รวบ 4 ผู้ต้องหา ลวงเหยื่อโอนเงินช่วย 500 กว่าครั้ง อ้างแพทย์หญิงตายทิ้งมรดกนับพันล้านไว้ให้

รวบ 4 ผู้ต้องหา ลวงเหยื่อโอนเงินช่วย 500 กว่าครั้ง อ้างแพทย์หญิงตายทิ้งมรดกนับพันล้านไว้ให้

รวบ 4 ผู้ต้องหา ลวงเหยื่อโอนเงินช่วย 500 กว่าครั้ง อ้างแพทย์หญิงตายทิ้งมรดกนับพันล้านไว้ให้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่แถลงข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประกอบด้วย นางสาวสุภิช อายุ 61 ปี , นางสาวผาณิตา อายุ 52 ปี , นายชัยชนะอายุ 45 ปี และ นางสาวมาริษา อายุ 42 ปี

จากกรณีเมื่อประมาณปี พ.ศ.2559 นางสาวปาณิสรา (ผู้เสียหาย) ได้รู้จักนางสาวสุภิช ผ่านคนรู้จัก โดยนางสาวสุภิช ได้หลอกลวงว่ากำลังดำเนินการเรื่องทรัพย์มรดกของแพทย์หญิงสุวิภา ศรีภูมิเศรษฐ์ (ตัวละครสมมติ) เนื่องจากแพทย์หญิงสุวิภา ได้อาสาไปทำงาน ที่จ.ยะลา ร่วมกับกองทัพบก และได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุระเบิดของผู้ก่อความไม่สงบ

ซึ่งแพทย์หญิงสุวิภา ได้ทำพินัยกรรมเกี่ยวกับมรดกตลอดจนสิทธิในการรับเงินช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานต่าง ๆ รวมเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท โดยได้ทำพินัยกรรมมอบให้กับนางสาวผาณิตา

โดย นางสาวผาณิตา ไม่มีเงินในการดำเนินการเรื่องพินัยกรรม และมาขอความช่วยเหลือจากนางสาวสุภิช ในการดำเนินการจัดการเรื่องมรดกของแพทย์หญิงสุวิภา แต่การดำเนินการเรื่องพินัยกรรมนั้น จำเป็นจะต้องใช้เงินในการวางเป็นหลักประกันในการเปิดพินัยกรรม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานอื่น ๆ อีกรวม 14 หน่วยงาน

เบื้องต้น นางสาวสุภิช และ นางสาวผาณิตา ต้องการใช้เงินในการดำเนินการก่อนที่จะถึงกำหนดการเปิดพินัยกรรม เป็นเงิน 235,000,000 บาท โดยนางสาวสุภิช อ้างว่า ได้ใช้เงินส่วนตัวจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่ทหาร ไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท ในการดำเนินการ และนางสาวผาณิตา จะชดใช้เงินคืนให้กับนางสาวสุภิช พร้อมกับเงินค่าตอบแทนที่ให้ความช่วยเหลืออีก 300,000,000 บาท

แต่ตอนนี้นางสาวสุภิช ไม่สามารถหาเงินเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ได้ จึงมาขอยืมเงินผู้เสียหาย จำนวน 500,000 บาท เพื่อโอนเงินให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเรื่องมรดกตามพินัยกรรม ด้วยความเชื่อ ผู้เสียหายจึงได้มอบเงินจำนวน 500,000 บาท ให้กับนางสาวสุภิช

ต่อมาอีก 4 วัน หลังจากส่งมอบเงิน นางสาวสุภิช ได้บอกกับผู้เสียหาย ว่าต้องการเงินอีกจำนวน 520,000 บาท เพื่อใช้ในการดำเนินการผู้เสียหาย จึงได้มอบเงินให้กับผู้ต้องหาอีก ภายหลังผู้เสียหายเริ่มสงสัย และไม่เชื่อตามคำกล่าวอ้างเรื่องพินัยกรรมดังกล่าวข้างต้น นางสาวสุภิชจึง ได้หลอกว่าถ้าไม่เชื่อจะให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลพินัยกรรม โทรศัพท์มาพูดคุยและอธิบายเรื่องต่างๆ

ต่อมาได้มี นายชัยชนะ อ้างตนเป็น พ.ท.อนิรุทธิ์ สว่างอารมณ์ ได้โทรมาพูดคุยกับผู้เสียหาย และได้อธิบายเกี่ยวกับการที่จะมีสิทธิรับมรดกตามพินัยกรรมว่า จะต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง จนผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินให้กับกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 จำนวน 597 ครั้ง ร่วมเป็นเงินกว่า 232,910,617 บาท

การหลอกลวงดังกล่าวทำให้ผู้เสียหาย ได้รับความเสียหายจึงได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 4 คน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ไว้ได้ เบื้องต้น ทั้งหมดให้การรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook