่าถูกทำร้ายที่บริเวณหูซ้าย มีเลือดออกที่หูชั้นนอก จึงได้มาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ร่วมจับกุมตนเองในข้อหาทำร้ายร่างกาย

หลังจากนั้น นายอนุชา จึงเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันที่เกิดเหตุนั้นได้นั่งดื่มสุราคนเดียวอยู่ที่หน้าบ้านพัก หลังจากนั้นได้มีชายคนหนึ่งทำตัวเหมือนกับตำรวจอาสาและมีชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเข้ามาในบ้านจับกุม พร้อมทั้งใส่กุญแจมือนำตัวไปที่พักสายตรวจบ้านเก่า และยังได้บังคับขู่เข็ญไปหลังที่พักสายตรวจพูดจาข่มขู่ พร้อมทั้งมือตบเข้าที่บริเวณบ้องหูซ้ายไป 2 ครั้ง แถมบอกว่าไม่มีใครรู้ใครเห็น ใครจะเป็นพยาน

นอกจากนี้ยังบังคับให้ตรวจปัสสาวะ เพื่อหาสารเสพติด แต่ไม่พบอะไร หลังจากนั้นได้นำตัวไปส่งที่ สภ.พานทอง เพื่อดำเนินคดีเมาสุราอาละวาด ทั้งที่ดื่มสุราในเขตบ้าน ซึ่งตนเห็นว่าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ หากเป็นตำรวจจริงหรือฝ่ายปกครองก็ไม่สามารถทำได้

หลังจากถูกแจ้งข้อหาเมาสุราอาละวาดและพกอาวุธมีดแล้ว ยังมีการข่มขู่อีก หากเจอข้างนอกจะเอาเรื่องอีก จึงต้องการความเป็นธรรมจากการกระทำของบุคคลดังกล่าว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นตำรวจอาสา หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองของอำเภอพานทองจริงงหรือไม่ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรพานทอง

อีกทั้งอยากให้สื่อมวลชนทราบเพื่อแพร่ข่าวสารให้สังคมได้รับรู้ว่าในพื้นที่ อำเภอพานทองมีการอ้างว่าเป็นตำรวจอาสาและฝ่ายปกครองทำร้ายประชาชน ที่สำคัญอยากให้ตำรวจนำตัวบุคคลดังกล่าวมาดำเนินคดีในข้อหาทำร้ายร่างกายด้วย เนื่องจากมีการข่มขู่เกรงว่าไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook