หนุ่มใหญ่วัย 63 ปีนั่งเรือตกปลา อยู่ดีๆ เรือล่ม จมน้ำดับกลางลำน้ำชี

หนุ่มใหญ่วัย 63 ปีนั่งเรือตกปลา อยู่ดีๆ เรือล่ม จมน้ำดับกลางลำน้ำชี

หนุ่มใหญ่วัย 63 ปีนั่งเรือตกปลา อยู่ดีๆ เรือล่ม จมน้ำดับกลางลำน้ำชี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(15 ธ.ค. 61) พันตำรวจโท มิตรชัย บุญล้ำ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองยโสธร พร้อมด้วยแพทย์เวรจากโรงพยาบาลยโสธร เข้าชันสูตรพลิกศพร่าง นายไพทูรย์ อายุ 63 ปี ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุไปตกเบ็ดเรือล่ม ที่หาดทรายบ้านคุยสำโรง ตำบลเขื่องคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร

หลังได้รับแจ้งจากศูนย์ 1669 ว่ามี ชาวบ้านนั่งเรือยางมาตกเบ็ดกลางลำน้ำชีเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา เกิดเรือล่มได้จมหายไปทั้งเรือและคน เพื่อนบ้านที่มาด้วยกันคือนายจารึก ที่นั่งเรือ ตกเบ็ดอยู่ใกล้ๆ กันถึงกับเป็นงง ว่าเรือหายไปได้ยังไง เห็นแค่รองเท้าแตะผู้ตายลอยน้ำมา คาดว่าเรือล่มแน่

จึงร้องให้ชาวบ้านมาช่วยค้นหา เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานให้นักประดาน้ำหน่วยกู้ภัยอุดมเวชพนมไพร และหน่วยกู้ภัยร่วมใจ ยโสธร ลงดำน้ำค้นหาร่างประมาณ 2 ชั่วโมง จึงได้พบเรือและร่างผู้เสียชีวิตดังกล่าว ท่ามกลางชาวบ้านที่มาดูเป็นจำนวนมาก ญาติไม่ติดใจการเสียชีวิตเจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพให้ญาติไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

จากการสอบถามนายจารึก อายุ 58 ปี เพื่อนบ้านที่มาตกเบ็ดด้วยกัน เล่าว่าตนและนายไพทูรย์ ได้เดินทางมาจากตัวเมืองยโสธร ได้ชวนผู้ตายมาตกเบ็ดที่ลำน้ำชีทุกเสาร์-อาทิตย์เป็นประจำ

โดยการนำเรือยางมาคนละลำแล้วลงทุ่นหรือ (ลงสมอเรือ) กลางลำน้ำชีเพื่อหยุดเรือตกเบ็ดอยู่ใกล้ๆ กันผู้ตาย ห่างกันประมาณ 20 เมตร ตนเองได้ลงทุ่นเรือตกเบ็ดและหันหลังให้ผู้ตาย

ไม่นานเห็นรองเท้าแตะลอยน้ำมาตนจึงมาร้องแซวล้อเล่นผู้ตายว่า (จะเปลี่ยนรองเท้าใหม่เหรอ) ตนไม่เห็นผู้ตายตอบรับกลับมา จึงหันไปมองดูไม่พบทั้งเรือและคน ตกใจจึงร้องขอความช่วยเหลือดังกล่าว

นายจารึกเล่าอีกว่า เนื่องจากนี้น้ำลึกมาก คาดว่าผู้ตายได้ใช้ก้อนหินน้ำหนักมากมาทำทุ่นเรือ (สมอเรือ) ผูกเชือกสั้นไปทำให้ผู้ตายโยนทุ่นลงน้ำยังไม่ถึงพื้นดินจึงดึงเรือจมหายไปพร้อมผู้ตายก็เป็นได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook