ท่องเที่ยวทรุดหนัก! จีนหายเกลี้ยง เผยเดือน พ.ย.ไม่มีทัวร์จองเข้าเชียงใหม่แม้แต่รายเดียว
นักท่องเที่ยวจีนหายเกลี้ยง เดือน พ.ย. ไม่มีทัวร์จองเข้าเชียงใหม่แม้แต่รายเดียว ผู้ประกอบการวอนรัฐเร่งกู้ความเชื่อมั่น แนะเจียดค่าวีซ่าทำประกันให้นักท่องเที่ยวทุกชาติ ช่วยฟื้นความเชื่อมั่นระยะเร่งด่วน
บรรยากาศตามแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งในตัวเมืองเชียงใหม่ดูบางตา ไม่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนพลุกพล่านเหมือนเช่นที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นที่ลานอเนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ จุดเช็กอินระดับแลนด์มาร์คกลางเมือง ถนนนิมมานเหมินทร์ วัดเจดีย์หลวง หรือตามท้องถนนทั่วเมือง ภาพเหล่านี้สะท้อนได้ชัดเจนถึงจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าสู่จังหวัดเชียงใหม่น้อยลง จนสร้างความหวั่นวิตกให้กับคนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่
นายมานพ แซ่เจีย ประธานชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา (กลุ่มไกด์ภาษาจีนในจังหวัดเชียงใหม่) เมื่อประเมินจากยอดการจองทัวร์ การใช้บริการรถบัสโดยสาร ยอดจองห้องพัก จะเห็นว่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจีนหายไปมากกว่าร้อยละ 50 ล่าสุดเดือนพฤศจิกายนนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวจองทัวร์เข้ามาเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่แม้แต่รายเดียว
สาเหตุที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่น้อยลงเชื่อว่ามาจากเหตุเรือล่มที่จังหวัดภูเก็ตที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ทุกวันนี้รัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนถึงสาเหตุและผู้ที่ต้องรับผิดชอบ แม้จะเยียวยาด้วยเงินชดเชย แต่ก็ไม่ได้เรียกความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ในระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเจ้าหน้าที่ทำร้ายนักท่องเที่ยวจีนที่ท่าอากาศยานดอนเมือง การเผยแพร่ข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในไทย รวมทั้งคลิปอื่นๆ ที่ถูกทำขึ้นมาเพื่อสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของไทย ทั้งหมดนี้ส่งผลโดยตรงต่อความเชื่อมั่น
อีกประเด็นสำคัญก็คือการฉวยโอกาสเอารัดเปรียบนักท่องเที่ยวที่ถือเป็นมะเร็งร้ายที่เกาะกินการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะกลุ่มทุนต่างชาติที่ใช้นอมินีเข้ามาเอาเปรียบคนชาติเดียวกัน แต่โยนความผิดให้กับคนไทย
ประเด็นเหล่านี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องลงมาดูแล โดยเฉพาะเรื่องนอมีนีกลุ่มทุนต่างชาติที่เข้ามาเอาเปรียบคนชาติเดียวกัน เป็นต้นเหตุให้นักท่องเที่ยว FIT (Free and Independent Traveler) มีมากขึ้น สวนทางกับกรุปทัวร์ที่แทบจะไม่มีเหลือ ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่มีนักท่องเที่ยวจีนจองทัวร์เข้าเชียงใหม่แม้แต่คนเดียว
ปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่อย่างรุนแรง ปีที่ผ่านมาตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาที่จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 2 ล้านคน แต่หลังจากนี้คาดว่าจะเหลือไม่ถึงครึ่ง หากยังเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาไม่ได้โดยเร็ว ก่อนที่ผู้ประกอบการทัวร์ ขนส่ง โรงแรม ร้านอาหาร จะล้มหายตายจากกันไปมากกว่านี้ รัฐบาลต้องเข้ามาเร่งแก้ปัญหา
ขณะที่ตนเองในฐานะที่เป็นหนึ่งในกลไกขอบอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เสนอว่ารัฐบาลควรเจียดรายได้จากการทำวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศไทย มาใช้ซื้อประกันกลุ่มให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยทุกชาติทุกกลุ่ม ทั้งมาแบบกรุปทัวร์และแบบ FIT เพื่อดึงความเชื่อมั่นกลับมาโดยเร็ว ก่อนที่จะตามด้วยมาตรการอื่นๆ ภายหลัง
ประชากรจีนมีกว่า 1.4 พันล้านคน ส่วนใหญ่มีกำลังซื้อ ขอฝากรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหา สร้างความเชื่อมั่นกลับคืนให้กับประเทศไทย ต้องรีบทำและทำให้เร็วที่สุดก่อนจะสายเกินแก้