วิบากกรรม ดื่มแล้วขับ เสี่ยงแล้วเรื่องยาวแน่

วิบากกรรม ดื่มแล้วขับ เสี่ยงแล้วเรื่องยาวแน่

วิบากกรรม ดื่มแล้วขับ เสี่ยงแล้วเรื่องยาวแน่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองใกล้เข้ามา เชื่อว่า ทุกคนก็อยากมีความสุขในช่วงเวลานี้ แต่บางครั้งความสุขผสมความคึกคะนองจากการดื่มเพียงชั่วคราว อาจทำลายความสุขของเวลาที่เหลือของคุณได้

ต่อไปนี้เป็นอุทาหรณ์จากผู้ชายคนหนึ่งที่ดื่มแล้วขับซึ่งจะทำให้คุณรู้ว่า ถ้าดื่มแล้วขับ เรื่องไม่จบง่าย ๆ อย่างแน่นอน

ในคืนวันปีใหม่ นายแมน (ชื่อสมมติ) นัดเพื่อนไปสังสรรค์ที่ผับแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เขาคิดว่าผับอยู่ไม่ไกลมาก จึงตัดสินใจขับรถไปเองเลยสะดวกกว่า

เมื่อไปถึงนายแมนพบว่าเพื่อนๆ เริ่มนำไปแล้ว เขาจึงรีบสั่งเบียร์ และดื่มไล่ตามเพื่อนทันที

แค่นี้นายแมนก็พลาดแล้ว เพราะ พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับล่าสุด กำหนดไว้ว่า หากใครก็ตามขับขี่ แล้วถูกตรวจพบว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก็จะถือว่าเมาแล้วขับ ซึ่งอาจโดนปรับสูงสุด 20,000 บาท หรือจำคุกนานถึง 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต

ยิ่งถ้ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเมาแล้วขับ โทษปรับจะสูงสุดถึง 200,000 บาท และโทษจำคุกสูงสุดถึง 10 ปี

และนายแมนอย่าได้คิดเชียวว่า ตัวเองจะเอาอยู่ เพราะวาระสังสรรค์แห่งชาติแบบนี้ กินยังไงก็เกิน

“ไม่ต้องห่วง ข้ามีวิธี ก่อนกลับ ซัดน้ำเยอะๆ เข้าห้องน้ำบ่อยๆ ไม่เกินแน่” นายแมนหันมาโวกับเพื่อนที่ทักว่า จะดื่มทั้งทีขับรถมาทำไม

คนเราพอกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ยังไงก็พลาดต่อไป เพราะถ้าดื่มแล้วขับจนก่อให้เกิดอุบัติเหตุแล้วมีผู้เสียหาย ผู้เสียหายมิสิทธิร้องขอให้มีการตรวจเลือดเพื่อหาแอลกอฮอล์จากผู้ขับขี่ รับรองว่า ถ้าดื่มแล้วขับ ยากที่จะรอดกฎหมายไปได้

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว พอๆ กับปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นในร่างของนายแมน ชายกลุ่มนี้ตัดสินใจคิดเงินเพื่อจะกลับบ้าน นายแมนนั้นกำลังได้ที่ เพื่อนๆ จึงชวนกลับแท็กซี่เพื่อความปลอดภัย

“เฮ้ย กลับเองได้ ระดับไหนแล้ว สบายๆ เอาอยู่โว้ย”

นายแมนโวลั่นร้าน ก่อนจะบึ่งรถกลับบ้านทันที

แมนเอ๋ย ก็เตือนแล้วไงว่า ไม่รอด

นายแมนถูกจับตรวจแอลกอฮอล์ตรงด่านที่แยกก่อนถึงบ้าน ซึ่งแน่นอนแทบไม่ต้องลุ้นผลตรวจ

“ผลตรวจเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ครับ เราคงต้องขอจับกุมคุณข้อหาเมาแล้วขับนะครับ” เจ้าหน้าที่แจ้งผล

“โห ขนาดนั้นเลยเหรอครับ อีกนิดเดียว ผมก็จะถึงบ้านแล้วนะครับ แล้วจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” นายแมนโอดครวญ

เจ้าหน้าที่ชี้แจงขั้นตอนทางกฎหมายที่นายแมนต้องเจอ ซึ่งถ้าไม่มีเงินประกัน แทนที่จะได้กลับไปนอนที่บ้าน นายแมนอาจต้องไปนอนในคุกถึง 2 คืนเลยทีเดียว

“อะไรเนี่ย แค่กินเหล้าเอง มันเป็นสิทธิส่วนบุคคลนะ ไม่ได้ไปทำร้ายอะไรใครสักหน่อย”

นายแมนคงไม่รู้ใช่ไหมว่า เทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา มีการเกิดอุบัติเหตุถึง 3,841 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 423 ราย และบาดเจ็บ 4,005 ราย ซึ่งมีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ จำนวน 6,677 คดี และแบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุราสูงถึง 6,030 คดี คิดเป็นร้อยละ 90.31

สถิติเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า “ดื่มแล้วขับ” ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นและไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของใครคนใดคนหนึ่ง

ดังนั้นเห็นแล้วใช่ไหมครับว่า ดื่มแล้วขับจะทำให้หนทางกลับบ้านของคุณยาวนาน และยุ่งยากขนาดไหน ด้วยเหตุนี้ ถ้าจะขับ อย่าดื่ม จะได้เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีสำหรับตัวคุณ และคนรอบข้าง

สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเตรียมตัวเดินทางอย่างปลอดภัยได้ที่ http://www.niems.go.th

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook