เปิดใจ "แวร์ โซว" สอนลูกอย่าอายความ "จน" ใช้ชีวิตหรูแต่หนี้ท่วมหัว น่ากลัวกว่าเยอะ

เปิดใจ "แวร์ โซว" สอนลูกอย่าอายความ "จน" ใช้ชีวิตหรูแต่หนี้ท่วมหัว น่ากลัวกว่าเยอะ

เปิดใจ "แวร์ โซว" สอนลูกอย่าอายความ "จน" ใช้ชีวิตหรูแต่หนี้ท่วมหัว น่ากลัวกว่าเยอะ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เห็นนักแสดงสาวรุ่นใหญ่ แวร์ โซว ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางโลกโซเชียล ในทำนองว่า พร้อมที่จะกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง หลังจากที่ต้องหลบไปพักรักษาตัวจากอาการป่วยโรคซึมเศร้าอยู่นานหลายปี

ล่าสุดบรรดาสื่อได้มีโอกาสเจอกับเจ้าตัวและลูกสาว น้องคนดี-ภริตพร แซ่โซว ในงาน Ocean Club Application จึงได้เข้าไปจ่อไมค์ถามถึงที่มาที่ไปของการโพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งสาวแวร์โซวได้เปิดเผยว่า ตอนนี้สุขภาพของเธอดีขึ้นมากแล้ว จึงมีความตั้งใจที่จะกลับมารับงานในวงการอีกครั้ง เนื่องจากยังมีหนี้สินที่ต้องชำระและภาระที่ต้องดูแล พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณแฟนๆ และผู้ใหญ่ที่ยังคอยส่งกำลังใจและให้ความช่วยเหลือเธอกับลูกสาวมาโดยตลอด

"สาเหตุที่ตัดสินใจออกมาโพสต์ข้อความ ก็เพราะอยากให้รู้ว่าหายป่วยจากโรคซึมเศร้าแล้ว และก็พร้อมที่จะกลับมารับงานละครได้เต็มที่ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตอนที่ป่วยพี่ก็ไม่สามารถรับงานได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะตอนนั้นยอมรับเลยว่าไม่สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จึงทำให้ต้องตอบปฏิเสธไปบางงาน ซึ่งตอนนี้พอพี่หายแล้วพี่ก็เลยอยากจะบอกว่าพี่พร้อมแล้วนะ พร้อมที่จะกลับมาทำงานเหมือนเดิม"

"อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ต้องออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กก็คือ พี่มีหนี้สินอยู่ 1 ก้อน โดยตอนแรกพี่มีหนี้อยู่ประมาณ 13 ล้านบาท ซึ่งแต่ละปีที่ผ่านมาพี่ก็พยายามใช้หนี้มาตลอด จนตอนนี้หนี้ของพี่เหลือแค่เพียง 3 ล้านบาทแล้ว เป็นหนี้สินจากการซื้อบ้านซื้อคอนโดและซื้อรถ พี่ก็ไม่อยากให้คนมองว่าพี่มาเรียกร้องของงาน ไม่ช่วยเหลือตัวเอง แต่จริงๆ แล้วพี่ก็เอาทรัพย์สินเงินทองที่เก็บไว้ออกมาจำนำหมด ซึ่งมันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ สุดท้ายพี่ก็เลยต้องออกมาขอความเมตตาจากผู้จัดละครท่านต่างๆ ว่า ตอนนี้พี่สามารถกลับมารับงานได้แล้ว"

"บางคนที่ไม่เข้าใจก็หาว่าพี่ฟุ่มเฟือย ไม่รู้จักประหยัด ไม่รู้จักลดภาระ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะพี่มีปัญหาสุขภาพมันเลยทำให้พี่ทำงานได้น้อยมากกว่า รายได้มันก็เลยไม่เพียงพอกับรายจ่าย"

ทรัพย์สินเงินทองที่มีอยู่ตอนนี้ถือว่ายังเหลือเยอะไหมสำหรับเรา ?
"มันเหลืออยู่นิดเดียวเท่านั้นค่ะ คือพี่จะไม่รอให้มันหมดแล้วค่อยออกมาบอก เพราะที่ผ่านมาพี่ก็พยายามโพสต์บอกมาตลอดว่าของาน ซึ่งตอนนี้คุณหมอก็บอกว่าร่างกายสุขภาพของพี่โอเคแล้ว มันเลยทำให้พี่มีความมั่นใจว่าเราดีขึ้น"

รู้สึกเสียดายหรือท้อไหม จากที่เราเคยมีทุกอย่างแต่ตอนนี้มันแทบจะไม่เหลือแล้ว ?
แวร์ โซว - "ไม่เลยค่ะ เพราะตอนที่เราเกิดเราก็ไม่ได้มีอะไรเลยเหมือนกัน แต่ทุกอย่างที่พี่เคยมีมันเกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของพี่ ซึ่งพี่มองว่ามันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ไม่สามารถหาซื้อกันได้ง่ายๆ อีกอย่างตัวพี่กับลูกเราก็ปรึกษากันแล้ว เราคุยกันมาตลอดว่าเราทั้งคู่ไม่ได้ยึดติดกับวัตถุ พี่ไม่เล่นการพนัน ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ เรากินอยู่กันอย่างพอเพียง มีน้อยเราก็ใช้น้อย เราไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ"

คนดี - "สำหรับคนอื่นหนูไม่รู้นะคะว่าเขาจะรู้สึกยังไง แต่สำหรับตัวหนูเองคุณแม่จะสอนหนูตลอดว่า ให้มองทุกอย่างในชีวิตเป็นประสบการณ์ ดังนั้นหนูเลยมองว่าถึงแม้ตอนที่เราเกิดเราจะมีทุกอย่าง แต่พอถึงวันนี้วันที่เราไม่มีขึ้นมามันก็น่าจะเป็นอะไรที่สนุก เราน่าจะฝ่าฟันความลำบากนี้ไปด้วยกันได้ มันเป็นความท้าทายใหม่ๆ สำหรับเราสองคนค่ะ"

รู้สึกยังไงบ้างเพราะเราเองก็ยังเด็ก แต่ต้องมาเจอกับปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่ขนาดนี้ ?
คนดี - "อย่างที่บอกค่ะคุณแม่หนูจะสอนหนูเสมอว่าให้ยอมรับความเป็นจริง ดังนั้นหนูจึงไม่ได้มองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าสะเทือนใจ หนูก็พยายามปรับตัวไปพร้อมกับคุณแม่สำหรับทุกๆ อย่างที่มันเปลี่ยนไป"

แวร์ โซว - "คืออะไรก็ตามที่เรามีแล้วมันเป็นทุกข์ เราก็เลือกที่จะไม่มีมันดีกว่า ขอเอาทุกข์นั้นออกไปจากตัวเราดีกว่า ขอแค่มีทุกข์ให้น้อยที่สุดก็พอ"

Facebook แวร์ โซวแวร์ โซว คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ชีวิตสอนให้ต้องสตรอง

กระแสคอมเมนต์บางคนก็มองว่าสิ่งที่เราทำไม่กลัวลูกเราจะอายบ้างเลยเหรอ ?
"พี่ก็อยากจะถามกลับว่า ถ้าเรามีบ้านหรูอยู่อย่างไฮโซ แต่เราเป็นหนี้สินจนล้นพ้นตัว แถมยังถูกเขาทวงหนี้ทั้งเช้าทั้งเย็น ชีวิตแบบนั้นเรามีความสุขจริงๆ เหรอ เรื่องนี้กับเรื่องถูกเพื่อนล้ออันไหนน่ากลัวกว่ากัน พี่มองว่าค่านิยมที่บอกว่า ถ้าเราไม่มีเงินและเราลุกขึ้นสู้เป็นเรื่องน่าอาย มันไม่ใช่เลยค่ะ เพราะในเมื่อถึงวันหนึ่งที่เราไม่มี เราต้องยอมรับให้ได้ และสิ่งที่พี่ทำ พี่ก็ของานทำพี่ไม่ได้ขอเงินใคร ดังนั้นพี่จึงอยากจะถามกลับว่ามันน่าอายตรงไหน"

คนดี - "หนูคิดตรงกับคุณแม่เลยค่ะ คือเราไม่จำเป็นจะต้องมานั่งอาย หรือมานั่งวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสตอบรับที่เกิดขึ้น"

แวร์ โซว - "คือถ้าเราไม่มีเราก็ต้องสอนให้เขายอมรับและสอนให้เขารู้จักประหยัด หรือถ้าเราอยากจะมีกินมีใช้เราก็ต้องขยัน ขยันทำงาน ไม่ใช่เที่ยวตระเวนออกไปขอเงินใคร เอาแต่ขอคนอื่น พี่มองว่ามันเป็นการกระทำที่ผิดวิธี ฉะนั้นถ้าถามว่าพี่อายไหมพี่บอกเลยว่าพี่ใช้คติ ด้านได้อายอดค่ะ"

หลังจากที่ออกมาประกาศขายคอนโดมีคนติดต่อมาบ้างหรือยัง ?
"มีเยอะมากค่ะตอนนี้ เดี๋ยวคงต้องนัดกันว่าใครถูกใจอะไรยังไง ส่วนงานในวงการก็คงยังไม่ได้เร็วอะไรขนาดนั้น เพราะมันต้องมีการวางตัวมีเรื่องความเหมาะสมของบทของคาแรคเตอร์ ก็ต้องใช้เวลาค่ะ"

มีความตั้งใจอยากจะให้ลูกทำงานในวงการด้วยไหม ?
แวร์ โซว - "ต้องถามเขาเองเขาว่าเขาชอบหรืออยากทำหรือเปล่า"

คนดี - "หนูก็ชอบนะคะสำหรับงานในวงการ และถ้ามีผู้ใหญ่ใจดีที่อยากจะมอบงานให้หนู หนูก็ยินดีรับไว้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงต้องดูเรื่องความเหมาะสมด้วยว่ามันจะโอเคหรือเปล่า เพราะหนูเองก็อยากจะมีประสบการณ์เหมือนกันค่ะ"

>> "แวร์ โซว" ลั่นไม่อายคนดูถูก หลังโพสต์ของานหาเงินใช้หนี้ 3 ล้าน

>> "แวร์ โซว" ฝืนชีวิตไม่ไหวแล้ว เอ่ยของานละครเพื่อเลี้ยงลูกสาวและใช้หนี้ 3 ล้าน

>> "น้องคนดี" ลูกแม่ "แวร์ โซว" เผยนาทีชีวิตแม่ป่วยซึมเศร้า "โดดตึก-กินยาตาย-ทำร้ายตัวเอง"

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ เปิดใจ "แวร์ โซว" สอนลูกอย่าอายความ "จน" ใช้ชีวิตหรูแต่หนี้ท่วมหัว น่ากลัวกว่าเยอะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook