แจ้งจับ ส.อ. กองทัพบก ตุ๋นเข้ารับราชการทหาร!

แจ้งจับ ส.อ. กองทัพบก ตุ๋นเข้ารับราชการทหาร!

แจ้งจับ ส.อ. กองทัพบก ตุ๋นเข้ารับราชการทหาร!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เหยื่อกว่า 20 ราย เข้าแจ้งความถูก "ส.อ." กองทัพบก หลอกเข้ารับราชการทหารเสียเงินหัวละ 3-5 แสนบาท บางรายเป็นถึงลูกนายทหาร เผยมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท เชื่อมีผู้เสียหายทั่วประเทศ เตรียมส่งเรื่องให้ผู้เกี่ยวข้องสอบต่อ ต้นสังกัดแจง "ส.อ.ชาญชัย" หนีราชการทหารนานกว่า 20 วันแล้ว ยันไม่ปกป้องกำลังพลที่ทำผิดกฎหมาย

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม นายคิด (นามสมมติ) อายุ 25 ปี พร้อมกับกลุ่มผู้เสียหายกว่า 20 คน เข้าพบ พ.ต.อ.เสริมคิด สิทธิชัยกานต์ รอง ผบก.ปปป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดี ส.อ.ชาญชัย ชัยมาศ ทหารสังกัดกรมการรักษาดินแดน กองทัพบก หลังทั้งหมดถูก ส.อ.ชาญชัยหลอกว่า สามารถช่วยเหลือให้เข้ารับราชการทหารชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวนได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายละ 3-5 แสนบาท

นายคิดกล่าวว่า เมื่อประมาณปี 2550 เพื่อนแนะนำให้รู้จักกับ ส.อ.ชาญชัย เพื่อขอความช่วยเหลือในการเข้ารับราชการทหารเพราะช่วงนั้นกำลังตกงาน โดย ส.อ.ชาญชัยอ้างว่า ช่วงเดือนสิงหาคม 2550 กองทัพบกจะพิจารณาเปิดรับบุคคลเข้ารับราชการชั้นสัญญาบัตรเป็นการภายใน แต่ก็สามารถดำเนินการให้ได้ ต่อมา ส.อ.ชาญชัย ได้นัดพบตนและบอกว่า หากจะเข้าเป็นทหารต้องเสียเงินค่าดำเนินการเป็นจำนวน 5 แสนบาท รวมทั้งต้องเตรียมตัวเข้ารับการตรวจเลือดและโรคประจำตัว ที่สโมสรทหารบก ย่านเทเวศร์ ตนจึงรีบหาเงินมาให้จนครบ

"เมื่อถึงวันนัดก็เดินทางไปยังสโมสรทหารบก พบว่า มีนายทหารมาตั้งโต๊ะให้บริการ ซึ่งในวันนั้นมีผู้มารับการตรวจเช่นเดียวกับผมกว่า 300 คน จึงไม่รู้สึกเอะใจว่าจะถูกหลอกลวง เนื่องจากมีการใช้สถานที่ของสโมสรทหารบก หลังจากผ่านขั้นตอนต่างๆ แล้ว ส.อ.ชาญชัยบอกกับผมว่าให้รอผลอีกระยะหนึ่งแล้วจะติดต่อกลับ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อได้พบผู้เสียหายรายอื่นๆที่ติดต่อผ่าน ส.อ.ชาญชัย ก็พบว่ามีปัญหาเหมือนกัน จึงเชื่อว่าถูกหลอกลวง" นายคิดกล่าว

นายคิดกล่าวว่า นอกจากนี้ยังพบกลุ่มผู้เสียหายจำนวนมาก บางรายเป็นลูกหลานทหารถูกหลอก โดยแอบอ้างนายทหารชั้นผู้ใหญ่ในกองทัพบกว่า สามารถช่วยเหลือให้เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรได้จนต้องเสียเงินไปหลายแสนบาทจึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.เสริมคิด กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว โดยจะได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรณีนี้อาจเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เพราะมีการหลอกลวงผู้เสียหายหลายร้อยรายจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท แต่จะเข้าข่ายความผิดในข้อหาอื่นๆ อีกหรือไม่นั้น ต้องขอเวลารวบรวมหลักฐานต่างๆ อีกระยะหนึ่ง ส่วนจะมีผู้กระทำความผิดร่วมกับ ส.อ.ชาญชัย ด้วยหรือไม่ ยังไม่สามารถระบุได้ หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าเป็นการกระทำผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชนจะต้องส่งเรื่องให้ตำรวจหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป เพราะในส่วนของ ปปป.รับผิดชอบคดีที่ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเป็นหลัก

รายงานข่าวจากกรมการรักษาดินแดนเปิดเผยว่า พล.ท.สิงห์ศึก สิงห์ไพร เจ้ากรมการรักษาดินแดน ได้สั่งการให้ตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ส.อ.ชาญชัย โดยพบว่า ขณะนี้ ส.อ.ชาญชัย อยู่ระหว่างการหนีราชการ ตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เบื้องต้นคณะกรรมการที่ พล.ท.สิงห์ศึก ตั้งขึ้นมาสอบสวนเกี่ยวกับการหนีราชการทหารของ ส.อ.ชาญชัย โดยที่กรมการรักษาดินแดนได้จำหน่ายให้ ส.อ.ชาญชัย ขาดราชการ เนื่องจากขาดราชการมาแล้วกว่า 20 วัน

แหล่งข่าวกรมการรักษาดินแดนเปิดเผยว่า ตำรวจยังไม่ได้มีการประสานมายังกรมการรักษาดินแดน แต่เมื่อทางกรมการรักษาดินแดนทราบข่าวเกี่ยวกับพฤติกรรมของ ส.อ.ชาญชัย ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ตรวจสอบหาข้อมูลถึงที่มาที่ไปว่า ส.อ.ชาญชัย มีพฤติกรรมดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ ส.อ.ชาญชัย เป็นทหารสั่งการกองพยาบาล รพ.พระมงกุฎเกล้า แต่มาช่วยราชการที่ศูนย์การกำลังรองของกองทัพบก อย่างไรก็ตาม หน่วยต้นสังกัดไม่มีการปกป้องกำลังพลที่กระทำผิดกฎหมายอยู่แล้ว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook