พ่อเล่าเหตุการณ์สุดอึ้ง อ้างพยาบาลทำลูกตาย เด็กออกมาครึ่งตัว-สิ้นใจคาช่องคลอด

พ่อเล่าเหตุการณ์สุดอึ้ง อ้างพยาบาลทำลูกตาย เด็กออกมาครึ่งตัว-สิ้นใจคาช่องคลอด

พ่อเล่าเหตุการณ์สุดอึ้ง อ้างพยาบาลทำลูกตาย เด็กออกมาครึ่งตัว-สิ้นใจคาช่องคลอด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อเวลา 13.20 น. นายบัวขาว อายุ 47 ปี และ นางจันจิรา อายุ 25 ปี สองสามีภรรยาได้เดินทางมาที่สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไพรัตน์ วรรณี สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับทางทีมแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี ที่กระทำการโดยประมาทที่ทำให้ลูกตนเองเสียชีวิตขณะคลอด โดยเหตุกาณ์เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ต่อเนื่องวันที่ 7 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา

นายบัวขาว เปิดเผยว่า ตนเองและภรรยาแต่งงานกันและอยากมีลูกไว้สืบตระกูล กระทั่งภรรยาเกิดตั้งท้อง ตนเองจึงนำไปภรรยาไปฝากท้องที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง จนภรรยาตั้งท้องได้ 12 สัปดาห์ จึงให้ภรรยาลาออกจากงานประจำ เพื่อมาอยู่บ้านเฉยๆ เพราะกลัวว่าภรรยาต้องทำงานหนักแล้วจะแท้งลูก จนกระทั่งประกันสังคมขาดจึงดำเนินเรื่องทำบัตรทอง 30 บาท โดยมีต้นสังกัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจ.ปทุมธานี จนวันที่ 6 มีนาคม 2562 เวลาประมาณ 10.00 น. ภรรยาเกิดเจ็บท้องน้ำเดินตนเองจึงนำไปส่งที่รพ.ลำลูกกาเพราะอยู่ใกล้บ้า นแต่เมื่อเดินทางไปถึงแล้วพยาบาลได้ทำการเช็คสิทธิ์และตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าต้นสังกัดอยู่ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ประกอบกับปากมดลูกเปิดอยู่ที่ 2เซนติเมตร จึงรีบให้ตนเองพาภรรยาไปที่โรงพยาบาลต้นสังกัด เพราะยังอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย

ตนเองจึงเดินทางมาถึงโรงพยาบาลในเวลาประมาณ 11.00 น.โดยเมื่อมาถึงพยาบาลได้นำภรรยาเข้าห้องคลอดไปโดยให้ตนเองเฝ้าหน้าห้องและพยาบาลก็ออกมาบอกตลอดเวลาว่าช่องคลอดเปิดกี่เซนติเมตร และแม่ของเด็กมีน้ำตาลในเลือดสูง "เด็กตัวโตอาจจะคลอดยากหน่อยนะคุณพ่อ" กระทั่งเวลาผ่านไปเนิ่นนานจนเวลา 22.00 น. ภรรยาตนเองปวดท้องหนัก หายใจไม่ออกจึงร้องขอให้พยาบาลเรียกตนเองเข้าไปหา เมื่อตนเองเดินไปพบภรรยาที่นอนอยู่บนเตียงภรรยาจึงบอกให้ทราบว่า อุปกรณ์ที่ให้ออกซิเจนซึ่งปิดจมูกอยู่นั้นออกซิเจนไม่ออก ตนจึงลองนำมาครอบจมูกตนเองก็พบว่าไม่มีลมออกมาจึงไปแจ้งพยาบาล จึงนำออกซิเจนมาเปลี่ยนให้

กระทั่งเวลา 23.00 น. พยาบาลได้พาภรรยาเข้าไปในห้องทำคลอด โดยให้ตนเองออกมารอหน้าห้องคลอด กระทั่งเวลา 01.00 น. พยาบาลออกมาบอกตนเองว่า "คุณพ่อทำใจนะ ลูกไม่ค่อยดีนะ" ก่อนที่พยาบาลอีกคนจะตะโกนให้รปภ.ไปตามหมอมา ซึ่งหมอมีบ้านพักอยู่ด้านหลัง รปภ.กลับตอบมาว่า “ต้องให้พยาบาลไปตามเสียงหวานๆ ไม่งั้นเขาไม่ออกมาหรอก” ตนเองก็คิดในใจนี่คือระบบอะไรของโรงพยาบาล ก่อนที่พยาบาลคนหนึ่งจะทำการสนทนาทางโทรศัพท์กับใครไม่ทราบ แต่ได้ยินชัดเจนว่า “ต้องให้กูถ่ายรูปคาส่งให้มึงดูมั้ย” ก่อนที่แพทย์จะเดินทางมาถึง ตนเองจึงเดินเปิดประตูตามหลังแพทย์เข้าไปเพราะคิดว่าภรรยาตนเองมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่ พยาบาลจึงบอกว่าเข้ามาทำไม ตนเองจึงบอกว่าเป็นพ่อเด็ก ตอนนั้นเห็นแล้วว่าลูกตนเองติดคาอยู่ที่ช่องคลอดของภรรยา โดยมีออกซิเจนสวมอยู่ที่จมูกลูกชาย แต่ตนเองก็ไม่ได้โวยวายเพราะกลัวว่าถ้าโวยวายภรรยาจะต้องเกิดอันตราย ก่อนที่แพทย์จะบอกให้ทำการส่งตัวโดยให้ตนไปรอข้างล่าง จนเวลาผ่านไป 20 นาที คือเวลา 01.25 น. จึงทำการเคลื่อนย้ายภรรยาตนเองและลูกชายที่คลอดออกมาเพียงครึ่งตัวขึ้นรถโรงพยาบาลส่งตัวไปที่โรงพยาบาลปทุมธานี

นายบัวขาว เปิดเผยต่อไปทั้งน้ำตาว่า เมื่อไปถึง โรงพยาบาลปทุมธานี ทีมแพทย์ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการใช้เครื่องดูดลูกตนเองออก ก่อนที่ทีมแพทย์จะออกมาบอกว่ากำลังช่วยชีวิตน้องอยู่ หัวใจน้องไม่เต้น แต่แม่ปลอดภัย ตนเองจึงพูด โดยตนเองคิดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นมาจากทีมทำคลอดของ รพ.แห่งแรก ที่กระทำการผิดพลาด ลูกตนเองหลังเสียชีวิตมีน้ำหนักถึง 3,800 กรัม แต่ตอนอัลตราซาวด์ก่อนทำคลอดมีน้ำหนักเพียง 2,800 กรัม จริงๆ แล้วเด็กตัวใหญ่น่าจะต้องผ่าคลอด และยังทำการเคลื่อนย้ายภรรยาตนเองจากรพ.หนึ่งมาอีกรพ.หนึ่งโดยที่เด็กยังคาอยู่ที่ช่องคลอดนั้นคือเรื่องปกติหรือ หลังเกิดเหตุทางรพ.แห่งแรก ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมาเยียวยาโดยการมอบเงินให้ 10,000บาท ซึ่งตนเองไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการได้ลูกกลับคืนมา

พ.ต.ท.ไพรัตน์ วรรณี สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองปทุมธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความและสอบปากคำไว้เป็นหลักฐานพร้อมประสานแพทย์ รพ.ปทุมธานี ในการตรวจชันสูตรเบื้องต้น ทราบว่าเด็กได้เสียชีวิตมาก่อนถึงโรงพยาบาล หลังจากนี้จะได้เรียกแพทย์และพยาบาลมาทำการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง และส่งศพไปชันสูตรเพื่อหาสาเหตุ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอีกครั้งหนึ่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook