เผย 4G ที่เร็ว แรง และมีคุณภาพที่สุดในปี 2018 จาก nPerf

เผย 4G ที่เร็ว แรง และมีคุณภาพที่สุดในปี 2018 จาก nPerf

เผย 4G ที่เร็ว แรง และมีคุณภาพที่สุดในปี 2018 จาก nPerf
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทราบผลกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับผลการทดสอบ 4G ที่เร็วแรง และมีคุณภาพที่สุดในปี 2018 จาก nPerf พบว่า ทรูมูฟ เอช คว้ารางวัล “เครือข่าย 4G ที่ดีที่สุดในประเทศไทยประจำปี 2018” เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันจาก nPerf ตั้งแต่ปี 2016-2018 โดยทรูมูฟ เอช สามารถทำคะแนนรวมได้สูงที่สุด สำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่ การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) โดยมีคะแนนรวมสูงสุด 50,155 nPoints ตอกย้ำความเป็นผู้นำ 4G ที่แท้จริงของทรูมูฟ เอช ซึ่งรางวัลนี้สามารถการันตีเรื่องความแรง ความเสถียร และครอบคลุมที่สุดได้เป็นอย่างดี

*nPerf เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ทดสอบความเร็วของเครือข่ายแบบรอบด้านระดับโลก โดยทดสอบความเร็วและคุณภาพการเชื่อมต่อด้วย Mobile Internet ทั้ง 2/3/4/4.5G ของประเทศไทยประจำปี 2018 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2018  ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018  โดยมีผลการทดสอบที่เก็บได้ทั้งหมด 1,197,530 ครั้ง

นายอดิศักดิ์   ประสงค์ทรัพย์  หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า  “เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ ทรูมูฟ เอช ได้รับรางวัล เครือข่าย 4G ที่ดีที่สุดในประเทศไทยประจำปี 2018 3 ปีต่อเนื่องจาก nPerf บริการทดสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตบนมือถือที่ทั่วโลกให้การยอมรับ โดยผลการทดสอบสะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเครือข่ายโดยรวมที่ผู้ใช้เชื่อมต่อตลอดทั้งปี 2018 พบว่าทรูมูฟ เอช มีคะแนนที่ห่างกว่าผู้ให้บริการรายอื่นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่ การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) ไม่ว่าจะเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม  ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทรูมูฟ เอช ในการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสารของไทยให้มีคุณภาพทัดเทียมนานาประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การสื่อสารที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าชาวไทย

โดยเทคโนโลยีที่ทรูมูฟ เอช นำมาใช้งานในปัจจุบัน อาทิ การขยายเครือข่าย 4G+ แบบ 3CA หรือการรวมคลื่น 900/1800/ 2100 MHz เข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้ได้ความเร็วสูงระดับ 300 Mbps  และยังได้ขยายสัญญาณเพิ่มเติมด้วยการอัปเกรดเครือข่ายให้รองรับการส่งสัญญาณแบบ 4x4 MIMO ตลอดจนขยายเพิ่มเป็น 8x8 MIMO ให้ครอบคลุมทุกจังหวัด  รวมถึงการเปิดให้บริการเทคโนโลยีมาตรฐานโลก FDD Massive MIMO 32T32R เป็นรายแรกของโลก โดยมีจุดเด่นที่การกระจายช่องสัญญาณให้สามารถรองรับการรับส่งข้อมูลของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ จึงเสมือนมีช่องสัญญาณส่วนตัว  ช่วยเพิ่ม capacity ถึง 4 เท่า ทำให้รองรับจำนวนผู้ใช้งานได้มากขึ้น โดยเปิดให้บริการแล้วในบริเวณที่มีการใช้งานหนาแน่น และล่าสุดได้นำเทคโนโลยี 5G มาให้คนไทยได้สัมผัสประสบการณ์ 5G บนสภาพแวดล้อมจริงอีกด้วย”

ทั้งนี้ nPerf เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ทดสอบความเร็วของเครือข่ายแบบรอบด้านระดับโลกจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งให้บริการมาตั้งแต่ปี 2003 โดยทดสอบคุณภาพการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือทั้งระบบปฎิบัติการ iOS, Android และ Windows Phone ได้ประกาศผลการทดสอบความเร็วและคุณภาพการเชื่อมต่อด้วย Mobile Internet ทั้ง 2/3/4/4.5G ของประเทศไทย ในปี 2018 ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2018  ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2018 โดยมีผลการทดสอบที่เก็บได้ทั้งหมด 1,197,530 ครั้ง ทั้งนี้ nPerf scores มีการคำนวณเป็นคะแนน nPoints คือการให้คะแนนโดยรวมสำหรับคุณภาพการเชื่อมต่อในทุกด้าน ได้แก่การวัดผลความเร็ว (Speedtest) การเข้าใช้งานเว็บไซต์ต่างๆ (Browsing Test) และการสตรีมมิ่ง (VDO Streaming) ไม่ว่าจะเชื่อมต่อด้วยเทคโนโลยีใดๆ ก็ตาม nPoints สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของเครือข่ายโดยรวมที่ผู้ใช้เชื่อมต่อตลอดทั้งปี 2018 จะเห็นได้ว่า ทรูมูฟ เอชทำคะแนนได้สูงที่สุด โดยมีคะแนนที่ห่างกว่าผู้ให้บริการรายอื่นอย่างเห็นได้ชัด คือ 50,155 nPoints

ข้อมูลอ้างอิงจาก https://www.nperf.com/en/awards/th/2018/mobile/thailand/

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook