ล้วงชีวิต "พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์" จากนักร้องเสียงเล็กๆ สู่ (หลาน)สะใภ้ "มาดามเฮง"

ล้วงชีวิต "พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์" จากนักร้องเสียงเล็กๆ สู่ (หลาน)สะใภ้ "มาดามเฮง"

ล้วงชีวิต "พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์" จากนักร้องเสียงเล็กๆ สู่ (หลาน)สะใภ้ "มาดามเฮง"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เสียงเล็กๆ ของฉัน ที่ดังในใจในใจ ไม่เคยมีใครมีใคร ต้องการจะฟังจะฟัง อยู่ตรงนี้ ด้วยใจไหวหวั่น...อยู่ดีๆ เพลงนี้ก็เข้ามาในสมองโดยอัตโนมัติ ทำให้ความคิดถึงนักร้องเสียงใสอย่าง พลอย-ณัฐชา สวัสดิ์รักเกียรติ หรือ พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์ เกิดขึ้นมาภายในเวลาอันรวดเร็ว และทำการหาข้อมูลอย่างเร่งด่วนว่า ณ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เพราะตั้งแต่รู้ว่าเธอออกจากวงการเพลง ไปทำอาชีพแอร์โฮสเตส ก็ไม่เคยรับรู้ข่าวของเธออีกเลย

และเป็นเรื่องบังเอิญที่ปลื้มสุดๆ เมื่อจู่ๆ ค้นเจออินสตาแกรมของนักร้องเสียงใสคนนี้ ที่ยอดผู้ติดตามมีเพียง 1,700 คน แต่ที่น่าตื่นเต้นมากกว่านั้นคือเมื่อได้รู้ว่า เธอได้จดทะเบียนสมรสพร้อมกับเปลี่ยนชื่อ และใช้นามสกุลใหม่เรียบร้อย ตอนนี้เธอคือ พลอย-จิรชยา เจียวพงษ์พิพัฒน์ ภรรยาของ บุ๊ค-ปิย เจียวพงษ์พิพัฒน์ หลานเจ้าของธุรกิจสบู่ มาดามเฮง ช่วงชีวิตที่หายไปของเธอน่าสนใจไม่เบา เราขอนัดสัมภาษณ์เธอทันที และในวันนี้ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้าเราคือ พลอย เสียงเล็กๆ ที่รอยยิ้มยังคงเหมือนเดิม

พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์ ในอดีต

วัยเด็ก กับความโด่งดัง

พลอย เล่าให้ฟังว่า ช่วงวัยเด็กที่เริ่มเป็นนักร้องตอนนั้นมีอายุเพียง 12-13 ปี เป็นช่วงชีวิตที่ดีมาก เวลาเดินไปไหนมาไหนมีคนรู้จัก และคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเธอจะมีเพลงเป็นของตัวเองมากกว่า 50 เพลง หรือ 5 อัลบั้ม ซึ่งไม่รวมเพลงที่ไปร่วมร้องกับศิลปินคนอื่นๆ ด้วยความฮอตฮิตของเพลง ทำให้เธอต้องทำงานหนักตั้งแต่วัยเด็ก ความเสียดายในการใช้ชีวิตวัยรุ่นเกิดขึ้นบ้างเป็นครั้งคราว

 “วันเสาร์ อาทิตย์ เพื่อนจะนัดไปเที่ยวกัน เราก็อดเจอเพื่อน แทนที่จะได้เรียนหนังสือเต็มวัน เราก็เรียนครึ่งวันแล้วออกไปร้องเพลง ตอนนั้นเครียดนะ เพราะเวลาร้องเพลงทุกครั้งเราต้องซ้อม บางทีเรียนหนังสือด้วย ไม่มีเวลาร้องเพลง เราก็จะกดดันว่าจะร้องได้ดีไหม เพราะเราร้องสดทุกครั้ง บางทีร้องเป็นชั่วโมง อย่างต่ำจะต้องซ้อมร้องเพลงวันละ 20 รอบ ทุกวัน กินข้าวเสร็จก็ต้องร้อง ต้องซ้อมบ่อยๆ จะได้อยู่ตัว เวลาไปคอนเสิร์ตจะได้ไม่เหนื่อย เพราะต้องเดิน ต้องกระโดด”

แต่ถ้าถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้ พลอย จะกลับไปแก้ไขอดีตหรือเปล่า เธอตอบอย่างมั่นใจว่า ไม่อยากย้อนค่ะ เพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นคือเรื่องราวดีๆ ของเธอ

พลอย ตอนทำอาชีพ แอร์โฮสเตส

นักร้องเสียงใส สู่แอร์โฮสเตส อาชีพในฝันของสาวๆ

หลายคนที่ติดตามจะรู้ว่า พลอย เริ่มเฟดตัวออกจากวงการเพลง หลังจากออกอัลบั้ม “ล้านกิโลเมตร” เมื่อปี พ.ศ. 2551  หลังจากนั้นสิ่งที่เราได้เห็นคือ เธอก้าวเข้าสู่อาชีพ แอร์โฮสเตส เต็มตัวกับสายการบินดังอย่าง บางกอกแอร์เวย์

“พลอยเรียนจบแล้วสอบแอร์ได้ที่บางกอกแอร์เวย์ ก็เลยลองมาทำงานแอร์เพราะคิดว่ามั่นคงดี ตอนนั้นลองสมัครแล้วได้พอดี เรารู้สึกว่าเป็นงานแรก สมัครที่เดียวแล้วได้ด้วย เลยรู้สึกดีใจ เงินเดือนค่อนข้างสูงด้วย เป็นแอร์สนุกนะคะ แต่พอเพื่อนที่ทำงานประจำนัดเจอกัน ศุกร์ เสาร์ เราไม่ได้ไปเจอเขา เราก็รู้สึกห่างจากเพื่อน เริ่มเครียดว่าเพื่อนจะลืมเรา (หัวเราะ) เพื่อนห่างหาย งานก็หนัก เป็นคนคิดมาก นอยด์ไปเอง ไม่มีเวลาทำอะไรเลย เพราะต้องกลับบ้านไปนอนเพื่อตื่นเช้าไปทำงาน แต่ทุกอย่างก็เป็นการฝึกวินัยของเราด้วย”

แม้จะเป็นงานที่ท้าทาย แต่เมื่อถึงจุดที่คิดว่าเวลาชีวิตเริ่มรวน ประกอบกับมีความตั้งใจอยากไปเรียนภาษาเพิ่มเติม เธอจึงตัดสินใจบอกลาอาชีพแอร์โฮสเตสสายการบินบางกอกแอร์เวย์ หลังจากทุ่มเทมาเป็นเวลา 1 ปีเต็มๆ พร้อมตัดสินใจบินตรงไปอเมริกาทันที และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น 2 ปี ก่อนจะกลับมาเป็นแอร์โฮสเตสอีกครั้ง กับสายการบิน ซิตี้แอร์เวย์ ที่ให้บริการแบบเช่าเหมาลำในเส้นทาง กรุงเทพ ฮ่องกง และเธอก็ทำเพียง 1 ปี ก่อนจะตัดสินใจไปเรียนเพิ่มเติมที่สิงคโปร์

เมื่อถามว่า เธออยากจะกลับไปทำอาชีพแอร์โฮสเตสอีกหรือเปล่า เธอตอบกลับอย่างตรงไปตรงมาว่า “คงไม่ได้ เพราะตอนนี้อ้วนขึ้นค่ะ”

IG ploylittlevoiceพลอย และ บุ๊ค สามีสุดที่รัก

อวบอ้วนแบบมีความสุข

ในช่วงที่ พลอย เป็นนักร้อง เธอเป็นสาวร่างเล็กที่มีน้ำหนักเพียง 37-39 กิโลกรัมเท่านั้น และในช่วงอายุ 25 ปี เธออยากเพิ่มน้ำหนักขึ้นมาสัก 10 กิโลกรัม เพื่อที่จะได้ดูตัวโตขึ้นมา จากการฝืนกินจนเป็นนิสัย ทำให้เธอน้ำหนักขึ้นสมความตั้งใจ แต่ไม่นานนักก็หยุดไม่ได้ พุ่งทะยานไปถึง 56 กิโลกรัม แต่น้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นไม่ใช่ความทุกข์ของเธอแต่อย่างใด

“ไม่เสียใจนะ ถ้ามีคนมาทักพลอยก็จะบอกว่าพลอยกินเยอะขึ้น จะไม่โกรธ (หัวเราะ) ตอนนี้เราก็มีครอบครัว มีพ่อมีแม่ คนที่เรารัก รับเราได้ ไม่จำเป็นที่จะผอมเหมือนเดิม ถ้าเรามีความสุข ดูแลตัวเอง ไปออกกำลังกาย น้ำหนักมันต้องค่อยๆ ลง ตอนนี้หนัก 53 กิโลกรัม พลอยมองว่าเรื่องสุขภาพก็สำคัญ น้ำหนักก็สำคัญ แต่บางคนไม่ผอมมาก แต่สุขภาพดี อันนี้พลอยว่าดี ตอนนี้เราแฮปปี้กับตัวเอง เพราะเราเป็นคนชอบซื้อของ เมื่อก่อนตอนเด็กๆ เราไม่เคยได้ลองเสื้อผ้าเลย เพราะใส่ได้แค่ไซส์ S หรือ XS แต่คราวนี้เรามีความสุข ที่ได้หยิบเสื้อผ้าไปลองหลายๆ ไซส์ อีกอย่างเสื้อผ้าคนผอมมีให้เลือกน้อยมาก เรามีความสุขกับการแต่งตัวมากขึ้น”

IG ploylittlevoiceพลอย บุ๊ค จดทะเบียนอย่างเรียบง่าย

เส้นทางความรักของ พลอย และ บุ๊ค

อย่างที่บอกไปตั้งแต่เริ่มต้น พลอย ได้จดทะเบียนสมรสกับ บุ๊ค-ปิย เจียวพงษ์พิพัฒน์ หนุ่มนักธุรกิจอนาคตไกล อายุน้อยกว่าเธอ 4 ปี หลานชายเจ้าของธุรกิจสบู่ชื่อดัง “มาดามเฮง” พลอย เล่าให้ฟังแบบฮาๆ ว่า บุ๊ค คือรักแรกพบของเธอ เห็นแล้วความรู้สึกใช่เกิดขึ้นในใจตั้งแต่วันแรก

“เขาเป็นเพื่อนของเพื่อนค่ะ เราสะดุดตาตอนนั้นก็เล็งเลยว่าคนนี้ล่ะ (หัวเราะ) แล้วพอมีโอกาสได้เจอกัน เขาก็คุยกับเราไม่หยุดเลย มีอยู่วันหนึ่งเราคุยเรื่องอะไรสักอย่าง แล้วพลอยก็พูดว่าเป็นเพื่อนกันนั่นแหละเนาะ เขาก็เงียบไป แล้วถามว่า เป็นเพื่อนเหรอ เราเลยถามเขาว่า อ้าว แล้วเป็นไรล่ะ เขาเลยบอก เป็นแฟน เราก็เลย อ๋อเหรอ อืม เป็นแฟนก็เป็นแฟน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเราเคยเป็นนักร้อง พอเราบอกว่าเราเคยเป็น เขาก็รีบกลับไปถามเพื่อน ว่ารู้จัก พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์ ไหม เพื่อนเขารู้จัก ตอนนี้โหลดเพลงเรามาฟังแล้วค่ะ”

พลอย และแหวนแต่งงานของเธอ

พลอย กับ บุ๊ค ใช้เวลาคบหาดูใจกันมา 8 เดือน ก่อนทำพิธียกน้ำชา และ จดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา ทั้งคู่มีความคิดเห็นตรงกันว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องจัดงานแต่งงานอย่างหรูหราและใหญ่โต เพราะมองว่าเป็นการสิ้นเปลืองเกินไป แค่คนสองคนรักกัน และจดทะเบียนเป็นสามี ภรรยา ก็เพียงพอแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่จัดงานฉลองสมรส เพราะทั้งคู่วางแผนแล้วว่าจะจัดงานฉลองเล็กๆ ในปีหน้าหลังจากที่ พลอย เรียนจบปริญญาโทที่เอแบค โดยตั้งใจฉลองกับคนในครอบครัว และเพื่อนสนิท

“คนนี้ทำให้เรารู้สึกว่าอยากอยู่ด้วย เพราะเขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งแฟน เป็นคนที่อยู่ข้างๆ เป็นคนที่สำคัญมากๆ อยากอยู่กับเขาตลอดชีวิต รู้สึกว่าใช่แล้ว เขาเข้ากับครอบครัวเราได้ แฮปปี้มาก เขาเป็นคนใจเย็น เป็นคนใจดี”

สำหรับเรื่องทายาท พลอย มองว่า 1-2 ปีนี้ จะต้องมีแน่นอน แต่ขอมีเพียง 1 คนเท่านั้น เพราะการที่จะเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้ดี และให้การศึกษาที่ดีที่สุด จะต้องใช้เงินจำนวนมาก และในตอนนี้ ทั้งคู่อาศัยอยู่ที่บ้านของพลอย เพราะกำลังรอบ้านของฝ่ายชายที่กำลังตกแต่งอยู่ หากเสร็จเมื่อไหร่ พลอย และ บุ๊ค จะย้ายไปอยู่เพื่อสร้างครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น

จากวันแรกที่มีผลงานเพลง จนถึงวันนี้ พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์ ยังคงเป็นผู้หญิงที่สดใสและดูเด็กอยู่เสมอ แต่ความคิดและการใช้ชีวิตของเธอโตขึ้นมาก มีการวางแผนการใช้เงินให้คุ้มค่าและรัดกุม

พลอย และน้ำผึ้งแท่ง ธุรกิจตัวใหม่ของเธอ

ปัจจุบันเธอมีความสุขกับการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับชายหนุ่มคนรัก และมีธุรกิจเล็กๆ คือขายน้ำผึ้งแท่งหลายรสชาติทางอินสตาแกรม โดยเป็นสินค้านำเข้าจากสิงคโปร์ ราคาไม่แพง เป็นธุรกิจเล็กๆ ที่เธอทำกับสามี ส่วนงานร้องเพลง เธอยังไม่ทิ้งไปไหน หากใครอยากติดต่อว่าจ้างเธอไปร้องเพลงงานแต่งงาน หรืออีเวนต์ต่างๆ ติดต่อได้โดยตรงที่ IG ploylittlevoice  

>>อัปเดตภาพ "พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์" อดีตนักร้องไอดอล ปัจจุบันจดทะเบียนสมรสแล้ว

อัลบั้มภาพ 56 ภาพ

อัลบั้มภาพ 56 ภาพ ของ ล้วงชีวิต "พลอย ลิตเติ้ลวอยซ์" จากนักร้องเสียงเล็กๆ สู่ (หลาน)สะใภ้ "มาดามเฮง"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook