ศึกแค้นยังไม่หายขาด หนุ่มคู่อริตามดักฟาดหัว มะรุมมะตุ้มหน้าตู้เอทีเอ็ม

หนุ่มวินจักรยานยนต์ได้เลือด ตอนยืนกดเงินตู้เอทีเอ็ม โดนคนร้ายฟาดหัวเจ็บ ชักมีดคัทเตอร์ออกมาป้องกันตัว ปาดสวนใส่หน้าคนร้ายเจ็บ หนีขี่รถเข้าโรงพักแจ้งความ จำหน้าได้เป็นอดีตคู่อริศึกชิงนาง

(29 มี.ค.) เมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.อ.ประกาศ ยะติ รองสารวัตรสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพานทอง จังหวัดชลบุรี ได้รับแจ้งจาก นายธิติ อายุ 29 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้าง อยู่ในสภาพเลือดท่วมตัว มีบาดแผลแตกและฉีกขาดตามแขนและลำตัวหลายแผลที่เดินขึ้นมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ

นายธิติ ระบุว่า ตนถูกทำร้ายร่างกาย ขณะกำลังยืนกดเงินอยู่ที่ตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้ๆ กับวินรถจักรยานยนต์รับจ้างภายใน ซอย 3 ข้างตลาดวัดศรี หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านเก่า อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี จึงแจ้งกู้ภัยมูลนิธิจตุรธรรมประทีปพานทองมาทำแผลแล้วนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพานทอง

จากการตรวจสอบในบริเวณที่เกิดเหตุ หน้าตู้เอทีเอ็ม เจ้าหน้าที่ตำรวจพบร่องรอยการต่อสู้ และมีรอยเลือดหยดเป็นทางจำนวนมากจึงได้เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพานทองว่า พบผู้ถูกอาวุธมีดกรีดที่ใบหน้าและศีรษะ มีบาดแผลฉกรรจ์ 7 แห่ง อาการค่อนข้างสาหัส มาเข้ารักษาตัว จึงได้รุดไปตรวจสอบ

หนุ่มวินฯ เข้ามาทำแผลที่โรงพัก (ภาพซ้าย) ชายผู้ก่อเหตุมีแผลฉกรรจที่ใบหน้า (ภาพขวา)

ก่อนจะทราบชื่อผู้บาดเจ็บคนดังกล่าวคือ นายมาโนช อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ จึงได้อายัดตัวไว้เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุที่แท้จริงถึงการก่อเหตุในครั้งนี้ว่าหวังต่อทรัพย์หรือมีเหตุทะเลาะกันมาก่อนหรือไม่

นายธิติ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนกำลังยืนกดเงินอยู่นั้น อยู่ๆ ก็โดนอะไรไม่รู้ฟาดใส่หัวอย่างแรง ตนตกใจและหันกลับไปดู ก็พบว่ามีชายคนดังกล่าวยืนถือท่อนเหล็กขนาดยาวยืนอยู่ด้านหลัง ตนจึงได้ต่อสู้และเอามีดคัตเตอร์ที่พกติดตัวมาต่อสู้ป้องกันตัว

ตนแกว่งมีดไปมา ทำให้ถูกใบหน้าและศีรษะของผู้ก่อเหตุ กระทั่งอีกฝ่ายเผลอตนจึงรีบขี่รถจักรยานยนต์หนี แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามตนมาตามทาง ทำให้ตนตัดสินใจขี่รถเลี้ยวเข้ามาที่สถานีตำรวจ หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุจึงได้หลบหนีไปคนละทาง

นอกจากนี้ ผู้ก่อเหตุยังเป็นคู่อริเก่าที่เคยมีปัญหาเรื่องปมความรักกันมาก่อน แต่ได้เคลียร์กันจบไปแล้วนานเกือบปี ตนจำหน้าคนร้ายได้ว่าคือคู่อริเก่าอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงมาทำร้ายตนเช่นนี้ ทางด้านตำรวจจะได้สอบสวนทั้งสองฝ่ายอีกครั้งถึงสาเหตุที่แท้จริงเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป