ตำรวจภูเก็ตสนธิกำลังจับ 2 โจรก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ "ร้านขายของชำ" ในพื้นที่
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/ns/0/ud/1512/7561934/10.jpgตำรวจภูเก็ตสนธิกำลังจับ 2 โจรก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ "ร้านขายของชำ" ในพื้นที่

    ตำรวจภูเก็ตสนธิกำลังจับ 2 โจรก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์ "ร้านขายของชำ" ในพื้นที่

    2018-11-01T18:52:41+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    ตำรวจภูเก็ตสนธิกำลังจับ 2 โจร ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ร้านของชำพื้นที่ ต.ฉลอง จ.ภูเก็ตได้แล้วที่ จ.พัทลุงและสงขลา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ อ้างทำเพราะตกงานและลูกยังเล็กไม่มีเงินใช้จึงจำเป็นต้องชิงทรัพย์ดังกล่าว

    วันนี้ (1 พ.ย. 61) พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง พ.ต.ต.อนุรักษ์ กลางณรงค์ สว.สส.สภ.ฉลอง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธร จ.ภูเก็ต และชุดสืบสวน สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต

    นำตัวนายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม อายุ 32 ปี และนายภูวนาถ หรือน้ำ อายุ 27 ปี สองคนร้ายที่ก่อเหตุไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณร้านของชำเลขที่ 43/66 ซ.ทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

    สถานที่เกิดเหตุหลังเจ้าหน้าที่ใช้เวลาติดตามตัวประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนจะสามารถจับกุมตัวที่สองรายได้ที่ จ.สงขลา และที่ จ.พัทลุง โดยมีเจ้าของร้านผู้ประสบเหตุและชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงมาดูการทำแผนจำนวนมาก แต่ก็เป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย

    โดยเจ้าหน้าที่นำนายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม ทำแผนตอนที่เดินเข้ามาดูลาดเลาและทำทีเป็นมาซื้อของ จากนั้นทำแผนตอนที่นำรถจักรยานยนต์มาจอดข้างร้านหลบกล้องวงจรปิด เพราะมาดูลาดเลาหลายครั้งจนทราบมุมกล้อง

    และนายนัฐวุฒิ หรือเอ็มได้เดินเข้าไปใช้มีดจี้คอนางสาวเมิน และนายภูวนาถ หรือน้ำ ตามเข้ามารื้อลิ้นชักและนำเงินสดไปและดึงมือนายนัฐวุฒิและวิ่งไปขึ้นรถและหลบหนีไปออกซอยข้างหมู่บ้านภูเก็ตวิลล่า 3 และวกกลับมาเข้าตรงปาก ซ.ทรงคุณ ไม่ไกลจากร้านผู้เสียหายมากนัก

    หลังทำแผนนายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม และนายภูวนาถ หรือน้ำ ไหว้ขอโทษผู้เสียหายว่าไม่ได้ตั้งจี้ชิงทรัพย์ แต่เพราะว่างงานไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกและไม่มีเงินใช้จ่ายจึงคิดสั้นดังกล่าว ทางผู้เสียหายก็ให้อภัยและกล่าวว่าออกจากคุกมาแล้วอย่าคิดสั้นแบบนี้อีก และไม่ถือโทษใดๆ

    จากรณีเมื่อวันที่ (23 ต.ค. 61) ที่ผ่านมา พ.ต.ต.คะแนน สมรักษ์ สว. (สอบสวน) สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งว่า มีเหตุ 2 คนร้ายใช้อาวุธป้ายแหลมบุกเข้าไปชิงทรัพย์ที่ร้านขายของชำ เลขที่ 43/66 ซ.ทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

    ซึ่งได้เงินสดประมาณ 3,000 กว่าบาท และสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่กล้องวงจรปิดของร้านสามารถบันทึกภาพขณะคนร้ายที่ก่อเหตุได้อย่างชัดเจน

    จนกระทั่งทางชุดสืบสวน สภ.ฉลอง และชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.ภูเก็ต เร่งสอบสวนและตามภาพจากล้องวงจรปิและจากปากคำพยานทำให้ทราบคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม อายุ 32 ปี และนายภูวนาถ หรือน้ำ อายุ 27 ปี

    ทั้ง 2 เช่าบ้านอยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุมากนัก และนายเอ็มเคยมาซื้อของที่ร้านดังกล่าวหลายครั้ง พนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง จึงได้ขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติออกหมายจับคนร้ายทั้ง 2 คนและทราบว่า ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.ภูเก็ตไปยังบ้านเกิดที่ จ.สงขลา และพัทลุง

    ซึ่งทางชุดสืบสวน สภ.ฉลองได้ไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด จนกระทั่งล่าสุด เมื่อวันที่ (31 ต.ค.61) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ต.วิศาล พันธุ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.เสริมพันธุ์ ศิริคง รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต

    พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลอง นำโดย พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รองผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ต.อนุรักษ์ กลางณรงค์ สว.สส.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่ขุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ ชุดสืบสวนสภ.ฉลอง

    ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายภูวนาถ หรือน้ำ อายุ 27 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 491/61 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2561 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐานร่วมกันชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีและใช้อาวุธ (มีด)

    โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 4/1 ซ.17 ถ.ทะเลหลวง ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา และได้นำตรวจยึดสิ่งของที่ใช้ก่อเหตุประกอบด้วย หมวกกันน๊อคและอาวุธมีด ที่บ้านเลขที่ 1/38 ซ.ทรงคุณ ม.1 ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต

    และจับกุม นายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม ดิสสระ อายุ 32 ปี ที่อยู่15/1 ม.1 ต.รำแดง อ.สิงหนคร จ.สงขลา ตามหมายศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ 487/2561 ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2561 สามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านเช่าไม่มีเลขที่ สี่แยกโพธิ์ทอง ม.10 ต.ดอนทราย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

    นำมาทำการสอบสวนที่ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ต นายนัฐวุฒิ หรือเอ็ม ผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพว่า ตนได้ชักชวนนายภูวนาถ หรือน้ำ ซึ่งเป็นเพื่อนกันไปก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากตนและนายน้ำตกงานไม่มีงานทำ เพราะไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกและไม่เงินใช้จ่ายเลย

    และเห็นว่าเจ้าร้านดังกล่าวนั้นสวมสร้อยคอทองคำตอนไปซื้อของและเห็นว่าสถานที่ค่อนข้างเปลียว จึงชักชวนนายน้ำให้ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งทรัพย์สินที่มาได้เป็นเงินสด 4,000 บาท สร้อยทองคำหนัก 1 บาท

    จากนั้นนำสร้องคอทองคำไปขายได้เงินมา 16,000 บาท รวมเงินเป็น 20,000 บาท จึงแบ่งให้นายน้ำ 10,000 บาท และตนได้ 10,000 บาท จากนั้นได้แยกย้ายกันหลบหนีก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้ในที่สุด

    พ.ต.อ.ภคยศ ทนงศักดิ์ ผกก.สภ.ฉลองอ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่าหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำภูธร จ.ภูเก็ต ได้ออกทำการสืบสวนโดยทันทีจนทราบว่าคนร้ายเป็นใครอยู่ที่ไหน และขอศาลออกหมายจับ

    จากนั้นจึงติดตามไปจับกุมจนสามารถจับกุมได้ดังกล่าว เพราะคนร้ายไม่ใช่มืออาชีพ เป็นมือสมัครเล่นมีการทิ้งร่องรอยไว้ให้เจ้าหน้าที่ตามร่องรอยได้จนนำมาสู่การจับกุมในครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหายทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาทำไปเพราะตกงาน

    นางสาวเมิน เกตุแก้ว ผู้เสียหายกล่าวว่าดีใจที่เาหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้ง 2 คน และไม่คิดโกธรแค้นอะไรเพียงแต่ขอว่าออกจากคุกมาแล้วอยากทำแบบนี้อีก และขอร้องโจรทั้งหลายว่าอย่าทำร้ายเจ้าทรัพย์เลยเอาแต่ทรัพย์สินไปก็พอ ทุกวันนี้ก็ยังหวาดกลัวอยู่เลยเนื่องจากพึงเจอเหตุแบบนี้เป็นครั้งแรก