ส.ว.ขู่คว่ำพ.ร.ก.กู้เงินฯ หากรถเมล์ผ่านครม.

ส.ว.ขู่คว่ำพ.ร.ก.กู้เงินฯ หากรถเมล์ผ่านครม.

ส.ว.ขู่คว่ำพ.ร.ก.กู้เงินฯ หากรถเมล์ผ่านครม.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โสภณ นำโครงการเช่ารถเมล์เข้าครม. อ้างศึกษาดีแล้ว ระบุ โครงการไม่ดีจริงก็จะเป็นตราบาปให้ภูมิใจไทยตลอดไป ลั่น ไม่หวังหาทุนเลือกตั้ง ย้ำถ้าครม.ตีกลับพรรคก็ไม่ถอนตัวจากรัฐบาล ด้านส.ว.สรรหา ระบุ ถ้ารถเมล์ฉาวผ่านครม.เจอส.ว.คว่ำพ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนบาท

นายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม กล่าวยืนยันเสนอ โครงการเช่ารถเมล์ NGV จำนวน 4,000 คัน เข้าสู่การพิจารณาของครม.ว่า เรื่องนี้ได้มีการพิจารณารอบคอบแล้ว โดยมีการปรับลดวงเงินจาก 6.9 หมื่นล้านบาท เหลือจำนวน 6.4 หมื่นล้านบาท หากครม.จะใช้กระแสสังคมกดดัน ตนก็รับไม่ได้ ส่วนแนวทางการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาโครงการให้อีกครั้งนั้น จะต้องมีเหตุผลมาประกอบให้มีความชัดเจน ว่าจะศึกษาประเด็นอะไรบ้าง เพราะหากปล่อยให้โครงการล่าช้าออกไป ก็จะส่งผกระทบกับขสมก.

ซึ่งขณะนี้ขสมก.ขาดทุนวันละถึง 16 ล้านบาท ดังนั้นตนจึงอยากให้ครม.ได้พิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะที่ผ่านมาได้มีการแก้ไขทีโออาร์.ไปแล้วมากว่า 17 ครั้ง และกลุ่มคนที่เคยออกมาคัดค้านก็ไม่เคยเสนอแนะทางออกแต่อย่างใด

"ผมยืนยันว่าการเสนอโครงการนี้ พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้หาทุนเพื่อเตรียมเลือกตั้ง เพราะหากโครงการนี้ไม่ดีจริงก็จะเป็นตราบาปของภูมิใจไทยตลอดไป แต่อย่างไรก็ตามหากครม.ตีกลับโครงการนี้พรรคภูมิใจไทยก็จะไม่ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน

ด้านนายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา กล่าวผ่านรายการเก็บตกจากเนชั่น ถึงกระแสข่าวที่ออกมาว่าหากครม.ให้โครงการเช่ารถเมล์ 4,000 คัน ผ่านมา กลุ่มส.ว. 150 คน ก็จะไม่ยอมยกมือนสนับสนุนให้พ.ร.ก.กู้เงิน 4 แสนล้านบาท และพ.ร.บ.งบประมาณ ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นการขู่ แต่เป็นการแสดงดุลยพินิจรัฐบาลว่าในการบริหารราชการแผ่นดิน แม้ว่าโครงการนี้จะถูกทักทวง และโต้แย้งจากหลายๆ ในสังคมว่าหากโครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปจะทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นเมื่อรัฐบาลจะเดินหน้าในโครงการนี้ต่อ พวกเรากลุ่มส.ว.ก็มีความสงสัย และมีข้อกังขาว่าพวกเราจะสนับสนุนและจะให้ความไว้วางใจรัฐบาลกู้เงินต่อไปได้อย่างไร เรื่องนี้ส.ว.มีเหตุผลที่สามารถจะชี้แจงได้

"กระแสข่าวนี้ผมไม่สามารถจะยืนยันได้ว่าจะมีเสียงส.ว.150 คน จะไม่ยกมือให้พรก.กู้เงิน และพ.ร.บ.งบประมาณผ่านหรือไม่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของดุลยพินิจส.ว.แต่ละคนมีเอกสิทธิ์ที่ตัดสินใจเอง แต่ส่วนตัวมีความั่นใจว่ามีส.ว.จำนวนครึ่งหนึ่งที่มีความเคลือบแคลงใจ และมีข้อสงสัยโครงการนี้ แต่ผมมีความเชื่อว่าหากรัฐใช้ดุลพินิจอย่างนี้กับโครงการที่มีปัญหาอย่างมาก และทุกฝ่ายได้พยายามชี้ให้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เกิดภาระหนี้สินจำนวนมากในอนาคต และคนส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบ ดังนั้นกลุ่มส.ว.คงจะต้องนำมาพิจารณาว่าเราควรที่จะให้การสนับสนุนผ่านพ.ร.ก.กู้เงิน และพ.ร.บ.งบประมาณหรือไม่ " นายมณเฑียร กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook