โจรแสบตัดไฟ-หันกล้อง ก่อนงัด 4 ตึกในมหาวิทยาลัย กวาดทรัพย์สินกว่า 2 แสน

โจรแสบตัดไฟ-หันกล้อง ก่อนงัด 4 ตึกในมหาวิทยาลัย กวาดทรัพย์สินกว่า 2 แสน

โจรแสบตัดไฟ-หันกล้อง ก่อนงัด 4 ตึกในมหาวิทยาลัย กวาดทรัพย์สินกว่า 2 แสน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(10 มี.ค.) ตำรวจ สภ.ช้างเผือก พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบและเก็บพยานหลักฐานในห้องทำงานในอาคารสำนักงานคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ รวมทั้ง ห้องกองคลัง สำนักงานอธิการบดี อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยฯว่า เกิดเหตุคนร้ายงัดประตูและทุบกระจกเข้าไปขโมยเงินภายในตู้เซฟ และทรัพย์สินมีค่าต่างๆ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายในจุดต่างๆ ที่เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน รวมทั้งประตูกระจกที่คนร้ายงัดเข้าไป และ นอกจากสองอาคารที่ถูกคนร้ายงัดพังประตูเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ยังมีอาคารอื่นๆ อีก รวมทั้งหมด 4 อาคาร 5 ห้องทำงาน ที่ถูกงัดแงะ ส่วนใหญ่เป็นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่คณะต่างๆ

เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ระบุว่า วันนี้มหาวิทยาลัยยังเปิดทำการ มีเจ้าหน้าที่มาทำงานกันตามปกติ และมีนักศึกษาเดินทางมาสอบตามตาราง เมื่อช่วงเช้าหลังเดินทางมาทำงานพบว่าประตูกระจกห้องกองคลัง สำนักงานอธิการบดี ถูกคนร้ายงัดจนกระจกแตกได้รับความเสียหาย และยังได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่คณะที่อยู่ในอาคารอื่นๆว่า ห้องทำงานถูกงัดเช่นกัน จึงรีบแจ้งตำรวจเข้าตำรวจสอบ

ขณะที่การตรวจสอบเงินและทรัพย์สินที่ถูกคนร้ายขโมยไป เบื้องต้นคาดว่าประมาณ 1-2 แสนบาท ซึ่งยังไม่รวมความเสียหายของทรัพย์สินอื่นๆ เช่นประตู และกระจกที่ถูกคนร้ายงัดจนเสียหาย โดยทางมหาวิทยาลัยฯจะต้องประเมินความเสียหายและแจ้งตำรวจทราบอีกครั้ง

จากการสอบสวนทราบว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.00 น. เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยแจ้งว่าเกิดไฟดับที่อาคารสำนักงานอธิการบดี โดยไฟดับจนถึงช่วงเช้า ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าคนร้ายอาจตัดกระแสไฟฟ้าก่อนลงมือก่อเหตุ เพื่อตัดการทำงานของกล้องวงจรปิด ขณะเดียวกันยังได้หันกล้องวงจรปิดนับ 10 ตัว ที่ติดไว้ตามจุดต่างๆ ขึ้นเพดาน เชื่อว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นบุคคลภายในที่รู้ข้อมูลภายในเป็นอย่างดี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดอื่นๆ ภายในมหาวิทยาลัย รวมทั้งสอบปากคำเจ้าหน้าที่ และพนักงานรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook