สวนดุสิตโพลล์ชี้ "ย้ายพรรค" ไม่เป็นผล คนชอบยังเลือกเหมือนเดิม

สวนดุสิตโพลล์เผยตัวเลขคนไทย 54% ไม่สนนักการเมืองย้ายพรรค หากชอบก็จะเลือกเหมือนเดิม ชี้เป็นสิทธิ์ตามประชาธิปไตยใครจะย้ายไปไหนก็ได้ ขอให้ทำงานดี

2 ธ.ค. 2561 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน หรือ “สวนดุสิตโพลล์” ในหัวข้อ ประชาชนคิดอย่างไรกับการย้ายพรรคของนักการเมือง โดยสอบถามความเห็นประชาชนทั่วประเทศรวม 1,180 คน ระหว่างวันที่ 28 พ.ย.-1 ธ.ค. 2561 หลังจากที่ครบกำหนดการสังกัดพรรคการเมืองของนักการเมืองในวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องให้มีคุณสมบัติสังกัดพรรคการเมืองอย่างน้อย 90 วัน หากจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 

ผลสำรวจพบว่าประชาชน 38% มองว่าการย้ายพรรคเป็นสิทธิ์ส่วนบุคคลที่สามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย ขณะที่อีก 29% เห็นว่านัการเมืองย้ายพรรคเพื่อผลประโยชน์ ความมั่นคง และความก้าวหน้า และอีก 19% เห็นว่าไม่ว่านักการเมืองจะอยู่พรรคใด หากตั้งใจทำงานก็จะพัฒนาประเทศได้ดีขึ้น

ส่วนคำถามไฮไลท์คือ การย้ายพรรคจะมีผลต่อการเลือตั้งส.ส.หรือไม่ ประชาชนกว่า 51% ตอบคำถามนี้ว่า มีผล เพราะมีความรู้สึกกระทบกับความเชื่อมั่น เชื่อใจที่จะลดลง เพราะประชาชนจะพิจารณาจากพรรคที่ชอบ และแต่ละพรรคก็จะมีนโยบายที่แตกต่างกัน

ส่วนอีก 48% เชื่อว่าไม่มีผล เพราะการเลือกตั้งส.ส.จะพิจารณาจากบุคคล ชอบใครก็จะชอบเหมือนเดิม และดูจากผลงานการทำงานที่ผ่านมา อีกทั้งหากมีความรู้ความสามารถ อยู่พรรคไหนก็สามารถทำงานได้

 ส่วนคำถามที่ว่า หากอดีตส.ส.ที่เคยเลือกย้ายพรรค ประชาชนจะยังเลือกส.ส.ผู้นั้นให้ทำหน้าที่แทนอีกหรือไม่ ประชาชนถึง 54% ตอบว่ายังเลือก เพราะชื่นชอบเหมือนเดิม และการย้ายพรรคก็เป็นเหตุผลส่วนตัวของนักการเมือง แต่อีก 45% ตอบว่าไม่เลือก เพราะชอบพรรคมากกว่า ส่วนนักการเมืองที่ย้ายพรรคจะขาดอุดมกาณณ์ ไม่มีจุดยืน