มั่นใจได้หวนคืนทำเนียบ เหตุ "บิ๊กตู่" ประกาศพร้อมเป็น "นักการเมือง" เต็มตัว

มั่นใจได้หวนคืนทำเนียบ เหตุ "บิ๊กตู่" ประกาศพร้อมเป็น "นักการเมือง" เต็มตัว

มั่นใจได้หวนคืนทำเนียบ เหตุ "บิ๊กตู่" ประกาศพร้อมเป็น "นักการเมือง" เต็มตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คล้อยหลัง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ และมีการออกคำสั่ง คสช. ที่ 22/2561 ปลดล็อกทางการเมืองในวันเดียวกัน (11 ธ.ค.) น่าจะถือว่าเป็นครั้งแรกที่ ”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ประกาศยอมรับกับมวลชน 5,000 คน ที่มาต้อนรับว่า ”ผมเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว” ระหว่างลงพื้นที่ ซึ่งก็เป็นครั้งแรกหลัง ”ปลดล็อก” เช่นกัน ที่ สวนสาธารณะ หนองบึงกาฬและบึงสวรรค์ ต.บึงกาฬ จ.บึงกาฬ เมื่อวันก่อน (12 ธ.ค.) ที่ระยะหลังการลงพื้นที่สัญจร ”เหนือจรดใต้” ของ “พล.อ.ประยุทธ์” ดูจะมีความกลมกลืนมากขึ้นใน บทบาท ”นักการเมือง” กับ ”ชาวบ้าน”

>> ฟังไม่ผิด! "ลุงตู่" รับเป็น "นักการเมือง" เต็มตัว ลั่นยอมตายเพื่อประชาชน

น่าสนใจว่าหนนี้ เป็นการยอมรับความเป็น ”นักการเมือง” อย่างหนักแน่นของ ”พล.อ.ประยุทธ์” หลังจากช่วงต้นปี 4 ม.ค. 61 ที่ “ลุงตู่” เริ่มยอมรับกลางวงกับนักข่าวครั้งแรกว่า ตนเองอาจไม่ใช่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง แต่เรียกว่า ”นักการเมือง” ก็ได้ ซึ่งครั้งนั้นเรียกเสียงฮือฮาให้กับหลายฝ่าย เพราะทึ่ผ่านมานับแต่เข้ายึดกุมสภาพอำนาจการเมืองจากรัฐบาล ”ยิ่งลักษณ์” เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 “พล.อ.ประยุทธ์” แทบจะเห็น ”นักการเมือง” เป็น ”ของแสลง” โดยปฏิเสธมาตลอดไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง ว่าเป็นทหารไม่ใช่นักการเมือง ครั้งนั้นจึงถือเป็นการ ”เปิดตัว” ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับอย่างล้นหลามด้วยการ ”รับน้องใหม่” จากบรรดานักการเมือง โดยเฉพาะขั้วตรงข้าม

ก่อนจะตามมาด้วยการประกาศอีกครั้งเมื่อ 24 ก.ย. 61 หลังถูกกดดันถามมาตลอดนับแต่ที่รับปากว่าจะประกาศจุดยืนทางการเมืองให้ชัดๆ ในจังหวะก่อนมีการเปิดตัว ”พรรคพลังประชารัฐ” และ “4 รัฐมนตรี” อันได้แก่ ”อุตตม-สนธิรัตน์-สุวิทย์-กอบศักดิ์” ที่เข้าไปร่วมเป็น ”กรรมการผู้ก่อตั้งพรรค” ว่า ”สนใจงานการเมือง แต่จะไม่ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้า คสช. เพราะรักประเทศชาติ ต้องการสานงานของรัฐบาล คสช. ต่อไป”

น่าสนใจว่า แต่ละครั้งของการออกมาประกาศท่าที ”การเป็นนักการเมือง” ของ ”พล.อ.ประยุทธ์” มักจะมีนัย ”สถานการณ์” บางประการเกิดขึ้นหลังจากนั้น โดยหนนี้ “หมุดหมาย” ระยะใกล้ นอกจากหลัง “การปลดล็อก” และห้วงการ ”ปล่อยผี” ที่ ”อ.วิษณุ” ว่า พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมอะไรก็ได้ ที่ยังไม่ถูกนำไปคำนวณเป็นค่าใช้จ่ายการเลือกตั้ง ไปจนกว่าจะถึงวันประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งที่ตั้งไว้ที่วันที่ 2 ม.ค. 62

น่าสนใจที่หนนี้จะพบเห็นความเคลื่อนไหวกิจกรรมของพรรคการเมืองอย่างคึกคักทั้งการวางตัวผู้สมัคร ส.ส. ทั้งระบบเขต-บัญชีรายชื่อ การเตรียมนโยบายที่จะใช้หาเสียง การวางแผนเตรียมหาเสียงทั่วประเทศ การจัดเตรียมเสบียงกรังที่จะใช้เลือกตั้ง เช่น “พรรคพลังประชารัฐ” ที่นัดจัดงานระดมทุนผ่านงานเลี้ยงโต๊ะจีน 200 โต๊ะๆ ละ 3 ล้านบาท ตั้งเป้าไว้ว่าจะระดมทุนได้ประมาณ 600 ล้านบาทในวันที่ 19 ธันวาคม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี ทั้งที่ยังมีคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 และคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 คาอยู่

ที่แน่นอน ส่วนหนึ่งย่อมถูกมองในจุด ”ความซ้อนทับ” ใน ”บทบาทสถานะ” ของบรรดารัฐมนตรีในรัฐบาล คสช. และแกนนำพรรคที่ถูกมองเป็น ”เนื้อเดียวกัน” ที่เป็น ”กองหนุน” ”พล.อ.ประยุทธ์” ตีตั๋วนายกฯ ต่อ ยิ่งเมื่อจับมาผนวกรวมกับ 2 กรณีที่เกิด โดย “กกต.” อยู่ในสถานะ ”กรรมการ” ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นปมครหา “การเลื่อนเวลา” “แบ่งเขตเลือกตั้งใหม่” หรือปม ”บัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้” ที่ กกต.-คสช.-รัฐบาล ถูกตั้งคำถามถึงบทบาทการมีอยู่ ณ ปัจจุบันก่อนถึงวันประกาศ พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งราววันที่ 2 ม.ค. 62

ทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าจะเป็นการขยับเขยื้อนเลื่อนเวลาตามโรดแมปเลือกตั้งออกมาหลายครั้ง ด้วยเหตุแห่ง ”ความไม่พร้อม” กระทั่งถึงจุดที่ทุกสิ่งอย่างดูจะมีน้ำหนักความมั่นใจชัดเจน และน่าจะดู ”พร้อมแล้ว” ทั้ง ”คน” และ ”พรรค” และ ”อำนาจ คสช.” ที่ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในตัว “ว่าที่แคนดิเดตนายกฯ ” ที่ชื่อ ”พล.อ.ประยุทธ์” ที่วันนี้แต่งตัวรอ พร้อมประกาศเป็น ”นักการเมืองเต็มตัวแล้ว” ถัดจากนี้เพียงแค่ ”ขอเวลาอีกไม่นาน” สำหรับขั้นตอน ”ตอบรับ” เทียบเชิญตาม ”ธง” ที่วางไว้ก่อนจะถึงช่วงกลางเดือนมกราคม 62 ที่เป็นวันรับสมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ ที่พรรคต้องแจ้งชื่อนายกฯ ในบัญชีของแต่ละพรรค

…ก็เท่านั้น…

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook