หนุ่มไทยยกมือไหว้ขอโทษ โดนทางการลาวกักตัว แอบเข้าพื้นที่ตอนดึก

หนุ่มไทยยกมือไหว้ขอโทษ โดนทางการลาวกักตัว แอบเข้าพื้นที่ตอนดึก

หนุ่มไทยยกมือไหว้ขอโทษ โดนทางการลาวกักตัว แอบเข้าพื้นที่ตอนดึก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หนุ่มไทยได้รับอิสระกลับสู่มาตุภูมิ หลังทางการ สปป.ลาว กักตัวเอาไว้ข้ามวัน เจ้าตัวโพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ ไหว้ยอมรับผิด เพราะพลาดไม่รู้กฎในท้องถิ่น

เมื่อคืนวานนี้ (19 มี.ค.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน นายกิตติศักดิ์ หล่อปฏิมากร รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว พร้อมด้วย นายรังสรรค์ คัมภีรานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พ.ต.อ.แดนไทย แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม นายเอกราช มณีกรรณ์ นายอำเภอเมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้พา นายเอกลักษณ์ อายุ 37 ปี ศิลปินอินดี้อิสระ กลับมายังด่านพรมแดนไทย-ลาว หลังมีการไปเจรจาขอรับตัวกลับจากเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน เพราะถูกควบคุมตัวไว้ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าตัวได้โพสต์เฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือ

ล่าสุด นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้มีการหารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้ง ตม.นครพนม ฝ่ายปกครอง ประสานไปยังกุสุลใหญ่แขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเจรจาช่วยเหลือ ทำให้ทางการลาว อนุญาตปล่อยตัว และรับตัวกลับมาอย่างปลอดภัย

นายกิตติศักดิ์ หล่อปฏิมากร รองกงสุลใหญ่ประจำแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว ได้เปิดเผยว่า สำหรับปัญหาการกักตัวของทางการลาวในครั้งนี้ จากการตรวจสอบและหารือกับทางเจ้าหน้าที่ลาว ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางคืนวันที่ 18 มีนาคม 2562 นั้น นายเอกลักษณ์ ได้เดินทางข้ามไปยังเมืองท่าแขก แขวงคำม่วน สปป.ลาว ผ่านด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน เพื่อไปทำธุระ และพาชาวลาวที่รู้จักกันเข้าไปเอาสัมภาระที่บ้านโคกป่าทอน เมืองท่าแขวง แขวงคำม่วน สปป.ลาว

แต่ในการเข้าไปในหมู่บ้านครั้งนี้นั้น ไม่ได้มีการแจ้งหรือขออนุญาตใดๆ กับทางเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของหมู่บ้าน จนทำให้เกิดเป็นความเข้าใจผิดระหว่างเจ้าหน้าที่ เกรงว่าจะเข้าไปกระทำผิดในพื้นที่ จึงมีการควบคุมตัวไว้สอบสวน แต่ไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆ

กระทั่ง นายเอกลักษณ์ ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก เพื่อขอความช่วยเหลือให้ทางการไทยได้รับทราบ กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยได้เข้าไปตรวจสอบและช่วยเจรจา ในที่สุดทางการลาวก็ยินดีที่จะปล่อยตัว โดยไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่เป็นการกักตัวไว้ตรวจสอบตามกฎระเบียบของหน่วยงานความมั่นคงเท่านั้น

แต่เมื่อตรวจสอบแล้ว พบว่า นายเอกลักษณ์ ไม่ได้มีการกระทำผิด จึงได้ปล่อยตัวกลับมา ซึ่งถือเป็นระเบียบการปฏิบัติของหมู่บ้านที่เข้มงวด ตรวจตราคนเข้าออก แต่คนที่เดินทางเข้าไปอาจไม่เข้าใจ จนเกิดการเข้าใจผิด ซึ่งต้องขอขอบคุณทางการลาวที่ให้ความเมตตาช่วยเหลือ โดยไม่ได้มีปัญหาด้านอื่น และไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้จึงอยากจะฝากไปยังประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เดินทางไปยัง สปป.ลาว จะต้องศึกษากฎหมาย ระเบียบการปฏิบัติ จะได้ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมายของทางการลาว

ขณะที่ นายเอกลักษณ์ ยกมือไหว้ขอโทษในกรณีนี้ พร้อมกับเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเรื่องตนได้เดินทางมาเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลนครพนม เนื่องจากในช่วง 3 วันที่ผ่านมา แม่ที่ทำงานอยู่สหรัฐอเมริกาได้เดินทางมาทำบุญที่แขวงคำม่วน สปป.ลาว เพราะรู้จักมักคุ้นกับชาวลาวที่ไปทำงานต่างประเทศด้วยกัน จึงมีการไปมาหาสู่มาอยู่บ่อยๆ

แต่ครั้งนี้ แม่และคณะมาเที่ยว เช่ารถมาจากเวียงจันทน์ เพื่อมาทำบุญที่แขวงคำม่วน จากนั้นแม่เจ็บป่วย มีปัญหาทำร้ายร่างกายจากทะเลาะวิวาทส่วนตัว แต่ไม่ทราบรายละเอียด จึงได้ข้ามมาตรวจรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม พอตนทราบข่าวจึงเดินทางมาดูแลแม่ และชักชวน คนรู้จักที่ข้ามมากับแม่ ขับรถย้อนไปเอาสัมภาระในหมู่บ้าน แต่ก็ไปถึงช่วงเวลาหัวค่ำแล้ว

นายเอกลักษณ์ ยอมรับว่าไม่ได้ประสานหรือแจ้งใคร ทำให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงมาตรวจสอบ พบว่าตนนั่งในรถเป็นเหตุให้เข้าใจผิดว่าจะเข้ามากระทำผิดกฎหมาย จึงได้ถูกควบคุมตัวเอาไว้ตรวจสอบ ทำให้ตนตกใจและโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือไปยังเมืองไทย

ทั้งนี้ยอมรับว่าเคยเข้ามาเที่ยว สปป.ลาว แต่ไม่เคยเข้ามาตอนกลางคืน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ตนยอมรับว่าผิด และกราบขอโทษ พร้อมทั้งขอบคุณทางการลาว รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาจมีบางคำที่รุนแรงหลุดออกไป เพราะความกลัว อย่างไรก็ตามยอมรับผิดว่าไม่เข้าใจกฎระเบียบหมู่บ้าน ถือเป็นบทเรียนสำคัญ และขอกราบขอบคุณทุกฝ่ายที่ดูแลช่วยเหลือ

พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล ผกก.ตม.นครพนม กล่าวว่า ในการเดินทางข้ามประเทศไม่ว่าประเทศไหน สำคัญที่สุดจะต้องมีการศึกษาขั้นตอนการเดินทางรวมถึงระเบียบข้อกฎหมาย เพราะแต่ละประเทศมีกฎหมายระเบียบวิธีปฏิบัติที่แตกต่างกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง เพราะหากทำผิดอาจถูกดำเนินคดี ซึ่งทาง ตม.มีเจ้าหน้าที่ดูแลแนะนำทุกจุด ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหา ต้องทำตามขั้นตอน เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook