แม่สะอื้นแบกอุ้มลูกพิการขึ้นโรงพัก สุดแค้นพ่อเลี้ยงข่มขืนทั้งวันทั้งคืน

แม่สะอื้นแบกอุ้มลูกพิการขึ้นโรงพัก สุดแค้นพ่อเลี้ยงข่มขืนทั้งวันทั้งคืน

แม่สะอื้นแบกอุ้มลูกพิการขึ้นโรงพัก สุดแค้นพ่อเลี้ยงข่มขืนทั้งวันทั้งคืน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่จูงมือลูกสาวพิการ เดินเหินไม่ได้ แต่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนทั้งวันทั้งคืน ต้องแบกอุ้มลูกขึ้นโรงพักมาเข้าแจ้งความ...ออทั้งน้ำตา

(30 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางหนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 54 ปี ได้พา นางสาวพลอย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ลูกสาวที่พิการเดินไม่ได้ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชณัฐชัย วงศ์ศรีวิจิตร รองสว.(สอบสวน) สภ.มะนัง จ.สตูล โดยระบุว่าระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคมที่ผ่านมา ลูกสาวได้ถูก นายจำเนียร พ่อเลี้ยง อายุ 64 ปี ก่อเหตุข่มขืนในขณะที่อยู่ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้

เหตุดังกล่าวเกิดขณะที่ตนไม่อยู่บ้าน ออกไปทำงานรับจ้างนอกบ้าน โดยลูกสาวถูกข่มขู่ไม่ให้บอกใครและถูกกระทำมาหลายครั้งจนทนไม่ไหว และได้เล่าให้ตนฟังซึ่งตนได้ถามสามีของตนซึ่งเป็นพ่อเลี้ยง แต่ก็ปฏิเสธจึงได้แบกลูกสาวขึ้นโรงพักแจ้งความดังกล่าว

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะนัง ได้ส่งตัว น.ส.พลอย ไปตรวจร่างกายที่ รพ.มะนัง พบร่องรอยถูกข่มขืนจริง จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ และได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาที่บ้านในความผิดฐาน ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจค้นที่บ้านของนายจำเนียร ได้พบปืนยาวลูกซอง ซ่อนอยู่บริเวณแผ่นสังกะสีบนหลังคาจึงได้แจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติอีกข้อหา

สำหรับสามีเก่าของนางหนึ่ง พ่อของนางสาวพลอยได้เสียชีวิตแล้ว ก่อนจะอยู่กินกับพ่อเลี้ยงที่ก่อเหตุตั้งแต่ปี 2558 อยู่ได้เพียง 6 เดือน สามีใหม่ก็เริ่มออกลายและข่มขู่ต่างๆ นานา ก่อนหน้านี้ก็เคยมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานว่าถูกข่มขู่เมื่อปี 2559 ไปแล้วครั้งหนึ่ง

นางหนึ่ง เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนทำมาหากินเลี้ยงทั้งสามีและลูก ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 ได้เดินทางไปงานศพญาติที่ต่างจังหวัด นายจำเนียรก็ข่มขืนลูกสาวของตนแบบทั้งวันทั้งคืน และเมื่อลูกสาวทนไม่ไหวก็มาบอกตน รู้สึกเสียใจมาก อุตส่าห์ไว้ใจฝากลูกไว้กับมาทำกับลูกตนแบบนี้ แต่เมื่อสอบถามสามีก็ปฏิเสธ แต่ตนเชื่อลูกสาวว่าพูดความจริง เพราะเขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ถูกกระทำคืออะไร เขาเล่าถึงลักษณะที่ถูกกระทำว่าพ่อเลี้ยงทำแบบนี้

เมื่อตนออกไปเติมเงินโทรศัพท์กลับมาก็ได้ยินสามีกำลังขู่และสอนลูกสาวว่าให้บอกตนใหม่ ตนจึงทนไม่ไหว พาลูกไปแจ้งความทันที ตอนนี้ตนอยากให้เขาถูกรับโทษอย่างเดียว เพราะรู้สึกกลัวมากเนื่องจากสามีเป็นคนอารมณ์ร้ายและขู่ตนว่าหากออกมาได้เมื่อเราตนกับลูกจะไม่ปลอดภัยแน่ และขอบคุณพนักงานสอบสวนที่มีเมตตาดูแลในเรื่องนี้

ส่วนในเรื่องของคดีนั้นพนักงานสอบสวนบอกว่าคดีนี้ เนื่องจากผู้เสียหายเป็นผู้พิการ ก่อนหน้านี้เคยเป็นเจ้าหญิงนิทรานานถึง 10 ปี และเพิ่งจะฟื้นสนทนาขึ้นมาได้ในปี 2557 แต่ผู้เสียหายพูดจาเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นได้หมด ต้องใช้เวลาในการสอบนานถึง 5 ชั่วโมง เพื่อให้รัดกุมที่สุด

ขณะที่ตัวแม่เองที่แบกลูกมาโรงพัก เมื่อเดินทางมาถึงขาหมดแรง จึงต้องนำไปส่งและไปตรวจสอบที่บ้านเนื่องจากถูกข่มขู่ด้วย โดยในวันพรุ่งนี้ (31 ต.ค.) จะนำส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดสตูล และทางพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวเพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหาก้าวร้าว เมาสุรากร่างผู้เสียหายเองก็กลัวไม่ปลอดภัยด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook