"โซเชียลทำผมเจ็บ" พ่อพาลูกขับรถชนครูมอบตัว โดนทั้งคู่คนละ 3 ข้อหา

"โซเชียลทำผมเจ็บ" พ่อพาลูกขับรถชนครูมอบตัว โดนทั้งคู่คนละ 3 ข้อหา

"โซเชียลทำผมเจ็บ" พ่อพาลูกขับรถชนครูมอบตัว โดนทั้งคู่คนละ 3 ข้อหา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งชนรถจักรยานยนต์รอเลี้ยวเข้าซอย ทำให้ นางสาวฐานินทรา หรือ ครูนิก อายุ 32 ปี เสียชีวิต ส่วนลูกสาวและลูกชายที่นั่งซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ และมีการสลับตัวผู้รับผิดเกิดขึ้น ทำให้กลายเป็นข้อสงสัยแคลงใจ กระทั่งสุดท้ายพ่อผู้ก่อเหตุสารภาพว่ารับผิดแทน เพราะความสงสารลูกชาย

(7 พ.ย.) ล่าสุด 15.15 น. นายจรัญ อายุ 66 ปี พร้อมกับลูกชาย นายพศิน อายุ 43 ปี และนายสุทธินัย สุรินทร์ ทนายความ ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นมาในโรงพักนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครตอบคำถามกับผู้สื่อข่าว จากนั้นได้เดินทางเข้าไปยังห้องสอบสวนโดยมี พ.ต.อ.อมรชัย ปัญญา ผกก.สภ.ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ และ พ.ต.ท.อำนาจ ทองแท้ สว.สอบสวน พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเข้าสอบปากคำ

นายจรัญ รับสารภาพกับ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แก้วดวงโต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ว่า ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะรับผิดแทนลูก แต่ในช่วงเวลาเกิดเหตุหลังจากลูกชายโทรศัพท์มาบอกก็ได้รีบไปหาเพราะเป็นห่วง โดยบ้านอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กม. เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้บอกให้ลูกชายกลับบ้านไปเอาเอกสารที่จำเป็นจะต้องใช้มอบให้กับตำรวจ แต่ระหว่างนั้นร้อยเวรมาถึงที่เกิดเหตุพอดี จึงเข้าไปยอมรับแทนลูกชาย

สาเหตุที่ทำแบบนี้นายจรัญบอกว่าเป็นเพราะลูกชายที่เปิดกิจการรับทำสื่อสิ่งพิมม์เป็นเสาหลักของครอบครัว กลัวว่าหากติดคุกจะทำให้ครอบครัวลำบาก ตนเองก็อายุมากและยังป่วยโรคไขข้อไม่มีแรงทำงานหาเงิน เรื่องที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากและรู้ตัวว่าตัดสินใจผิดพลาด เมื่อวานนี้ก็ได้ไปกราบขอโทษคุณแม่ของคุณครูที่งานศพ

นายจรัญ พ่อผู้ก่อเหตุ

นายจรัญ ยังบอกด้วยว่า การนำเสนอข่าวของสื่อทำให้ตนเองรู้สึกกดดัน พร้อมบอกด้วยว่า “โซเชียลทำผมเจ็บมาก” และยังทำให้ครอบครัวได้รับผลกระทบ ลูกหลานไม่กล้าไปโรงเรียน

ขณะที่นายพศิน ให้การรับสารภาพด้วยเสียงสั่นเครือว่ารู้สึกผิดและขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น  โดยวันเกิดเหตุเมื่อพ่อมาถึงเห็นตนเองตกใจมากจึงให้ตนเองกลับบ้านไปก่อน ไม่นึกว่าพ่อจะยอมรับผิดแทน ตนเองรู้สึกผิด วันรุ่งขึ้นก็ได้เข้าไปกราบศพและเข้าไปกราบเท้าสารภาพกับแม่ของผู้ตายและขอโทษกับสิ่งผิดพลาดที่ไม่ได้ตั้งใจ

ส่วนสาเหตุที่พ่อรับผิดแทน เป็นเพราะตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัว และ พ่อรักตนเองมาก เป็นห่วงว่าถ้าเกิดคดีความขึ้นครอบครัวจะลำบาก เหตุครั้งนี้ไม่ใช่ตนเองไม่สำนึก แต่สื่อตัดเพียงแค่บางส่วนไปนำเสนอ ส่วนการช่วยเหลือครอบครัว จะเข้าเจรจากับครอบครัวผู้เสียหายเพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง  

ขณะที่ พ.ต.อ.สุวัฒน์ แก้วดวงโต รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ บอกว่า ในส่วนของนายจรัญแม้จะมีข้ออ้างต่างๆ แต่การกระทำเป็นความผิดชัดเจน โดยพนักงานสอบสวนจะทำบันทึกคำให้การ พร้อมกับสรุปสำนวนเตรียมนำตัวส่งฟ้องศาลแขวงในข้อหาแจ้งความเท็จในวันพรุ่งนี้ ส่วนนายพศินหลังแจ้งข้อหาจะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเชียงใหม่ผัดแรกในเช้าวันพรุ่งนี้

สำหรับการแจ้งข้อหา นายจรัญ ผู้เป็นพ่อถูกแจ้งในความผิดฐาน "แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน, แจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย และช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษเพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ ช่วยซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม"

ส่วนนายพศิน ที่เป็นคนขับรถชน ก็ถูกแจ้งในฐานความผิด "ขับรถในทางโดยประมาท เป็นเหตุให้มีผู้อื่นถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทรัพย์สินเสียหาย, ขับรถแซงเพื่อขึ้นหน้ารถอื่นภายในระยะ 30 เมตรก่อนถึงทางร่วมทางแยก และขับรถก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรและพร้อมแสดงตัว และแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook