ไฟไหม้คลังอาวุธ "กองร้อย อส.สุรินทร์" ระเบิดเป็นระยะ ปืนวอดกว่า 100 กระบอก
วันนี้ (21 ม.ค.) เวลา 15.35 น.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.หญิง จิราภรณ์ วันโท ร้อยเวร สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารฝึกที่ 1 ซึ่งเป็นอาคารไม้เก่า 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน เป็นที่พักของกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุรินทร์ และห้องสรรพวุธ (คลังเก็บอาวุธปืนและลูกกระสุนปืน) ภายในกองร้อยอาสารักษาดินแดน จ.สุรินทร์ ที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ที่กิโลเมตรที่ 8 ถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ที่กำลังถูกเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง พร้อมเสียงระเบิดของลูกกระสุนปืนที่ถูกเพลิงไหมดังขึ้นเป็นระยะๆ
ขณะที่ เจ้าหน้าที่ อส.ได้ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองสุรินทร์ รถดับเพลิง อบต.เฉนียง และอบต.ใกล้เคียง และรถดับเพลิงจาก มทบ.25 พร้อมด้วย อาสาสมัครกู้ภัยสุรินทร์ กว่า 8 คัน เข้าพื้นที่เร่งฉีดสกัดอาคารดังกล่าวอย่างเร่งด่วน และกันผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ ให้อยู่ในรัศมีระยะห่างที่ปลอดภัย จนท.ดับเพลิงใช้เวลาฉีดสกัดเพลิงนานร่วมชั่วโมง เพลิงจึงสงบ แต่ยังคงพบว่ามีควันพวยพุ่งเป็นระยะอยู่ที่ห้องเก็บอาวุธ ซึ่ง จนท.ดับเพลิงได้คอยฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเพื่อไม่ให้ไฟประทุขึ้นมาอีก เนื่องจากอาคารดังกล่าวเป็นไม้เก่าจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ประกอบกับในระยะนี้มีลมกระโชกเป็นระยะ ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
หลังเพลิงสงบ พบว่าอาคารได้รับความเสียหายเกือบทั้งหลัง รถยนต์ของกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนเสียหายจำนวนคัน 1 คัน อาวุธปืน ชนิดเอ็ม 16 จำนวนกว่า 100 กระบอก ปืนลูกซองยาว ปืนพกสั้น พร้อมเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง และอยู่ระหว่างตรวจสอบจำนวนที่ชัดเจน ขณะที่เจ้าหน้าที่ อาสารักษาดินแดนสุรินทร์ ที่ 1 ได้ช่วยขนสิ่งของสัมภาระ ที่นอน และอุปกรณ์ ที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ออกจากอาคารได้บางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เอาออกมาได้ยังถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน
โดย เจ้าหน้าที่ EOD ได้กันไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไป เกรงจะเกิดอันตราย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุของต้นเพลิงมาจากห้องเก็บอาวุธประจำกายของ อส. เนื่องจากทราบจาก เจ้าหน้าที่อส.ที่เข้าเวรที่ตู้ยามด้านหน้าอาคารนั้น ได้ยินเสียงดังประทุขึ้นที่บริเวณห้องเก็บอาวุธ ก่อนที่จะเกิดเพลิงลุกไหม้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ อยู่ระหว่าง จนท.EOD เคลียร์พื้นที่และตรวจสอบอาวุธทั้งหมดก่อนว่าจะไม่เป็นอันตราย จึงจะสามารถอนุญาตให้ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสุรินทร์ เข้าตรวจสอบสาเหตุของเหตุเพลิงไหม้ที่ชัดเจนในครั้งนี้อีกครั้ง
ด้าน อส.ทำเนียบ โพธิราช หมู่ใหญ่ ทำหน้าที่สิบเวร ประจำวันกองร้อยอาสารักษาดินแดนสุรินทร์ที่ 1 กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเกิดเหตุไฟไหม้ เวลา ประมาณบ่ายสองโมงครึ่ง ตนเองก็เดินดูความเรียบร้อย อยู่ข้างๆห้องเก็บอาวุธปืนหรือคลังอาวุธ ได้ยินดังขึ้นที่ห้องคลังอาวุธ เป็นเสียงคล้ายกับเสียงปล่อยลมยางรถยนต์ดังขึ้น ตนเองแหงนหน้าขึ้นไปมองเห็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่ชั้นบนห้องคลังอาวุธขึ้นอย่างรวดเร็วและได้แจ้งให้ อส.ช่วยกันขนสัมภาระสิ่งของต่างๆในอาคารออก เท่าที่จะทำได้และได้เจ้าหน้าที่ตำรวจและรถน้ำดับเพลิงเข้าช่วยดับเพลิง ส่วนอาวุธปืนที่ถูกไฟไหม้ เป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 ปืนพกสั้น ปืนลูกซองยาว จำนวนกว่า 116 กระบอกและกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง แต่ต้องตรวจสอบบัญชีอาวุธก่อนว่า มีจำนวนเท่าไหร่ที่แน่นอนก่อน ตนเชื่อว่าไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะอาคารสร้างมานานกว่า 40 ปี สายไฟฟ้ามีอายุใช้งานมานานมาก เกรงว่าจะเกิดการลัดวงจรขึ้น
ขณะที่ ร.ต.ท.หญิง จิราภรณ์ วันโท พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เก็บหลักฐานบันทึกภาพ ลงบันทึกประจำวัน และจะได้เชิญเจ้าหน้า อส.สุรินทร์ ที่ 1 ไปให้ปากคำเพื่อสอบถามหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ตำรวจภูธรสุรินทร์ ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้อย่างแท้จริงต่อไป