ยืดเยื้อเป็นเดือน! กระบะชนเด็กจนต้องตัดขา แม่บุกฟ้อง "บิ๊กโจ๊ก" จับได้ไม่ทันข้ามวัน

ยืดเยื้อเป็นเดือน! กระบะชนเด็กจนต้องตัดขา แม่บุกฟ้อง "บิ๊กโจ๊ก" จับได้ไม่ทันข้ามวัน

ยืดเยื้อเป็นเดือน! กระบะชนเด็กจนต้องตัดขา แม่บุกฟ้อง "บิ๊กโจ๊ก" จับได้ไม่ทันข้ามวัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีน้องอั้ม วัย 9 ขวบ ถูกรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต 4 ประตู สีขาว ชนบนถนนวังกะพี้-พิชัย อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ก่อนหลบหนีไป เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยวันเกิดเหตุตาได้พาพี่ชายและน้องอั้มซ้อนมอเตอร์ไซค์เพื่อไปหาปูที่นา แต่ระหว่างทางถูกรถกระบะคันดังกล่าวแซงรถบรรทุกขึ้นมาชนเข้าอย่างจัง จนตาและพี่ชายได้รับบาดเจ็บ ส่วนน้องอั้มโดนรถกระบะลากร่างไปเกิดบาดแผลฉกรรจ์ แพทย์ต้องตัดขาขวาทิ้งเพราะแผลติดเชื้อลุกลาม กลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต ยังไม่รู้จะออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่

>> ไร้สำนึก! กระบะสีขาวชนแล้วหนีทับเด็กต้องตัดขา-แม่วอนตีนผีต้องรับผิดชอบ

เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) นางสาหร่าย อายุ 38 ปี แม่ของน้องอั้ม นั่งรถทัวร์มาจาก จ.อุตรดิตถ์ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปอส.ตร.ให้ช่วยติดตามผู้ก่อเหตุมารับโทษทางกฎหมายและรับผิดชอบ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นเกือบ 1 เดือน คดียังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ แต่ จนท.บอกลงพื้นที่หาเบาะแสให้ทุกวัน

นางสาหร่าย ร่ำไห้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนพยายามสอบถามไปยังร้อยเวรเจ้าของคดี ที่ สภ.วังกะพี้ กลับได้รับคำตอบว่า “ไฟหน้ารถคันที่ชนมันจ้า ดูในกล้องวงจรปิดแล้วไม่เห็นทะเบียน ตามแล้วแต่พลาดต้องไปดูที่อื่นเสริม” ทุกครั้งที่ตนตามเรื่องก็ไม่มีความคืบหน้าทางคดี แม้แต่กล้องวงจรปิดก็เป็นคนไปหามาเองเพื่อมอบให้ตำรวจใช้เป็นหลักฐาน ตนรู้สึกทุกข์ใจมากกินไม่ได้นอนไม่หลับกลัวเรื่องจะเงียบหาย อยากให้คนขับรถกะบะเข้ามอบตัวและเยียวยาค่าเสียหาย เพราะตนเองลำบากมาก ค่าใช้จ่ายในการรักษาน้องอั้มตอนนี้กว่า 60,000 บาท แล้ว

“น้องอั้มเคยถามว่าทำไมต้องถูกตัดขา ทำไมตัวเองเดินไม่ได้เหมือนคนอื่น ยิ่งทำให้สภาพจิตใจ ของตนเองย่ำแย่ แรกๆ น้องร้องไห้แต่ตอนนี้พอรับสภาพได้เข้มแข็งขึ้น ตนสงสารลูกได้แต่ปลอบใจว่าถึงเสียขาแต่ก็ยังอยู่กับแม่นะ บางทีลูกเห็นตนร้องไห้ก็บอกว่าแม่อย่าร้องเดี๋ยวอั้มไม่หาย รอเปิดแผลวันที่ 20 ธ.ค. นี้ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นต้องเข้าห้องผ่าตัดอีกครั้ง”

ด้าน พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ รองผู้กำกับการสอบสวนกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ช่วยราชการศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นตัวแทนรับหนังสือ บอกกับนางสาหร่ายขอให้ครอบครัวสบายใจ ทางตำรวจจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ จากนั้นได้ประสานไปยัง สภ.วังกะพี้ ทันทีให้เร่งติดตามคนขับรถกระบะ หลังพบเบาะแสมีการนำรถเข้าไปซ่อมที่อู่แห่งหนึ่ง

หลังยื่นเรื่องร้องทุกข์ไม่ทันข้ามวัน ตำรวจ สภ.วังกะพี้ เผยว่า เมื่อวานนี้ (18 ธ.ค.) จนท.สามารถจับกุมคนขับรถกระบะทราบชื่อ นายสมเกียรติ อายุ 57 ปี อาชีพผู้รับเหมาเดินสายไฟ พร้อมยึดรถกระบะยี่ห้อเชฟโรเลต โคโรราโด 4 ประตู สีขาว มาตรวจสอบ พบว่ามีการติดตั้งสแตนเลสที่กระบะท้าย มีร่องรอยเฉี่ยวชน บริเวณไฟหน้าซ้ายและกันชนหน้า

พ.ต.อ.สมศักดิ์ อู่ตุ้ม ผกก.สภ.วังกะพี้ เผยว่า จากการสืบสวนทราบว่า หลังเกิดเหตุผู้ขับขี่รายนี้ ได้นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวไปเครมประกันชั้นหนึ่ง จากนั้นนำรถ และชิ้นส่วนรถที่แตกเสียหายไปซ่อม ทำสีเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ที่อู่สหชัยกลกิจ จ.พิษณุโลก จนท.จึงติดต่อนายสมเกียรติ และเชิญตัวมาที่โรงพัก ยืนยันตั้งแต่เกิดเหตุ จนท.ทำการสืบสวนสอบสวนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งพบรถคันก่อเหตุและผู้ขับขี่ ไม่เกี่ยวกับที่นางสาหร่ายไปยื่นหนังสือร้อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ให้เร่งรัดคดี

นายสมเกียรติ ยอมรับว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์กระบะคันดังกล่าว หลังเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คันที่ประสบเหตุ ได้หลบหนีไปจริง สาเหตุที่หลบหนีเพราะตกใจทำอะไรไม่ถูก ขับรถมา 30 กว่าปี ไม่เคยเจอเหตุอย่างนี้

ส่วนการชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นให้บริษัทประกันเป็นผู้ดำเนินการ โดยพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสและหลบหนี ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จนท.ทำการสอบปากนายสมเกียรติ มีญาติของผู้เสียหาย 2 คน มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคดี และขอพบหน้าผู้ก่อเหตุ แต่ จนท.ไม่อนุญาตให้พบ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook