พระหวิดดับ! รถยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ดีๆ คันหลังพุ่งชนท้าย 3 คันซ้อนอย่างแรง

พระหวิดดับ! รถยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ดีๆ คันหลังพุ่งชนท้าย 3 คันซ้อนอย่างแรง

พระหวิดดับ! รถยนต์จอดติดไฟแดงอยู่ดีๆ คันหลังพุ่งชนท้าย 3 คันซ้อนอย่างแรง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

วันที่ 18 ตุลาคม 2561 เวลา 10.40 น. ร.ต.อ.สายันต์ นันทะพงษ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถยนต์ชนท้ายกันจำนวน 3 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในตัวรถกีดขวางช่องทางการจราจรบริเวณที่เกิดเหตุถนนมิตรภาพ 2 อุดรธานี-ขอนแก่น

หลังจากได้รับแจ้งเหตุแล้วรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงอุดรธานีจุดบริการโนนสะอาดออกช่วยเหลือ พร้อมให้นำอุปกรณ์ตัดถ่างออกไปพร้อมออกตรวจที่เกิดเหตุพบรถตู้ส่วนบุคคล โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน นข 2826 ขอนแก่น ผู้ขับขี่คือนายวันที รินอินทร์ อายุ 62 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยปวดตามร่างกายไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ทีมกู้ภัยให้การช่วยเหลือเบื้องต้นที่จุดเกิดเหตุ

และมีผู้โดยสารนั่งมาด้วยทั้งหมด 4 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในรถซึ่งเป็นผู้โดยสารนั่งหน้าข้างคนขับ 1 ราย เป็นพระครูประภัศร์สารนิวิฐ (จำลอง สุทธิทักษ์) อายุ 75 ปี ถูกช่วงคอนโซลรถกดทับบริเวณสะโพกและเท้าทั้งสองข้าง และชิ้นส่วนประตูรถกดทับทำให้ติดภายในห้องโดยสาร ผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวดีเจ็บแน่นหน้าอกและเท้าทั้งสองข้างมีอาการทางกระดูก และแผลฉีกขาดที่เท้าและมือ

ส่วนอีก 3 รายบาดเจ็บเล็กน้อย และหน่วยกู้ภัยทางหลวงใช้ชุดอุปกรณ์ตัดถ่างนำผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถใช้เวลาประมาณ 20 นาที และเคลื่อนย้ายส่งต่อให้รถทีมกู้ชีพโรงพยาบาลโนนสะอาด เวลาต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บถูกส่งต่อโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี

ถัดมาพบรถยนต์กระบะ โตโยต้า วีโก้ สีเทาดำ ทะเบียน กต 5801 อุดรธานี มีนางปริชาติ สินทอน อายุ 44 ปี เป็นคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ และรถยนต์เก๋ง นิสสัน สีน้ำตาล ทะเบียน 1 กร 4329 กทม. ผู้ขับขี่คือน.ส.ภัลชลา ธานี อายุ 41 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บ

จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุเกิดจากการชนท้ายของรถที่วิ่งตามหลังรถจอดติดสัญญาณไฟ โดยรถยนต์เก๋งหมายเลขทะเบียน 1กร 4329 กทม. ขับมุ่งหน้าเข้าอุดรธานีจอดติดสัญญาณไฟแดงที่สี่แยกไฟแดงโนนสะอาด ตามด้วยรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน กต 5801 อุดรธานี

ในขณะรถทั้งสองคันจอดรอสัญญาณไฟอยู่นั้นมีรถยนต์ตู้วิ่งตามหลังมาชนเข้าอย่างแรง จึงทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและรถทั้งสามคันจึงได้รับความเสียหายดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook