กดไลค์ ตำรวจจีนทุ่มสุดตัว งัด-ดึงกระจกมือเปล่า ช่วยคนเจ็บติดซากรถชน

กดไลค์ ตำรวจจีนทุ่มสุดตัว งัด-ดึงกระจกมือเปล่า ช่วยคนเจ็บติดซากรถชน

กดไลค์ ตำรวจจีนทุ่มสุดตัว งัด-ดึงกระจกมือเปล่า ช่วยคนเจ็บติดซากรถชน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กดไลค์รัวๆ ตำรวจหนุ่มจีนทั้งงัดทั้งดึงกระจกรถด้วยมือเปล่า เร่งช่วยชีวิตคนเจ็บ หมดสติติดซากเก๋งประสบอุบัติเหตุชนกันสนั่นกลางทางแยก

วันที่ 5 ก.พ. สำนักข่าวประเทศจีนได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ชวนระทึกและรู้สึกอบอุ่นใจไปพร้อมกัน หลังจากเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันอย่างรุนแรงบนถนนสายหนึ่งในเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง คนขับได้รับบาดเจ็บ หมดสติหน้าฟุบอยู่กับถุงลมนิรภัย ติดอยู่ภายในซากรถ

ตำรวจจราจรนายหนึ่งที่อยู่ระหว่างลาดตระเวนตรวจตราพื้นที่ ได้พบเหตุเข้าจึงรีบช่วยเหลือ กระโดดขึ้นไปงัดและดึงกระจกด้านหน้ารถที่แตกร้าวด้วยมือเปล่า เพื่อช่วยชีวิตคนเจ็บ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาล เคราะห์ดีที่ทันเวลา คนเจ็บจึงไม่เป็นอันตรายร้ายแรงถึงชีวิต

เจ้าหน้าที่ตำรวจเขตเฟิ่งฮั่วกล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา รถยนต์คนดังกล่าวประสบอุบัติเหตุชนกับรถยนต์คันอื่นบริเวณทางแยก ส่งผลให้ด้านหน้ารถพังเสียหายยับเยิน และเพราะคนขับไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อถุงลมนิรภัยทำงานจึงเกิดแรงกระแทกรุนแรงทำให้เขาสลบไป

ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ดึงกระชากกระจกรถช่วยเหลือ ชื่อว่า ฉิว เฟยหลง อายุ 37 ปี “ตอนนั้นผมกับเพื่อนร่วมงานออกปฏิบัติหน้าที่ถึงจุดเกิดเหตุพอดี เห็นสถานการณ์อันตรายจึงรีบเข้าไปตรวจสอบ” โดยพบว่าชายคนขับทราบอายุ 30 ปี บาดเจ็บไม่ได้สติ

“ผมพยายามเปิดประตูรถ แต่เปิดไม่ได้สักข้าง ล็อคแน่นสนิททั้งหมด ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาว่า ‘รถควันขึ้นแล้ว’ ” เขาจึงได้กระโดดขึ้นไปงัดดึงกระจกรถดังกล่าว และหลังจากช่วยชีวิตชายคนขับออกมาได้ เขาก็เพิ่งรู้สึกตัวว่ามือทั้งสองข้างของเขามีแผลถูกเศษกระจกรถบาด

“ผมโอเค แผลเล็กน้อยเท่านั้น” ฉิว เฟยหลง กล่าว ซึ่งภายหลังจากคลิปวิดีโอนี้เผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตพากันกระหน่ำกดไลค์ และแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง พร้อมกับคอมเมนต์ชื่นชมการกระทำของเขา บอกว่าเขาเป็น “คนเหล็ก” ขณะเดียวกันก็เป็นห่วงและปวดใจกับมือทั้งสองข้างที่บาดเจ็บของเขาด้วย

ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนแนะนำนายตำรวจหนุ่มว่า ควรใส่ถุงมือ หากเศษกระจกปักเข้าไป จะทำความสะอาดจัดการกับแผลได้ยาก ซึ่งฉิวก็ได้ตอบกลับว่า จริงๆ ตอนนั้นไม่มีเวลาให้ได้คิดอะไรมากนัก อีกทั้งช่วงเทศกาลตรุษจีน ยานยนต์ก็สัญจรกันเป็นจำนวนมาก จึงต้องรีบช่วยคนเจ็บด้วยวิธีการดังกล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook