จับได้คาหนังคาเขา ตำรวจสันติบาลเป็นโจร งัดเก๋งปล้นทรัพย์ในรั้ว สตช.

จับได้คาหนังคาเขา ตำรวจสันติบาลเป็นโจร งัดเก๋งปล้นทรัพย์ในรั้ว สตช.

จับได้คาหนังคาเขา ตำรวจสันติบาลเป็นโจร งัดเก๋งปล้นทรัพย์ในรั้ว สตช.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ทำงามไส้! รวบ ร.ต.อ.สันติบาล แอบงัดแงะเก๋ง ลักทรัพย์ภายในรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สั่งตั้งกรรมการวินัยร้ายแรง-ให้ออกราชการ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองรักษาการณ์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ควบคุมตัว ร.ต.อ.เอกชัย รองสารวัตรฝ่ายธุรการและกำลังพล บก.อก.บช.ส. ส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี ขณะก่อเหตุใช้ไขควงงัดรถยนต์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยเรื่องนี้ได้รับรายงานจาก กองบัญชาการตำรวจสันติบาลว่า ส.ต.ท.อนุสรณ์ บุษบาบาล ได้เดินทางไปที่ลานจอดรถบริเวณด้านหน้าอาคารพิสูจน์หลักฐาน (อาคาร 16) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบ ร.ต.อ.เอกชัย ผู้ต้องหากำลังทำการงัดแงะรถยนต์ ฮอนด้า ซีวิค สีน้ำเงิน ของ ส.ต.ท.อนุสรณ์ ทำให้กระจกบานใหญ่ด้านหน้าและกระจกประตูด้านหลังฝั่งขวาแตกเสียหายตรวจสอบ

จากการสอบถาม ร.ต.อ.เอกชัย รับสารภาพกำลังลักทรัพย์สินภายในรถยนต์คันดังกล่าวจริง จึงได้ประสานให้เจ้าที่ตำรวจกองรักษาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำการเข้าตรวจค้นตัว จึงรับสารภาพว่าได้ลักเอารองเท้าคอมแบท จำนวน 1 คู่และรองเท้าผ้าใบจำนวน 2 คู่ ออกมาจากรถยนต์คันดังกล่าว และวางไว้ที่บริเวณด้านท้ายของรถยนต์คันดังกล่าวและได้ลักเอายางอะไหล่รถยนต์ 1 เส้น และ พระเครื่องเหลี่ยมพลาสติกพร้อมสร้อยเชือก จำนวน 1 เส้น ออกมาจากรถยนต์คันดังกล่าว แล้วนำไปเก็บรักษาไว้ภายในรถกระบะ ของ ร.ต.อ.เอกชัย ที่จอดไว้ใกล้เคียงกันภายในลานจอดรถ

อีกทั้ง ร.ต.อ.เอกชัย ได้ให้การรับสารภาพว่าได้ลักเอา เครื่องพีซีคอมพิวเตอร์ จำนวน 3 ตัว, เครื่อง Baseline Switch 2250 plus (3 com) จำนวน 1 ตัว, เครื่อง Switch ยี่ห้อ D-Link จำนวน 1 ตัว, เครื่อง Switch 3 com ตัวเล็ก จำนวน 1 ตัว, เครื่อง Mainboard Print จำนวน 1 ตัว และ ตลับม้วนเทป จำนวน 5 ตลับ มาจากบริเวณชั้น 4 อาคาร 6 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แล้วนำมาเก็บไว้ภายในรถยนต์กระบะของตนเอง ก่อนหน้าที่จะถูกจับกุม

พร้อมกันนี้ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ร.ต.อ.เอกชัย และ มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส กับทุกฝ่าย

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับ ร.ต.อ.เอกชัย ในความผิดฐานลักทรัพย์ในสถานที่ราชการ ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะในการกระทำความผิด และ ตนได้รายงานให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับทราบแล้ว ได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส รวดเร็ว เป็นธรรม

ทั้งนี้ หากพบว่าทำผิดจริงต้องเอาโทษให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด โดยจะต้องรับโทษหนักกว่าบุคคลธรรมดา เพราะว่าเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายแต่กลับทำผิดเสียเองและจะไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้อย่างแน่นอนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ผบ.ตร. ยอมรับว่า รู้สึกรับไม่ได้กับเหตุการณ์ดังกล่าวและจะไม่เลี้ยงคนประเภทนี้ไว้อยู่แล้ว ก่อเหตุภายในรั้วสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เคารพต่อเกียรติของตำรวจ และ กำชับให้กองกำกับการตำรวจสันติบาล 3 เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย สอดส่อง ตรวจตรา ความสงบเรียบร้อย รวมไปถึง มาตรการในการป้องกันเหตุ

โดยเน้นย้ำว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก และได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด อย่างใกล้ชิด คอยสอดส่อง ดูแล ให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook