START YOUR IMPOSSIBLE “หนึ่ง จักรวาร" จากเด็กสลัมสู่คนดนตรีแถวหน้าระดับประเทศ

START YOUR IMPOSSIBLE “หนึ่ง จักรวาร" จากเด็กสลัมสู่คนดนตรีแถวหน้าระดับประเทศ

START YOUR IMPOSSIBLE “หนึ่ง จักรวาร" จากเด็กสลัมสู่คนดนตรีแถวหน้าระดับประเทศ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในวันนี้ หนึ่ง - จักรวาร เสาธงยุติธรรม ถือเป็นนักดนตรีมือระดับพระกาฬ ไม่ว่าจะในฐานะของนักเปียโน โปรดิวเซอร์ หรือมิวสิกไดเร็กเตอร์ ผลงานทุกชิ้นของเขาได้รับการขนานนามว่ามาสเตอร์พีช จนกลายเป็นหนึ่งในตำนานที่ศิลปินรุ่นเล็กรุ่นใหญ่อยากร่วมงานด้วย เบื้องหลังเส้นทางสู่ความสำเร็จก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่คือชีวิตอันกล้าหาญของชายที่ลุกขึ้นมาสู้กับความยากลำบาก อุปสรรค และความเป็นไปไม่ได้นานัปการ

ด้วยเหตุนี้เอง TOYOTA จึงไม่ลังเลที่จะนำชีวิตของบุคคลที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการเริ่ม START YOUR IMPOSSIBLE อย่างแท้จริง มาถ่ายทอดเพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนไทยลุกขึ้นมาทำสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ โดยไม่ใช่แค่คำคมสวยหรู แต่เป็นชีวิตจริงจากชายที่ชื่อหนึ่ง จักรวาร

เมื่อดนตรียังมีหลายจังหวะ ชีวิตของหนึ่ง จักรวารก็เช่นกัน

ผู้ชายคนนี้บอกชัดว่าชีวิตเขาไม่ได้สวยงาม เขาเติบโตมาในสลัมคลองเตย ทุกเช้าต้องตื่นมาเห็นคนนอนตายอยู่หน้าบ้านคาเข็มฉีดยาเพราะติดผงขาว เพื่อนในวัยเดียวกันก็โดดเรียนทุกวันไปเสพยา ส่วนคุณพ่อขาพิการ ทำงานขับรถลากจูงอยู่ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย

ยิ่งย้อนอดีต ผู้ชายคนนี้ยิ่งเล่าเรื่องราวต่างๆ อย่างออกรสมากกว่าเดิม เขาบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องน่าอาย เพราะสถานะความจนของเขาจะทำให้ทุกคนเห็นชัดว่า ไม่ว่าใครก็ประสบความสำเร็จได้ “แม้กระทั่งเด็กสลัมคลองเตยแบบผมที่ดูไร้โอกาส และต้องใช้ชีวิตท่ามกลางการพนันและอบายมุขมากมาย ผมคิดว่าที่ตัวเองมีทุกวันนี้ได้ ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่มันคือความพยายาม ความดิ้นรน ความอดทน ดังนั้น ผมไม่เคยอายที่จะบอกใครว่าตัวเองเป็นเด็กคลองเตย”

“ไม่มี ไม่ได้แปลว่าทำไม่ได้” แค่กล้า Start Your Impossible

ผู้ชายคนนี้ฝึกเล่นดนตรีครั้งแรกในจินตนาการ

หนึ่งในความโชคดีที่สุดในชีวิตวัยเด็กของหนึ่ง จักรวาร คือคุณพ่อ “พ่อผมไม่ได้เป็นครูเพลง แต่งเพลงไม่ได้ แต่ร้องเพลงเป็น และที่สำคัญคือ รู้วิธีดึงศักยภาพของนักร้องออกมา ทำให้ทุกวันเราจะเจอลูกศิษย์ของคุณพ่อหมุนเวียนกันเข้ามาเรียนตลอด มีคุณอาไวพจน์ เพชรสุพรรณ, อาจารย์ชินกร ไกรลาส, สายัณห์ สัญญา หรือพุ่มพวง ดวงจันทร์ เวลาที่คุณพ่อสอน ผมชอบที่จะนั่งฟัง พ่อสอนเสมอว่าบ้านเราจน ให้ใช้จินตนาการแทนเครื่องดนตรี แต่ผมเคยมีคีย์บอร์ดเล็กๆ อยู่อันหนึ่ง เวลาพ่อสอนใครร้องเพลง พ่อจะให้เรากดโน้ตตาม เสียงไปทางไหนก็ให้หาให้เจอ ส่วนเรื่องโน้ต เรื่องคอร์ดเป็นแบบไหน ไม่รู้จัก”

ผ่านไปไม่นานเด็กวัย 7 ขวบแบบเขาก็ได้ยินเสียงจากพ่อบอกให้ลองทำวงดนตรี เพื่อไปเล่นตามบ้านเพื่อน งานโกนจุก งานบวชตามต่างจังหวัด "ผมก็ลองทำไปมั่วๆ ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีก็เล่นสดตามโจทย์ที่ได้รับจากคุณอาแต่ละท่านที่ให้เกียรติมาร่วมร้อง ถามว่าตอนนั้นเล่นเป็นไหม ตอบได้เลยว่าแค่เอาตัวให้รอดเท่านั้นเอง”

จากวันนั้นถึงวันนี้ เขามองย้อนกลับไปแล้วสรุปได้ว่าการฝึกเอาตัวรอดตั้งแต่เด็ก รู้จักเล่นสด และปรับตัวให้เข้ากับความต่างของนักดนตรีแต่ละคน สิ่งเหล่านี้คือพื้นฐานที่ผลักดันเขาให้มาไกลจนถึงจุดนี้

เหนื่อยแต่ต้องทนกับทฤษฎีครูพักลักจำ

เมื่อถึงคราวเข้าเรียนมัธยม แน่นอนว่าหนึ่ง จักรวารเลือกเรียนที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ แต่เพราะไม่รู้จักเครื่องดนตรี ไม่รู้ว่าชิ้นไหนทำหน้าที่อะไร ทำให้เขาจับพลัดจับผลูไปเลือกวิชาเอกเป็นไวโอลิน

“ตอนนั้นก็คิดว่าน่าจะชอบไวโอลิน แต่พอได้ยินเสียงเปียโนเท่านั้นล่ะ รู้เลยว่านี่แหละทางของเรา ประกอบกับได้รู้มาว่าเปียโนนี่แหละจะสร้างเงินได้เยอะที่สุดตามประสาของครอบครัวที่ไม่มีจะกิน เราเลยต้องดิ้นรนเล่นเปียโนให้ได้” แต่เพราะไม่ได้ลงเรียนเปียโนเป็นวิชาเอกทำให้เขาไม่มีสิทธิ์จับเปียโน ทางเดียวที่เขาจะทำความรู้จักกับมันได้คือ ต้องใช้หลักการแบบครูพักลักจำ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ หนึ่ง จักรวาร แอบเรียนเปียโนด้วยตัวเอง ในที่สุดฝันด่านแรกของเขาก็เป็นจริง “ผมได้เล่นเปียโนในคาเฟ่เป็นครั้งแรก”

“คำด่าคือของหวาน”  ผมโหยหามัน เพราะมันทำให้ผมอยากที่จะทำให้ดีกว่าเดิม

บทเรียนในคาเฟ่สำหรับ หนึ่ง จักรวาร เรียกได้ว่าโหด “ด้วยความที่เราอ่านโน้ตไม่เป็นทำให้ทุกอย่างลำบาก เพราะคาเฟ่สมัยก่อนจะเล่นโดยการยึดโน้ตเป็นหลัก ตอนนั้นโดนด่ากระจาย แต่เราก็ทน เพราะอยากเล่น ผ่านไปสักพักคนในทีมก็เริ่มจับทางกันได้ว่าให้โน้ตวันนี้ ผมเล่นไม่ได้ อีกวันมันเล่นได้แน่นอน เพราะมันกลับไปฝึกมา ส่วนข้อดีที่สุดของการเล่นแบ็คอัพในคาเฟ่คือ ผมได้เจอกับนักร้องเยอะมาก ทำให้ได้เล่นเพลงที่หลากหลายกว่าเดิม ทั้งไทย จีน ลูกทุ่ง สากล มาครบหมด ไม่ถนัดก็ต้องเล่นให้ได้”

จากเด็กสลัม สู่แบ็คอัพในวงคาเฟ่ และก้าวสู่แถวหน้าของวงการบันเทิง

หลายคนมองความสำเร็จของ หนึ่ง จักรวาร ในวันนี้ว่าหอมหวานและน่าอิจฉา ทว่าเขากลับบอกว่าอยากให้มองย้อนกลับไปในอดีตว่าเส้นทางของเขาไม่ได้สวยหรู กว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายต่อหลายด่าน ไหนจะกิเลสในตัวเอง อบายมุขรอบตัว คำด่า ความยากจน เสียงดูแคลน และความเหนื่อยแบบที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน

“ไม่มีคำว่าเป็นไปไม่ได้ในพจนานุกรมชีวิตของผม” หนึ่ง จักรวารยืนยันหนักแน่น พร้อมบอกว่าเคล็ดลับความสำเร็จของเขามีเพียงสิ่งเดียวคือ “อดทน”

ไม่ใช่เพียงแค่คุณหนึ่ง จักรวาร แต่เราทุกคนสามารถบันทึกคำว่า ‘ความสำเร็จ’ ลงในพจนานุกรมชีวิตได้

แค่เริ่ม START YOUR IMPOSSIBLE

โตโยต้าเองก็เริ่ม START YOUR IMPOSSIBLE แล้วเช่นกัน โดยมีพันธกิจที่จะเป็นมากกว่าบริษัทรถยนต์ แต่มุ่งเป็นบริษัทแห่งการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นการผลิตหุ่นยนต์ หรือเครื่องมือช่วยผู้พิการในการเคลื่อนไหว เพราะโตโยต้าเชื่อว่าเมื่อสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ‘ทุกสิ่งก็เป็นไปได้’

วันนี้ TOYOTA ขอชวนคนไทยร่วม START YOUR IMPPOSSIBLE ไปด้วยกันในกิจกรรม Start Your Impossible Challenge เริ่มทำใน ‘สิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้’ ที่ https://toyotasyithailand.com ง่ายๆ เพียงแค่

  • ส่งเรื่องราว Start Your Impossible Challenge ของคุณมาที่ https://toyotasyithailand.com พร้อมหลักฐานที่ได้ลงมือทำจนสำเร็จ  
  • แชร์ challenge ของคุณ แล้วชวนให้เพื่อนๆ มาร่วมโหวตได้ที่ช่องทางเดียวกันนี้ พร้อมลุ้นรับของรางวัลมากมาย
  • ตั้งแต่วันนี้ – 30 พฤศจิกายน 2561

(Advertorial)

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook