คืบหน้า-ศพสาวใหญ่จมสระ มือ-เท้าถูกเชือกมัดถ่วงกระบะปูน จนท.มุ่งปมฆ่าตัวตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีพบศพหญิงสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก็อต กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน มีเชือกผูกที่ข้อเท้าทั้งสองข้าง ข้อมือหนึ่งข้างถูกมัดติดกัน ผูกด้วยกระบะปูนลักษณะเป็นกระบะปูนใช้สำหรับให้อาหารไก่มีน้ำหนักกว่า 10 กิโลกรัม

ทราบชื่อต่อมาชื่อ นางมาลา อายุ 48 ปี พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ จมน้ำเสียชีวิตอยู่ในสระน้ำดังกล่าว

ล่าสุด ( 22 พ.ย. 61 )  ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง  บ้านโอรุณ  หมู่ที่ 10  ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นงานศพของ นางมาลา  ได้พบ นายสุรวุฒิ  สามีผู้ตาย โดยภายในงานศพมีการจัดแบบเรียบง่ายตามประสาชาวบ้าน มีเพื่อนบ้านและญาติๆ ต่างก็เดินทางมาร่วมงานอย่างต่อเนื่อง

นายเสวย  อายุ 67 ปี พ่อสามีผู้ตาย ชาว ต.หนองใหญ่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์  กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้มาหาตนและภรรยาที่บ้าน พร้อมกับเข้ามากราบตนทั้งสองแล้วพูดว่า มาลาจะไปอยู่กับแม่สักพักก่อน ตนทั้งสองก็ไม่ได้คิดอะไร

พร้อมกันนี้ผู้ตายยังบอกว่าขอข้าวสารไปหุงหน่อย ตนจึงได้ตักข้าวสารให้ไป จากนั้นช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ตนได้รับโทรศัพท์ของลูกชายว่า นางมาลา ได้จมน้ำตายแล้ว ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก

นายสุรวุฒิ  อายุ 47 ปี สามีผู้ตาย กล่าวว่า ภรรยาตนนั้นป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและได้รับการรักษาตัวตามแพทย์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ตนนั้นได้ออกไปช่วยพี่เขยเก็บข้าวเปลือกที่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านกลับถึงบ้านเวลา  21.00 น. ไม่เจอภรรยา จึงได้ออกตามหาจนมาพบรองเท้าถอดอยู่บริเวณริมสระน้ำ และพบผ้าถุงแขวนไว้กับเปลใต้ต้นไม้

จึงคิดว่าน่าจะจมน้ำ จึงได้ลงไปงมหาแต่ก็หาไม่เจอ จึงได้รีบโทรแจ้ง191 เพื่อประสานชุดประดาน้ำจากสมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุด อ.ปราสาท และหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ ใช้อุปกรณ์ชุดประดาน้ำ เพื่อลงทำการค้นหาในสระน้ำ ใช้เวลาค้นหานานกว่า 30 นาที จึงพบร่างพร้อมกับนำร่างขึ้นมาจากสระน้ำดังกล่าว

พ.ต.อ.คารม  บุญสด ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรปราสาท กล่าวว่า นายสุรวุฒิ สามีผู้เสียชีวิต มีอาชีพทำนาทำไร่ แล้วยังเป็นอาสาปศุสัตว์ ประจำหมู่บ้าน ซึ่งบางครั้งต้องออกไปทำงานนอกบ้านอยู่เป็นประจำ ทำให้ภรรยาซึ่งมีโรคประจำตัวอยู่แล้วเกิดความระแวงสงสัยในพฤติการณ์ของสามี เกรงว่าจะไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น 

พร้อมกันนี้ยังพบว่า ผู้ตายได้มีการวางแผนฆ่าตัวตายมานานแรมปี  เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจพบ จดหมายลาตาย เขียนด้วยลายมือผู้ตาย สั่งเสีย เมื่อ 2 ตุลาคม 2560 จำนวน 1 ฉบับ ระบุถึงสามีกับลูกๆ สองคน ข้อความว่า

“ให้จัดพิธีการศพอย่างเรียบง่ายที่สุด สวดศพเพียงครั้งเดียวแล้วเผาทันที ไม่ต้องเปิดเพลงธรณีกรรแสง เชื่อในสิ่งที่ตนเองทำ บุญกรรมไม่มีอะไรทดแทนได้ โปรดทำตามที่ข้าพเจ้าเขียนไว้ สิ่งใดที่ข้าพเจ้าทำไม่ดีกับท่านทุกคนโปรดอโหสิกรรม ให้ข้าพเจ้าด้วย ขอให้ท่านหมดเวรกรรม หมดกรรมกัน แต่เพียงชาตินี้”

และยังมีจดหมายจัดการทรัพย์สิน ไม่ลงวันที่ จำนวน 1 ฉบับ ระบุว่า “ถึงจุก จะเลิกกับจุกไป ก็คงไม่มีความสุข ไม่อยากเจออะไรอีกแล้ว บอกลูกแรก และลูกแบงค์ อย่าทิ้งยายนะ นา 5 ไร่ กับ 2 ไร่กว่า 5 ไร่ ขายให้แรกไปปลูกบ้าน ที่เหลือถ้ายายแกไม่ให้ก็ค่อยขายทองให้แรก ที่เป็นหนี้ก็ทยอยให้แกไป ทองให้แรกไว้แต่งเมีย แหวนของแบงค์ที่ย่าให้” 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบยาคลายเครียด รพ.ปราสาท ของผู้ตาย จำนวน 2 ซอง ลงวันที่ 10 พ.ย. 61 , ใบนัดของแพทย์ แผนก สุขภาพจิต รพ.ปราสาท นัดผู้ตายวันที่ 15 พ.ย.61  ซึ่งจดหมายที่พบในบ้านญาติของผู้ตาย และฝั่งสามี ยืนยันว่าเป็นลายมือของผู้ตายจริง 

จากนั้นญาติได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ไม่ติดใจในการเสียชีวิตครั้งนี้  แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลพิสูจน์จากโรงพยาบาลสุรินทร์อีกครั้ง